อยากเป็นซูเปอร์โมเดล อยากเป็นศิลปินโลก อยากเป็นดีไซเนอร์ อยากมีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของตัวเอง สิ่งเหล่านี้คือความใฝ่ฝันมากมายในตัวเด็กหญิง วินนี่-เคสิยาห์ ชุมพวง วัยสิบขวบ เด็กชาย ฮิโร่-วจนะ ชุมพวง วัยสิบเอ็ดขวบ ปัจจุบันเป็นเจ้าของแบรนด์ Keziah ที่ได้ไปโชว์ถึงนิวยอร์กแฟชั่นวีค แล้วในปีนี้ยังได้รับคำชวนจากทางมิลานและปารีสอีกด้วย วันนี้เราจะมาพบกับพลังหลักที่ผลักดันให้ความใฝ่ฝันของทั้งสองกลายเป็นความจริงกันค่ะ
เบื้องหลังพลังสร้างฝัน
“เราเป็นคนสอนลูกเองว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ลูกอยากจะเป็นศิลปินระดับโลก ก็บอกว่าเป็นได้ ต้องทำยังไง เราก็หาข้อมูลให้ว่าต้องสร้างงาน แสดงงาน ให้ผลงานเป็นที่ยอมรับ จะไม่เคยบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ใจเย็นๆ ให้ไปทำอย่างอื่นสิ วันหนึ่งวินนี่บอกอยากมีลายผ้าตัวเอง ได้ เดี๋ยวมาม้าลองหาดูให้”
คุณแม่ ‘มุ้ย’ ยุกวัลย์ ย่องภู่ ร่วมกับคุณพ่อ ‘โพ’ กรกมล ชุมพวง จูงมือลูกทั้งสองออกจากสวนยางสู่โลกกว้าง โดยไม่คาดคิดเช่นกันว่าเส้นทางฝันของลูกๆ จะไปได้ไกลถึงนิวยอร์ก หากแต่พลังแห่งความรักและเชื่อมั่ก็เป็นแรงใจอันยิ่งใหญ่ให้วินนี่และฮิโร่ยิ้มแย้มได้ยามอยู่บนเวทีแสงสีระดับโลกและตกเป็นเป้าสายตาผู้ชม
“ผู้ใหญ่มักคิดว่าทำแล้วได้อะไร เช่น เราลงทุนเรื่องการศึกษาให้ลูก ก็คิดว่าผลตอบรับคือได้มีโอกาสที่ดีขึ้น แต่พอเป็นความฝันของเด็ก มองไม่เห็นว่าจะได้อะไรกลับมา ลึกๆ แล้วคนเรามีความกลัว แต่สิ่งที่ทำให้พวกผมเอาชนะความกลัว คือความสนุกที่ได้ทำร่วมกันทั้งครอบครัว ลูกทำสิ่งใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ลูกตื่นเต้น เราตื่นเต้นด้วยกันทั้งครอบครัว จากวาดเสร็จใส่กรอบอยู่ในสวนยาง มาแสดงงานตามถนน ได้เสพบรรยากาศความอิ่มเอมใจ ได้เห็นลูกเราพรีเซนต์งานให้คนที่สนใจ เห็นความภูมิใจของเขา จากงานข้างถนนก็ไปแกลเลอรี ไปงานประจำจังหวัด จนถึงงานระดับประเทศ ได้เห็นสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ แต่มันเป็นไปได้ คำว่าไม่ ทุกคนมีอยู่ในหัว แต่ต้องชนะคำนี้ให้ได้ บ่มเพาะไปทีละนิด จนใหญ่โตขึ้น สั่งสมอยู่หลายปีกว่าจะมาถึงตรงนี้ ด้วยการมีบันไดทีละก้าว”
เติบกล้าท้าแสงตะวัน
“ความยากของวินนี่คือตอนเลือกนางแบบให้เข้ากับชุดเรา กังวลว่าเมื่อปฏิเสธนางแบบคนนี้ ตัวเธอจะรู้สึกยังไง สิ่งที่ทำให้สู้คือ มาม้าบอกให้ทำต่อ เพราะถ้าวินนี่ร้องไห้ คนอื่นจะเครียดกับวินนี่ แล้วทำงานกันยากขึ้น”
“มีช่วงที่หยุดลงสีในภาพไป เพราะถูกคนวิจารณ์ รวมทั้งลอกเลียนผลงาน พอหยุดไปสักพัก ก็อยากกลับมาระบายสีอีก เพราะคิดถึงครับ (ยิ้ม) ค่อยกลับมาเริ่มใหม่ แต่ฝีมือก็ตกลงไปหน่อย”
วินนี่และฮิโร่เล่าถึงช่วงที่ต้องผ่านความยากลำบาก เรื่องนี้พ่อและแม่ต่างร่วมด้วยช่วยกันเติมพลังใจให้ลูกๆ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
“เด็กๆ ทำงานได้เพราะคำชื่นชม จะรอให้ใครมาชมก็ไม่ทันการณ์ เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ไม่ชื่นชมลูกจะไปชื่นชมใคร เราไม่พูดคำที่บั่นทอนจิตใจ ไม่สบประมาทความคิดสร้างสรรค์ของเขา ต้องสวยทุกชิ้นสำหรับเรา (ยิ้ม) มองข้ามความบกพร่อง ให้มองที่ส่วนดี สิ่งเหล่านี้ต้องใช้ความรักมหาศาล สำคัญคือเราสี่คนต้องเข้มแข็งในทัศนคติเชิงบวกครับ ต้นไม้เมื่อโตขึ้นมาก็ต้องโดนแดดลมฝน เด็กก็เหมือนกัน เมื่อโดดเด่นขึ้นมาก็เจอแรงปะทะ ผมไม่ชอบคำว่า ‘ติเพื่อก่อ’ มันไม่มีอยู่จริง และทำให้คนอื่นจิตตก เสียพลังในการสร้างสรรค์งาน เป็นการทำลายล้าง”
ใจที่ได้สร้างสรรค์
“วินนี่ชอบออกแบบชุด ชอบเห็นคนใส่ชุดที่วินนี่ออกแบบเอง ตอนโชว์ที่นิวยอร์ก เขาเห็นวินนี่ขึ้นมาพร้อมกับสีในมือก็งงว่าวินนี่ทำอะไร (หัวเราะ) พอเพนต์เสร็จ แล้วนางแบบเดินโชว์ ทุกคนก็เข้าใจแล้วว่าวินนี่คือดีไซเนอร์ เลยปรบมือให้เยอะเลย ตอนนี้กำลังออกแบบชุดเพิ่ม และออกแบบลายผ้าใหม่อยู่ค่ะ อยากให้ไปโชว์ในงานปารีสกับมิลาน และอยากให้ทุกคนในโลกรู้จักแบรนด์วินนี่ค่ะ (ยิ้ม)”
“ของผมชอบเวลาวาดออกมาแล้วรู้สึกว่าภาพสวยครับ”
ตัวตนของแบรนด์ Keziah
“เป็นจินตนาการที่ไม่มีวันสิ้นสุดค่ะ (ยิ้ม) ถ้าเรามีความสุข ถึงจะเละก็ทำใหม่ได้เรื่อยๆ วินนี่วาดภาพเหมือนไม่เป็น เคยทำแล้วไม่ชอบ รู้สึกว่ามันต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น ห้ามเป็นแบบอื่น แต่ถ้าวินนี่วาดเองตามจินตนาการ เราจะสามารถเป็นแบบไหนก็ได้ค่ะ”
ติดตามงานสวยๆ ได้ที่
คอลัมน์: ยุทธจักร ฅ.ฅน
เรื่อง: มาศวดี ถนอมพงษ์พันธ์
ภาพ อนุชา ศรีกรการ