ไม่หยุดฝัน ไม่หยุดวิ่ง ไม่หยุดทำ กุณช์ปวีณ์พร สิทธิประเสริฐ

-

“ตอนหัดวิ่งเทรลช่วงแรกก็เริ่มจากระยะสิบกิโล วิ่งมาเรื่อยๆ จนตอนนี้อยู่ที่ร้อยยี่สิบกิโล” ถ้าเราได้ยินได้ฟังจากคนที่อายุยังน้อย ก็ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะการวิ่งเทรลคือการวิ่งบนเส้นทางธรรมชาติ ที่ไม่ได้ราบเรียบอย่างท้องถนนทั่วไป หลายครั้งเข้าป่า ขึ้นดอย เส้นทางขรุขระลำบากอย่างยิ่ง แต่เชื่อไหมว่าคนที่พูดคำนี้คือคุณ ‘จิ๋ม’ กุณช์ปวีณ์พร สิทธิประเสริฐ ที่วิ่งเทรลมาหลายปี ปัจจุบันอายุ 59 ปี เป็นเจ้าของร้านดูแลความสวยความงามในเมืองเชียงใหม่ ซึ่งนักวิ่งสายเทรลล้วนรู้จักกันดี

นักวิ่งเทรลมือเก๋า

“เริ่มจากวิ่งบนถนนทั่วไป แล้วเจอเขาจัดงานวิ่งเทรล ทึ่งมากที่วิ่งกันยังไงตั้งร้อยโล วิ่งเข้าป่าอีก มีตอนกลางคืนด้วย ไม่กลัวผีเหรอ ในตอนนั้นคนยังไม่รู้จักการวิ่งเทรลเท่าไร จนได้เข้าไปสัมผัสเอง ครั้งแรกประทับใจเลย ตื่นเต้นมาก เส้นทางธรรมชาติสวยงามรอบด้าน ดอกไม้ป่า ไอหมอก มีความสุขที่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์”

แม้หลายคนจะตีกรอบว่าการวิ่งเหมาะกับคนวัยหนุ่มสาวมากกว่า คนสูงอายุไปร่วมแล้วรังแต่จะเป็นภาระระหว่างทาง แต่พี่จิ๋มผู้ถูกทักท้วงและห้ามปรามจากมิตรสหายวัยเดียวกัน ก็ไม่เก็บมาใส่ใจ ยังคงวิ่งต่อไป

“จะบอกทุกคนเสมอว่ามาออกกำลังกายกันเถอะ ไม่ต้องวิ่งเทรลก็ได้ มาเดินก็ยังดี ตัวพี่ได้เรียนรู้เองว่าพออายุมากขึ้น ก็เจออาการวัยทอง คอเลสเตอรอลสูง ความอ้วนเนื่องจากการเผาผลาญไม่ดี ทั้งที่เรายังอยากแต่งตัวสวยๆ อยู่นะ ไม่อยากทำตัวเป็นคนแก่ทั่วไป อยากตามแฟชั่น มีรูปร่างสวยงาม มีกล้ามเนื้อแข็งแรง ดังนั้นจึงต้องลุกขึ้นมาออกกำลัง”

 

 

คุณจิ๋มย้ำว่าคนที่อ้างว่าทำไม่ได้เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ควรยิ่งต้องทำ เพราะการออกกำลังกายทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีที่สุด แม้ช่วงแรกที่ฝืนทำจะทรมาน ทำได้แค่เล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าทำต่อเนื่อง ค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ วันหนึ่งสุขภาพก็จะกลับมาแข็งแรง

“อย่าตั้งข้อแม้ให้ตัวเองค่ะ เคยแนะนำลูกค้าเรื่องการออกกำลัง เขาก็เริ่มจากเดินวันละไม่กี่สิบนาที จนเพิ่มเป็นวันละหนึ่งชั่วโมง ห้าวันต่อสัปดาห์ จากน้ำหนักหกสิบกว่าโล ลดลงมาได้เหลือห้าสิบกว่า ตัวเบาสบาย รูปร่างดี ร่างกายแข็งแรงขึ้น ให้ลองหาการออกกำลังที่เหมาะกับตัวเอง เช่น ว่ายน้ำ รำไท้เก๊ก เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว ทำสม่ำเสมอต่อเนื่อง หลายคนบอกว่าไม่มีเวลา ต้องหาเงิน เข้าใจนะ เพราะเงินสำคัญในการใช้ชีวิต แต่ถ้าทำงานเก็บเงินทั้งชีวิต เพื่อมาจ่ายค่ารักษาตอนแก่ตัว คงไม่ดีแน่”

เกษียณแล้วหมดไฟ

“ยิ่งมีอายุเยอะยิ่งต้องออกไปค่ะ (ยิ้ม) หลายคนปิดกั้นตัวเอง ไม่ออกไปไหน อยู่บ้านดูทีวี ไม่มีกิจกรรมทำ ลูกหลานออกไปทำงาน หรืออยู่คนละที่ ไม่ได้เจอใคร สักพักจะเหงาและกลายเป็นซึมเศร้าตอนแก่ พี่เห็นมาหลายคนแล้ว การที่ออกไปข้างนอกเพื่อเจอผู้คน มันช่วยได้นะ ได้ยิ้มแย้มพูดคุยกัน ได้เห็นว่าบางคนอายุมากกว่ายังมาเลย ตอนนี้พี่มีเพื่อนหลายวัยที่เป็นนักวิ่ง ก็นัดไปกินข้าวด้วยกันเป็นประจำ”

เคยมีคนทักว่าวิ่งเทรลไม่กลัวเข่าพังเหรอ แต่คุณจิ๋มกลับถือเอาถ้อยคำติงดังกล่าวสร้างพลังบวกให้แก่ตัวเอง

“พี่เป็นคนชอบเอาชนะ จะพิสูจน์ให้เห็นเอง ใครมาพูดอะไรก็อย่าไปสนใจ ถ้าคิดว่าทำแล้ว ไม่ได้ทำผิดคิดร้ายให้ใครลำบากใจ ก็ทำไปค่ะ เป็นตัวของตัวเอง ทำไมต้องทำตัวเป็นคนแก่ตลอดเวลาล่ะ ในเมื่อฉันวิ่งได้ อยากจะวิ่งนี่ ฉันแต่งตัวสวยๆ ก็ฉันอยากแต่งนี่ (ยิ้ม) ตัวพี่ก็ไม่ได้ตะบี้ตะบันวิ่งเทรลอย่างเดียว มีออกกำลังกายเสริมเพื่อความแข็งแรงของร่างกาย ไปยิม คาดิโอ เวตเทรนนิง เป็นระยะ”

เป้าหมายที่อยากพิชิต

ในปีนี้พี่จิ๋มตั้งเป้าว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งเทรลระยะทางหนึ่งร้อยไมล์ของ Ultra-Trail Chiangmai [UTCM] ที่เชียงใหม่ ในเดือนสิงหาคม เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่เอาการ

“ครั้งหนึ่งในชีวิตขอให้ได้ทำสักครั้งค่ะ (ยิ้ม) การมีเป้าหมายทำให้เรารู้สึกท้าทาย จะขวนขวายพยายามไปถึงให้ได้ พี่จิ๋มอยากให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงนะ ยิ่งอายุเยอะ ยิ่งไม่มีข้อแม้สำหรับการออกกำลัง จะได้ไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน เดินเหินเอง ไม่ต้องนั่งวิลแชร์ให้ใครเข็น และการออกกำลังทำสมองปลอดโปร่ง ลดการเป็นอัลไซเมอร์ด้วย ถ้าเรายอมเปลี่ยนตัวเอง จะดีมากๆ ทุกวันนี้พี่มีเพื่อนทุกวัย เหมือนเด็กลงทุกวันด้วย (ยิ้ม) รู้สึกว่าเราไม่ได้แก่เลย”

เฟซบุ๊ก: jimkalos


คอลัมน์: ยุทธจักร ฅ.ฅน

เรื่อง: มาศวดี ถนอมพงษ์พันธ์

ภาพ: เฟซบุ๊ก jimkalos

All Creative Team

Writer

ร่วมสร้างสังคมอุดมปัญญา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!