My Stand In ตัวนายตัวแทน คือซีรีส์เรื่องแรกของไทยที่อำนวยการสร้างโดย iQIYI สตรีมมิ่งจากประเทศจีน ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 น. ทางช่อง One31 หรือดูออนไลน์บนแอปฯ iQIYI และเว็บ iQ.com ซีรีส์เรื่องนี้ยังดำเนินการผลิตโดยบริษัท yyds entertainment ที่เพิ่งเปิดตัวด้วยผลงานซีรีส์วายพีเรียดเรื่องแรกของไทยอย่าง หอมกลิ่นความรัก ครั้งนี้บริษัท yyds นำนิยายจีนยอดฮิตที่มียอดวิวกว่าพันล้าน เรื่อง 职业替身 (Zhiye TiShen) เขียนโดย 水千丞 (Shui Qiancheng) มาดัดแปลงเป็นซีรีส์ไทย เรียกได้ว่าเป็นการร่วมแรงร่วมใจระหว่างสองชนชาติ
และนักแสดงซึ่งผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนได้รับบทนำในซีรีส์เรื่องนี้ ได้แก่ ‘อัพ’ ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง และ ‘ภูมิ’ ภูริพันธ์ ทรัพย์แสงสวัสดิ์ แม้ทั้งสองจะร่วมงานกันครั้งแรก แต่เราเชื่อว่าเคมีของพวกเขาจะทำให้ผู้ชมอินไปกับเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง ‘หมิง’ และ ‘โจ’ ได้ไม่ยาก มาทำความรู้จักตัวตนของสองหนุ่มในแบบเรียลๆ ที่ไม่มีใครแทนได้ในออลฯ ฉบับนี้
นิยามตัวตนของ ‘อัพ’ และ ‘ภูมิ’
อัพ: เป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ ดูเผินๆ เข้ากับคนง่าย get along well กับทุกคน แต่ความจริงแล้วค่อนข้างเก็บความรู้สึก ไม่ค่อยพูดความรู้สึกลึกๆ ในใจ เพราะไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวไปเป็นภาระคนอื่น
ภูมิ: เหมือนกันครับ เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ถ้าสนิทจะพูดเยอะ ถ้ายังไม่สนิทจะเขินๆ ไม่ค่อยคุย
ความฝันและเส้นทางก่อนเข้าสู่วงการบันเทิง
อัพ: ก่อนเป็นนักแสดงผมเคยอยากเป็นนักการทูตครับ ผมจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการทูต หลังเรียนจบรู้สึกยังอยากต่อยอดสิ่งที่เรียนมา เลยไปเรียนต่อปริญญาเอก ด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ แต่ตอนนี้หยุดไว้สักพัก ขอทำงานก่อนครับ อันที่จริงผมเหลือทำเล่มวิทยานิพนธ์ แล้วต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ถ้ายังทำงานควบคู่กันไปด้วยแบบนี้ สิ่งที่คิดไว้คงทำได้ไม่เต็มที่ แล้วผมทำเรื่องการพัฒนาการศึกษาด้วย เพราะคิดว่าการศึกษาสามารถเพิ่มโอกาสให้แก่คนได้ เลยอยากทำออกมาให้ดี
ภูมิ: สมัยมัธยมภูมิเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ซ้อมที่มหา’ลัยมหิดล เราชอบบรรยากาศ ความร่มรื่น แล้วก็ผูกพันกับสถานที่ด้วย พอต้องสอบเข้ามหา’ลัย ก็ตั้งใจเลยว่าจะเข้ามหิดล แล้วภูมิคลุกคลีกับกีฬามาโดยตลอด ไม่มีความคิดอยากเปลี่ยนสาย จึงตัดสินใจเข้าคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
คณะนี้น่าสนใจตรงที่นำวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับกีฬา เราอาจมีสงสัยว่าทำไมคนตัวใหญ่ถึงมีประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายด้อยกว่าคนตัวเล็ก วิทยาศาสตร์สามารถให้คำตอบได้ น้องๆ ที่ชอบวิทย์ ชอบกีฬา อยากพัฒนาศักยภาพของตัวเองและคนอื่น คณะนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ ก่อนเข้าวงการภูมิเคยไปเป็นเทรนเนอร์ฝึกหัดด้วย
อัพ: เพื่อนผมที่เรียนวิทย์กีฬาก็แตกแขนงสาขาไปได้เยอะ เช่น สายบำบัดพวกออฟฟิศซินโดรม ผมว่าเป็นอีกคณะที่น่าสนใจ
อัพและภูมิเข้าสู่วงการด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอันโดดเด่น อัพเป็นที่รู้จักจากรูปที่ลงในเพจ Chula Cute Boy ส่วนภูมิประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย จากนั้นจึงมีผู้ชักชวนทั้งสองเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ส่วนการมาร่วมงานกันใน My Stand In นั้น อัพและภูมิถูกเชิญให้มาแคสติ้ง ผ่านการแคสต์หลายรอบ หลายเดือน จนได้รับเลือกในที่สุด
เรื่องราวของ My Stand In ตัวนายตัวแทน
อัพ: เนื้อเรื่องเล่าผ่าน ‘โจ’ รับบทโดย ‘ภูมิ’ โจเป็นสตันต์แมนและได้มาเจอกับ ‘หมิง’ รับบทโดยผมเอง ทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อโจรู้ว่าหมิงไม่ได้รักในตัวตนของโจ แต่กลับใช้โจเป็นตัวแทนใครบางคน เลยเกิดเรื่องราวต่างๆ จนโจเสียชีวิตแล้วกลับมาอยู่ในร่างใหม่ ต่อจากนี้จะเป็นยังไงต้องติดตาม
ภูมิ: ขอบคุณครับพี่ชาย (ภูมิหัวเราะร่าเมื่ออัพซึ่งเป็นรุ่นพี่ และตอบคำถามคล่องกว่า สรุปเรื่องย่อให้เสร็จสรรพ)
การเตรียมตัวก่อนสวมบท หมิง-โจ อย่างเข้าถึง
อัพ : มีทำการบ้านครับ อ่านบท และคุยกับทางผู้กำกับ รวมทั้งแอ็กติงโค้ช พวกเราต้องออกกำลังกายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิ ในเรื่องแผ่นหลังของภูมิต้องดูเหมือนกับพี่เมฆ (จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์) ซึ่งรับบท ‘ตง’ เลยต้องมีการเทรนให้ฟิตขึ้น
ภูมิ: ด้วยความที่โจเป็นสตันต์แมน ต้องมีฉากบู๊ ผมจึงต้องออกกำลังกายเยอะมาก และซ้อมคิวบู๊อย่างหนัก เวิร์กช็อปแอ็กติง 7 คลาส เวิร์กช็อปแอ็กชันอีก 10 วัน มีวันหนึ่งซ้อมคิวบู๊ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น เพื่อใช้ถ่ายวันถัดไป
อัพ: เรื่องนี้ได้พี่โขม (ก้องเกียรติ โขมศิริ) เป็นผู้กำกับ และทีมพี่จีจ้า (ฉันทธนิสา วิสมิตะนันทน์) มาคอยออกแบบคิวบู๊ รับรองเลยว่าฉากแอ็กชันสวยมาก แม้กระทั่งบทหมิงที่ไม่จำเป็นต้องต่อยตีเป็น ต้องออกกำลังกายเยอะสำหรับเรื่องนี้ มีซ้อมฉากแอ็กชันด้วย แต่จะเป็นซีนไหนต้องคอยติดตาม
หมิง-โจ vs อัพ-ภูมิ สิ่งที่เหมือนและสิ่งที่ต่าง
อัพ : หมิงต่างกับผมโดยสิ้นเชิงครับ หมิงเป็นลูกคุณหนูเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องได้ หยิ่งผยอง ไม่ยอมคน ต่างกับตัวตนของผมที่มักเป็นคนกลาง ผมไม่ชอบการขัดแย้งหรือการใช้กำลัง เวลาเพื่อนทะเลาะกันผมก็คอยไกล่เกลี่ย
ภูมิ: คือต่อยทั้งคู่
อัพ: โดนทั้งคู่ต่อย (หัวเราะ) ไม่ใช่ คือผมค่อนข้างอินกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการทูต เพราะฉะนั้นจึงเชื่อว่าทุกปัญหาจบได้ด้วยการพูดคุย แล้วสิ่งที่ต่างระหว่างผมกับหมิงอีกอย่างคือ หมิงรวยมากครับ (หัวเราะ)
ภูมิ: โจกับภูมิอาจไม่ได้ต่างกันสุดขั้วแบบพี่อัพกับหมิง เรายังมีความเป็นคนคนหนึ่งที่พยายามดิ้นรนสู้ชีวิตเหมือนกัน ทว่าต้องสู้ตามลำพังเพราะเขาเป็นลูกกำพร้า แต่ภูมิยังมีคุณพ่อคุณแม่พร้อมหน้า โจจึงเป็นคนที่เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเจออะไรก็สามารถเอาชนะอุปสรรคไปได้ตั้งแต่เด็ก
อัพ: เป็นตัวละครที่น่าเอาใจช่วย
ภูมิ : ใช่ โจเป็นคนจิตใจดี เพื่อนๆ เลยรักและเป็นห่วง
อัพ: ส่วนหมิงน่าหยิกหลังสุดๆ
ภูมิ: แต่เพราะโจเป็นคนจิตใจดี ไม่มีพิษมีภัย จึงเป็นเหตุให้หมิงตกหลุมรัก
การฉีกบทบาทครั้งสำคัญ
อัพ: เป็นแคแรกเตอร์ที่ไม่เคยเล่นเลย ต่างจากผลงานทั้งหมดที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากแอ็กชั่นรับรองว่าเด็ดจริงๆ ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างโรแมนติกดรามา
ภูมิ: เป็นซีรีส์เรื่องแรกที่ภูมิได้รับบทนำครับ และเป็นครั้งแรกที่แสดงร่วมกันกับพี่อัพ
ความกดดันของการเป็นนักแสดงออริจินัลซีรีส์ไทยเรื่องแรกของ IQIYI ซึ่งดัดแปลงจากนิยายจีนยอดฮิต
ภูมิ: ตื่นเต้นครับ ค่อนข้างตั้งความหวัง
อัพ: พูดตามตรงก็กดดันครับ ไม่ใช่แค่ทาง IQIYI เท่านั้นที่ตั้งความหวัง ยังมีแฟนนิยายด้วย ทุกคนออกแรงทำงานกันจนสุดกำลัง แน่นอนว่าวันที่ท้อก็มีเช่นกัน มีทั้งความรู้สึกขึ้นสุดลงสุด เพราะทุกฝ่ายแบกรับความคาดหวังไว้ไม่น้อย แต่พวกเราพยายามแปรความกดดันเหล่านั้นให้เป็นพลัง
บรรยากาศการทำงานในกองถ่าย
อัพ: ทุกคนเต็มที่จนตกใจ ไม่ใช่ว่ากองอื่นไม่เต็มที่นะ แต่กองนี้เหมือนถูกกดดันตลอดเวลา เลยทำงานกันแบบ… ผมใช้คำว่าเอาเป็นเอาตายเลย วันสุดท้ายที่ถ่ายทำจบเดินไปกอดกันร้องไห้ เราผ่านมาได้แล้ว มันหนักมากจริงๆ
ภูมิ: เราอยู่ด้วยกันตลอด ถ้าถ่ายทำช่วงกลางคืนก็คือ 4 โมงเย็น-ตี 5 ก็อยู่ด้วยกันตลอดทั้งสัปดาห์ ทีมงานทุกคนมีสภาพอิดโรยไปตามๆ กัน แต่พอจะทำงานก็ต้องบิลด์พลัง เอเนอร์จี เอเนอร์จี!
ซีนที่ท้าทาย
อัพ: ต้องยกให้ภูมิเลยครับ ส่วนผมบทหมิงจะเป็นซีนอารมณ์ซะมากกว่า เพราะหมิงเป็นคนอารมณ์ขึ้นสุดลงสุด อันที่จริงควรพบจิตแพทย์นะ (หัวเราะ) บางทีเล่นเสร็จแล้วคุยกับภูมิ สงสารโจว่ะ ทำไมต้องมาเจอคนแบบนี้ เขามีความดราม่ามากๆ
ภูมิ: หมิงมักทำหน้าบึ้งเหมือนไม่พอใจใครอยู่เสมอ ส่วนโจก็เศร้าตลอด แต่หลังจากเจอหมิงชีวิตก็มีช่วงแฮปปี้ขึ้น ซีนของภูมิยากทั้งซีนอารมณ์และซีนแอ็กชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งซีนแอ็กชันนั้นเหนื่อยจริงๆ ครับ
อัพ: เห็นภูมิเล่นแล้วสงสารเลย
ภูมิ: คือฉากแอ็กชันฉากเดียวถ่ายกันหนึ่งวันครับ ตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม มีทั้งไฟ ควัน ชุด อุปกรณ์ เช่น ดาบ ต้องสมกับที่โจเป็นสตันต์แมนด้วย ส่วนซีนอารมณ์ส่วนมากสอดคล้องกับหมิง สิ่งที่เขาทำล้วนกระทบใจโจ และสิ่งที่โจตอบกลับก็กระทบใจหมิงเช่นกัน
แฟนนิยายไม่ผิดหวัง
ภูมิ: มาดูเถอะครับ คุ้มค่าแน่นอน ไม่ทำให้ผิดหวัง
อัพ: พวกเราทั้งนักแสดงและทีมงานเบื้องหลังทุ่มเทกับซีรีส์เรื่องนี้จริงๆ ตั้งแต่ก่อนถ่าย ระหว่างถ่าย และหลังถ่าย ถ้าดูแล้วไม่ชอบตรงไหนก็ติชมกันได้ แต่อย่างน้อยก็อยากให้มาดูกันครับ ลองมาสัมผัสถึงความตั้งใจของทีมงานทุกคน
อัพ-ภูมิ ความประทับใจที่มีต่อกันและกัน
อัพ: ตอนแรกที่เจอภูมิรู้สึกว่าน้องคนนี้เป็นคนดี จิตใจดี ร่วมงานด้วยแล้วแฮปปี้ สบายใจ สามารถแสดงบทบาทจนสุดฝีมือได้ ไม่ต้องระวัง ไม่ต้องกั๊ก เล่นได้เต็มที่ หรือต่อให้ไม่แสดงอยู่ ก็เป็นเพื่อนระบายอารมณ์ ปรึกษากันได้ บรรยากาศการทำงานเลยราบรื่น ไม่มีอะไรต้องฝืน อันนี้พูดจริงๆ นะว่าไม่ต้องพยายามเลย เวิร์กช็อปคลาสแรกๆ ก็จูนกันติด ดีใจที่ได้ร่วมงานกับน้อง
ภูมิ: ภูมิว่าการได้ทำงานกับคนที่เรารู้สึกสบายใจนั้นสำคัญมากนะ เพราะถ้าเกิดความรู้สึกว่า อุ๊ย เอาไงดีวะ จะเริ่มไม่กล้าแสดงเต็มที่แล้ว เป็นอะไรที่เซนซิทีฟนะ พอเราสบายใจก็จะปล่อยให้ตัวละครลื่นไหลไปเองอย่างอิสระ แล้วเวลามีปัญหาผมสามารถคุยปรึกษาได้ เห้ย พี่อันนี้เอาไงดี
อัพ: ก่อนถ่ายทำแต่ละซีนนั้นแฮปปี้จริงๆ บางครั้งเราแสดงแล้วเหนื่อย ร่างกายล้า ผมโคตรชอบเลยเวลาที่ เห้ย เดินมาจับมือกันหน่อย กอดกันหน่อยก่อนเริ่มซีน มันเป็นการส่งพลังให้กัน ซีนนี้ภูมิเล่นดราม่ามาก มากอดกันหน่อยส่งพลังให้ ผมว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากจากคนที่แสดงร่วมกัน
ภูมิ: บางทีซีนดราม่าหนักๆ ก็ไม่ได้ถ่ายทำต่อเนื่องกัน มีเว้นไปถ่ายซีนอื่นก่อนแล้วค่อยกลับมาดรามาต่อ มันขาดตอน เลยต้องมีการจูนเพื่อให้ได้อารมณ์ ผมก็จะบอกพี่ จับมือหน่อยครับ บางทีก็กอด ส่งอารมณ์กัน เพื่อให้เข้าถึงอารมณ์เร็วขึ้น
อัพและภูมิในเวอร์ชันที่เติบโตขึ้นหลังซีรีส์ My Stand In
ภูมิ: ภูมิผ่านการแสดงละครมาก่อน ส่วนตัวชอบการทำงานแบบซีรีส์ ซึ่งมีการถ่ายทำและการกำกับในอีกรูปแบบหนึ่ง แล้ววัยของตัวละครในซีรีส์ค่อนข้างใกล้เคียงกับตัวเอง เลยทำความเข้าใจง่ายกว่า แบ็กกราวด์ของบทบาทในละครมีความซับซ้อน มีพีเรียดบ้าง บางครั้งจินตนาการของเราก็ไปไม่ถึงจุดนั้น
อัพ: ผมอยู่ในวงการมา 10 ปี ทำงานตั้งแต่เบื้องหลังจนมาเบื้องหน้า ความจริงก็เติบโตทั้งร่างกายและจิตใจด้วย (หัวเราะ) หมายถึงได้เจอคนมากหน้าหลายตา เรียนรู้สารพัดอย่าง อะไรที่ใช่สำหรับเราก็ปรับใช้ อะไรที่ไม่ใช่เราก็เรียนรู้ต่อไป มีหลายอย่างที่เราควรใส่ใจมากกว่าที่เห็นจากภาพข้างหน้าอย่างเดียว มีรายละเอียดต่างๆ ระหว่างทางเสมอ และสิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้ คือสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกวัน คือต้องห้ามหยุดเรียนรู้ หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะสิ่งใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา เราต้องก้าวให้ทัน ถ้าตามไม่ทันเราจะถูกทิ้ง จงอย่าหยุดพัฒนาตัวเอง นี่คือสิ่งที่คิดไว้เสมอ
เป้าหมายคือเดินไปให้สุดทาง
อัพ: เป้าหมายในวงการบันเทิงก็ยังเหมือนเดิม คืออยากรู้ว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน มีโอกาสเข้ามาเราก็พร้อมรับทุกอย่าง อันไหนที่ใช่ก็ได้เรียนรู้ว่าสิ่งนี้เราทำได้ดีนะ ส่วนอันไหนที่ไม่ใช่ก็ได้รู้ว่าต้องไปฝึกเพิ่มเติม
ภูมิ: เป้าหมายของภูมิคือทำงานไปจนกว่าจะหมดไฟ ภูมิรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้ทำงานที่มีความสุข ในเมื่อยังมีความสุขก็ทำต่อไป ดีใจทุกครั้งที่ทำผลงานออกมาดี แต่ถ้าไม่ดีก็แก้ไขปรับปรุงใหม่ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าต้องไปให้ถึงระดับนั้นระดับนี้ แค่มีคนจดจำเราในฐานะนักแสดงและติดตามผลงาน ภูมิจะเล่นเรื่องนี้เหรอ อยากดูจัง หวังว่าสักวันจะเป็นแบบนั้น
สิ่งที่เรียนรู้จากการทำงาน
อัพ: อย่าหยุดพัฒนาตนเอง เปิดโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ใช้ชีวิตให้มีความสุข และไม่ใช่ความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
ภูมิ: อย่าหยุดพัฒนาตัวเองเหมือนกัน โอกาสเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ตั้งใจทำให้เต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าโอกาสจะมาอีกทีเมื่อไหร่ ทำตัวให้พร้อมรับโอกาส เพื่อใช้โอกาสนั้นอย่างคุ้มค่า และใช้ชีวิตให้มีความสุข
แน่นอนว่าเพราะทั้งอัพและภูมิให้ความสำคัญแก่การพัฒนาตนเอง พวกเขาจึงสามารถสวมบท หมิง-โจ ในซีรีส์ My Stand In ตัวนายตัวแทน ซึ่งดัดแปลงจากนิยายจีนได้อย่างสมจริงสมจัง แม้ชื่อซีรีส์จะใช้คำว่า ‘ตัวแทน’ แต่เราอยากบอกว่านักแสดงทั้งสองคือ ‘ตัวจริง’
ขอบคุณสถานที่
Vince hotel
26/2 Alley 2 Petchaburi Road Soi 11
Bangkok, Thailand
Reservations: +66 2254 6480