ฉบับนี้เป็นฉบับส่งท้ายปี พ.ศ.2566 ผู้เขียนจึงจะเขียนถึงสำนวนส่งท้ายที่น่าสนใจเกี่ยวกับอวัยวะสำคัญคือลิ้น ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นสำนวนอยู่หลายสำนวน เช่น ลิ้นตวัดถึงใบหู, ลิ้นกระดาษทราย น้ำลายเชลแล็ก, อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เป็นต้น
ลิ้นตวัดถึงใบหู
คำว่า ‘ตวัด’ แปลว่าม้วนเข้าหาโดยเร็ว ดังนั้นลิ้นตวัดถึงใบหูคือการม้วนลิ้นโดยเร็วได้ไกลไปถึงใบหู แต่โดยปกติลิ้นคนจะไม่ยาวพอที่จะม้วนไปแตะใบหูของตนเองได้ ดังนั้นเมื่อนำ ‘ลิ้นตวัดถึงใบหู’ มาใช้เป็นสำนวนเปรียบจึงหมายถึงการพูดตลบตะแลงซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง เป็นไปไม่ได้ แต่พยายามพูดพลิกแพลงให้เป็นเรื่องเป็นราวได้ เช่น ชิดพูดกับสุนัยเรื่องที่มีชัยรับปากว่าจะช่วยเร่งงานก่อสร้างสะพานข้ามคลองให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนว่า “โธ่! เชื่อใครไม่เชื่อ ไปเชื่อเจ้าชัย อย่าฝันเฟื่องเลย มันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ เจ้านี่มันลิ้นตวัดถึงใบหู”
สำนวน ‘ลิ้นตวัดถึงใบหู’ ปัจจุบันถูกนำมาใช้ในความหมายด้านลบทั้งสิ้นซึ่งแตกต่างจากอดีตตั้งแตสมัยพุทธกาลมาก ดังจะเห็นได้จากวรรณคดีเรื่องพระปฐมสมโพธิกถา พระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส ได้มีบทพรรณนาถึงลักษณะพระชิวหาของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งประสูติว่า มีพระลักษณะแห่งมหาบุรุษ 32 ประการอันเป็นมงคลยิ่ง 1 ใน 32 ประการนั้นได้แก่ “พระราชกุมารนี้มีพระชิวหาอันอ่อนแลกว้างยาวยิ่งกว่าชนทั้งปวง โดยยาวนั้นอาจลูบช่องพระนาสิกทั้งสอง แลเลี้ยวกระหวัดถึงพระกรรณทั้งสองข้างได้ โดยกว้างนั้นอาจแลบแผ่ปกปริมณฑลพระนลาฏได้ทั่วทั้งสิ้น อันนี้จัดเป็นพระมหาบุรุษลักษณะคำรบ 27”
ลิ้นกระดาษทราย น้ำลายเชลแล็ก
‘กระดาษทราย’ เป็นกระดาษที่มีผิวด้านหนึ่งหยาบเป็นเม็ดๆ เหมือนอย่างทราย ใช้สำหรับขัดไม้ให้เรียบลื่น ฯลฯ ส่วนคำว่า ‘เชลแล็ก’ เป็นวัสดุเคลือบผิวเพื่อป้องกันน้ำยาในเนื้อไม้ซึมออกมา และมิให้แมลงเข้าไปทำลายกัดกินเนื้อไม้ ซึ่งก็จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานได้ยาวนาน ส่วนมากจะเป็นเกล็ด ขายเป็นกิโลกรัม มีสีน้ำตาล แดงและเหลือง ซึ่งจะต้องนำมาผสมน้ำมันแอลกอฮอล์ให้ละลายเป็นน้ำเหลวก่อนใช้ เมื่อนำมาทาเคลือบผิวไม้จะทำให้มีสีเปลี่ยนไปจากธรรมชาติบ้าง แต่จะดูเงางามสดใสโชว์ลายไม้ชัดเจน
เมื่อนำ ‘ลิ้นกระดาษทราย น้ำลายเชลแล็ก’ มาใช้รวมกันจะเป็นสำนวนที่มีความหมายว่า คำพูดที่ชัดเจนลื่นเรียบน่าเชื่อถือเข้าทำนองประจบสอพลอ ผู้ฟังจะรู้สึกปลื้มเพราะไม่รู้เจตนาหรือจุดประสงค์ที่แฝงอยู่ของผู้พูด เช่น นิพนธ์เตือนสมบัติเพื่อนรักตอนหนึ่งว่า “เวลาวรพจน์มาพูดเกลี้ยกล่อมให้ร่วมลงทุนอะไรละก็ ให้ฟังหูไว้หู อย่าหลงลมปากมันซะทีเดียว มันพูดเก่งฟังแล้วเคลิ้ม เคยได้ยินสำนวน ‘ลิ้นกระดาษทราย น้ำลายเชลแล็ก’ รึเปล่าล่ะ นี่เตือนด้วยความหวังดีนะ”
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่
คำว่า ‘ลิ้นไก่’ ในที่นี้หมายถึงติ่งเนื้ออ่อนยาวรีในลำคอที่ยื่นจากตรงกลางเพดานสำหรับปิดช่องขึ้นรูจมูกเมื่อเวลากลืนอาหาร นอกจากนั้นยังมีหน้าที่ช่วยในการออกเสียงและการหายใจ ถ้าใครอ้าปากกว้างๆ คนที่อยู่ตรงหน้าก็จะมองลอดเข้าไปเห็นลิ้นไก่ได้
สำนวน ‘อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่’ ถูกนำมาใช้เป็นสำนวนเปรียบให้มีความหมายว่า ปกติเมื่อผู้พูดเอ่ยคำพูดใดออกมา คนฟังก็จะเข้าใจตามที่ได้ยิน แต่สำหรับบางคนได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็เข้าใจได้ลึกซึ้งว่าโดยแท้จริงแล้วคำพูดนั้นๆ สื่อความหมายใด เช่น เมื่อสมบัติถูกต่อว่าจากวินัยเพื่อนร่วมชั้นเรียนว่าเอาโทรศัพท์มือถือของตนไปใช้หลายครั้งแล้วโดยไม่ได้ขออนุญาต ถามทีไรก็ขอโทษ อ้างว่าจำเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มาครั้งล่าสุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก พอวินัยถามสมบัติก็อ้าปากจะพูด วินัยบอกว่า “หยุดๆ ไม่ต้องพูด อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ถ้าทำอีกจะฟ้องคุณครู ไม่เชื่อก็ลองดู”
คอลัมน์: คมคำสำนวนไทย
เรื่อง: ยุพร แสงทักษิณ
ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์