เราเชื่อว่าผู้ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน ย่อมปรารถนาที่จะมีผลงานหนังสือของตัวเองสักครั้งในชีวิต และคงมีหลายคนที่ถูกสำนักพิมพ์ปฏิเสธต้นฉบับครั้งแล้วครั้งเล่า จนท้อใจกับเส้นทางนี้ เราไม่อยากเห็นคนมีฝันหมดกำลังใจ ถนนวรรณกรรม จึงอาสาพาไปทำความรู้จักกับ สำนักพิมพ์ Wish ซึ่งตั้งปณิธานสานฝันผู้ที่อยากมีหนังสือของตนเองให้เกิดขึ้นจริง ด้วยบริการครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการจัดทำต้นฉบับ ไปจนถึงการขายและการประชาสัมพันธ์ ด้วยประสบการณ์ในแวดวงหนังสือกว่า 25 ปีของ จารุวรรณ เวชตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท Wish กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด และผู้อำนวยการสำนักพิมพ์ Wish เธอจึงเข้าใจทุกความต้องการของผู้ที่อยากทำหนังสือ และตอบสนองได้อย่างมืออาชีพ
สำนักพิมพ์ Wish ก่อตั้งได้อย่างไร
ดิฉันทำงานอยู่ในแวดวงหนังสือมาโดยตลอด เป็นระยะเวลากว่า 25 ปี ตั้งแต่จบการศึกษา เริ่มจากสายงานด้านนิตยสาร สู่งานบริหารการตลาดสำนักพิมพ์หนังสือเล่ม จนมาก่อตั้งสำนักพิมพ์ Wish ในปี 2558
เราใช้คำว่า Wish เพราะมีความหมายของการได้รับพรอันประเสริฐ เป็นคำน่ารักๆ เราอยากให้คนที่มีฝันในการทำหนังสือนั้น เมื่อมาเจอเรา ความฝันหรือความปรารถนาจะสำเร็จและเป็นจริงได้ ปณิธานของเราคือ “สร้างสรรค์งานหนังสืออย่างมืออาชีพ ครบวงจร We Make A Wish” ด้วยประสบการณ์ 25 ปีในวงการ เราจึงสามารถดูแลงานหนังสือตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางค่ะ
สำหรับผู้ที่สนใจบริการทำหนังสือ self-publishing เขาต้องเริ่มต้นอย่างไร และสำนักพิมพ์มีบริการอะไรบ้าง
อย่างที่เกริ่นมาตั้งแต่ต้นนะคะ Wish สามารถดำเนินการได้ทั้งระบบตั้งแต่เริ่มต้นการทำหนังสือ ทั้งที่มีต้นฉบับมาแล้วหรือไม่มีต้นฉบับเลย เราสามารถให้คำแนะนำเสมือนเป็นโค้ชในการทำหนังสือ เป็นการวางแผนร่วมกันระหว่างนักเขียนกับสำนักพิมพ์เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางของการมีผลงานหนังสือ ส่วนเรื่องบริการนั้น เรามีครบตั้งแต่งานเขียนต้นฉบับ งานเรียบเรียงต้นฉบับ จัดทำรูปเล่ม ออกแบบ ตีพิมพ์ จัดจำหน่าย การตลาด การประชาสัมพันธ์ และการขายค่ะ
Wish รับต้นฉบับทุกประเภทไหม หรือมีเกณฑ์ในการรับอย่างไร
ในฐานะที่ Wish เป็นสำนักพิมพ์แนว self-publishing จึงเปิดกว้างในการรับต้นฉบับ และมีบรรณาธิการผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ คอยดูแลงาน ที่ผ่านมา Wish รับจัดทำหนังสือเกือบทุกแนว เช่น แนวพัฒนาตนเอง อัตชีวประวัติ จิตวิทยาประยุกต์ ธรรมะประยุกต์ ตำราวิชาการ บริหารธุรกิจ โดยจะแบ่งทีมงานดูแลแยกไปตามหมวดค่ะ ถามว่ารับต้นฉบับทุกประเภทหรือไม่ ส่วนใหญ่ Wish รับ ยกเว้นต้นฉบับที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีงามและไม่ก่อเกิดคุณค่าแก่สังคม เช่น เรื่องเกี่ยวกับความงมงาย หรือความเชื่อที่ปราศจากเหตุผลค่ะ
ต้นฉบับส่วนมากเป็นแนวไหน
ต้นฉบับที่นักเขียนส่งเข้ามามีความหลากหลายค่ะ ทว่าปัจจุบันมักเป็นแนวการพัฒนาตนเอง พัฒนาธุรกิจ ด้านวิชาการ และธรรมะประยุกต์
กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ Wish คือกลุ่มใด
ลูกค้าหลักของ Wish เป็นกลุ่มโค้ช ที่ปรึกษา อาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้นๆ ซึ่งมีองค์ความรู้และประสงค์จะทำหนังสือเพื่อเผยแพร่แก่สังคม
ผลงานหนังสือเด่นๆ ที่ Wish เคยทำมีอะไรบ้าง
เล่มที่คนรู้จักกันในวงกว้าง ได้แก่ เคล็ดลับอัพค่าตัว (เมื่อ 6 ปีที่แล้ว) ใจเปลี่ยนโลก, เล็กน้อย x สม่ำเสมอ = มหาศาล, ๗๔ ปี คดีสวรรคต และโครงการหนังสือธรรมะร่วมกับบุ๊คสไมล์ค่ะ
แนวทางทำการตลาดของ Wish เป็นแบบไหน
ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยทำการตลาดอย่างจริงๆ จังๆ แต่ผลงานหนังสือที่ออกสู่สาธารณะก็เป็นเครื่องการันตีการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ นับเป็นการตลาดแบบปากต่อปาก แนะนำกันต่อๆ มา และในปีนี้เราจะขยายการรับรู้ โดยใช้สื่อออนไลน์นำเสนอผลงานที่ผ่านมา ไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะในแต่ละวิชาชีพมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่ทำให้ Wish แตกต่างจากสำนักพิมพ์อื่นคืออะไร
ขอนำคำพูดที่ได้จากการตอบรับของนักเขียนที่เคยร่วมงานกับสำนักพิมพ์ Wish มากล่าวถึงดังนี้ค่ะ
- เราเป็นมืออาชีพในการทำหนังสือ เพราะอยู่ในวงการนี้มา 25 ปี
- เราใช้หลักการทำงานแบบ friendly partnership คือ ให้ความเป็นมิตรและทำงานด้วยความเข้าใจ โดยเน้นผลสำเร็จของงานเป็นสำคัญ หลายครั้งที่หนังสือมีเนื้อหาเฉพาะทาง และต้องใช้เวลามาก บางเล่มใช้เวลาร่วมปี หรือบางเล่มใช้เวลาปีกว่า ถ้ายึดตามระบบธุรกิจอาจมีข้อจำกัดด้านเวลา คือต้องเร่งปิดงาน แต่เราเข้าใจธรรมชาติในการทำหนังสือ เพราะหนังสือทุกเล่มต้องมีความสมบูรณ์และความถูกต้องของเนื้อหา เราจึงให้ความเป็นมิตรและทำงานด้วยความเข้าใจ ใจเขาใจเราเป็นหลัก ผลงานที่สำเร็จเป็นรูปเล่มและออกสู่สาธารณชนนั้น ทำให้คนทำงานอย่างเรามีความสุขที่ช่วยสานและสร้างฝันของนักเขียนให้เป็นความจริง
- มีความยืดหยุ่นในการทำงาน นักเขียนหลายท่านเป็นผู้บริหาร ช่วงเวลาทำงานอาจจะไม่สะดวกสำหรับการประสานงานหนังสือ จึงมีเวลาให้เฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น หรือกรณีที่ผู้ว่าจ้างอยู่ต่างประเทศ เราจึงต้องปรับเวลาการทำงานของทีมงานให้มีความสอดคล้อง
- การทำงานแบบ one stop service มีบริการที่ครบในทุกส่วนงานของการทำหนังสือ คือ สามารถจบต้นฉบับที่เรา พิมพ์ที่เรา เราดูแลงานจัดจำหน่ายและประชาสัมพันธ์ ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาในการนำหนังสือไปหาที่พิมพ์เอง หรือนำเสนอหนังสือฝากขายหน้าร้านเอง
คุณมองว่าตลาด self-publishing มีแนวโน้มเป็นอย่างไรในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต
ตราบใดที่สังคมยังเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ย่อมมีนักเขียนที่ปรารถนาจะถ่ายทอดองค์ความรู้ฝากไว้ให้แก่ผู้คน และสังคมไทยก็ยังคงเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้อยู่พอสมควร จึงมีผู้สนใจอยากเผยแพร่ความรู้ออกมาเป็นหนังสืออยู่ไม่น้อย แต่นักเขียนหรือผู้ที่ประสงค์จะออกหนังสือหลายท่าน ยังไม่สามารถเสนอต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ใหญ่ตีพิมพ์ได้ การทำหนังสือแบบ self-publishing จึงตอบโจทย์ตรงนี้
อย่างไรก็ตาม การทำหนังสือในรูปแบบ self-publishing ในบ้านเรามีมานานแล้ว เชื่อว่าแต่ละสำนักพิมพ์ก็ให้บริการด้านนี้ด้วย การมีคู่แข่งมากหรือน้อยนั้น เราไม่ได้สนใจนัก เพราะเราให้ความสำคัญแก่ตัวงาน ที่นักเขียนไว้วางใจและมอบให้เราดูแล เน้นการทำหนังสือให้สำเร็จและส่งมอบคุณค่า ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักของ Wish ค่ะ
ในการทำธุรกิจหนังสือเคยเผชิญอุปสรรคอะไรบ้าง แล้วก้าวผ่านมาได้อย่างไร
อุปสรรคหลักๆ คือเวลา หนังสือบางประเภทต้องใช้เวลาจัดทำนาน เช่น หนังสือด้านประวัติศาสตร์ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุคคลและสถานการณ์จริงในอดีต ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ จะผิดพลาดไม่ได้ จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความถูกต้องทั้งด้านข้อมูลและบุคคลที่พาดพิง แต่อุปสรรคตรงนี้เราสามารถผ่านไปได้ เพราะเรามีทีมงานคุณภาพและมีมุมมองที่ถูกต้องต่องาน งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีค่ะ
อุปสรรคใหญ่อีกอย่างของการทำหนังสือ คือ ต้นทุนการพิมพ์ โดยเฉพาะต้นทุนกระดาษ ที่มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ต้นทุนกระดาษเพิ่มขึ้นพอสมควร เพราะทั้งโลกต้องการกระดาษจำนวนมากสำหรับงานด้านสาธารณสุข อาศัยว่าเรามี supplier ที่ดี จึงสามารถหาสต๊อกกระดาษในราคาที่ไม่สูงจนเกินไปนักให้เราได้เสมอ
สถานการณ์โควิดส่งผลกระทบต่อสำนักพิมพ์มากไหม
สถานการณ์โควิดทำให้แผนการทำหนังสือหลายเล่มถูกเลื่อนออกไปค่ะ ตั้งแต่การประกาศเลื่อนการจัดงานสัปดาห์หนังสือ การล็อกดาวน์ปิดร้านหนังสือ และเรื่องของต้นทุนกระดาษที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยตรงค่ะ
มีการวางแผนฝ่าวิกฤติโควิดอย่างไร
การขยายโอกาสในการเข้าถึงหนังสือทางออนไลน์ เพราะต่อจากนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปอย่างถาวร คนเริ่มเน้นการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น สำนักพิมพ์ Wish ก็ต้องปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเช่นกัน การให้บริการหรือการติดต่อนักเขียน ก็สื่อสารผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก รวมถึงการทำงานระหว่างทีมงานก็ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal
แผนการสำหรับอนาคตมีอะไรบ้าง
ในส่วนของงานหนังสือนั้น Wish ได้ขยายไปสู่ลูกค้าต่างประเทศมากขึ้น มีนักเขียนที่ติดต่อเราเพื่อสร้างสรรค์ผลงานหนังสือมาจากหลากหลายประเทศ ทั้งออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เยอรมนี นอร์เวย์ เราเลยมองเห็นโอกาสว่า ฐานตลาดของ Wish ไม่ได้มีอยู่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่มีอยู่ทุกมุมโลก พร้อมกับเน้นตลาดเฉพาะกลุ่มยิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้ สิ่งที่อยากจะฝากไว้คือ หากเราเป็นผู้เสพสาร เราควรจัดเวลาเพื่ออ่านหนังสือดีๆ กัน การพัฒนาต่าง ๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าปราศจากการอ่านและการเรียนรู้ ส่วนนักปราชญ์หรือผู้มีองค์ความรู้ไม่ว่าเรื่องใด การสร้างสรรค์ผลงานหนังสือเพื่อฝากไว้เป็นอนุสรณ์ของโลก เป็นประโยชน์สำหรับคนรุ่นหลัง นับว่ามีอานิสงส์มาก หากมีความพร้อม ก็ขอเชิญชวนให้ลองปักหมุดเล็กๆ ไว้ในใจ Wish ยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่คิดมูลค่าค่ะ อย่างน้อยน่าจะเป็นการสร้างโอกาสในการมีหนังสือดีๆ อีกสักเล่ม และเป็นการส่งต่อเรื่องราวดีๆ ให้โลกใบนี้
3 เล่มของ Wish ที่อยากแนะนำ
- หนังสือธรรมะในโครงการหนังสือธรรมะดี
ร่วมกับบุ๊คสไมล์ ที่จำหน่ายทางร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หรือ ShopAt24.com ในราคาเล่มละ 29 บาท Wish ได้รับคำชมและเสียงตอบรับที่ดีจากผู้อ่านจากทั่วประเทศ และไกลไปถึงวัดไทยในต่างประเทศ อยากให้ทุกท่านลองหาอ่านดูนะคะ เป็นธรรมะสมัยใหม่ที่เข้าใจง่าย และสามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตได้จริง
- Talented Genius เผยรหัสลับ DNA คนเก่ง เปลี่ยนตนเองสู่ยอดมนุษย์ Hi-Po
เขียนโดย นงลักษณ์ ธนรักษ์
อดีต CEO Head Hunter บริษัทข้ามชาติชั้นนำ ชี้แนะคุณสมบัติของคนทำงานที่จะก้าวสู่ความสำเร็จในอาชีพและเป็นที่ต้องการขององค์กร ยิ่งในยุคโควิด-19 นี้คนจำนวนมากต้องตกงานหรือถูกให้ออกจากงาน ถ้าเราเตรียมความพร้อมและฝึกฝนคุณลักษณะสำคัญเพื่อการเป็น Talented Genius เราจะเป็นคนสำคัญที่องค์กรขาดไม่ได้ และสามารถนำองค์กรก้าวข้ามวิกฤติต่างๆ ไปได้อย่างแน่นอน
- เส้นทางสู่เซน The Road to Zen
เขียนโดย พระสุธีรัตนบัณฑิต (สุทิตย์ อบอุ่น)
บอกเล่าวิธีคิดและการใช้ชีวิตแบบเซน เป็นการหวนกลับมาสู่ความเรียบง่าย ความงดงามในใจ มองโลกอย่างสวยงามตามวิถีที่เป็นอยู่ แม้ในแต่ละวันจะมีเรื่องราวต่างๆ เข้ามากระทบใจ ถ้าเรามองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเรียนรู้ และเข้าใจ เราจะยิ้มได้กับทุกเรื่องราว และอยู่ได้กับทุกสถานการณ์
คอลัมน์: ถนนวรรณกรรม