กระดาษทิชชูไม่ได้ก่อมะเร็งปากมดลูก

-

ข่าวพาดหัวน่าตกใจ “หญิงสาวอายุ 20 ปี ร้องไห้โฮ หลังรู้ว่าป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก ครอบครัวประหลาดใจ สาเหตุคืออะไรกันแน่ แพทย์ชี้กระดาษทิชชูสีเป็นสาเหตุ อันตรายใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม!” จริงหรือที่คุณผู้หญิงทั้งหลายเพียงใช้กระดาษทิชชูเวลาเข้าห้องน้ำ แล้วจะทำให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูกได้ มันเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร

เรื่อง “มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการใช้ทิชชูซับหลังจากเสร็จกิจในห้องน้ำ” นั้น อันที่จริงเป็นข่าวปลอม เป็นฟอร์เวิร์ดเมลมั่ว ที่เผยแพร่หลอกกันมานานนับสิบปีแล้ว และมักจะเขียนในทำนองว่า “โรคมะเร็งปากมดลูกสามารถเป็นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ เพียงแค่ใช้กระดาษทิชชูซับ แล้วติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งร้าย” คล้ายกรณีอายุ 20 ปี ตามข่าวพาดหัวข้างต้น 

แต่ข่าวที่เผยแพร่กันนั้น พูดถึงหญิงสาวชื่อ Xiao Yu เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศจีน เธอมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงระหว่างมีประจำเดือน ซ้ำร้ายเลือดประจำเดือนไหลออกมามากผิดปกติ เธอจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และหลังจากเข้ารับการตรวจ แพทย์วินิจฉัยว่าเธอติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (เอชพีวี , human papilloma virus) ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะแรกได้ จากนั้นมีการอ้างต่อว่าแพทย์ซักประวัติของเธอ พบว่าเธอมักจะใช้กระดาษชำระกับอวัยวะเพศ เป็นกระดาษชำระชนิดที่มีสีสันและส่งกลิ่นหอม จึงแนะนำว่ากระดาษชำระมีสารเคมี เช่น สารฟอกขาว สารแต่งสี น้ำหอมสังเคราะห์ และมีแบคทีเรียสะสมอยู่จำนวนมาก อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อกับผู้หญิงที่ใช้กระดาษชำระเช็ดอวัยวะเพศของตัวเองอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อไวรัสเอชพีวี จนป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก

แต่ความจริงแล้ว นั่นเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าบนเว็บไซต์แนวสัพเพเหระแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม ไม่ได้เป็นรายงานข่าวที่มีแหล่งข้อมูลหรือที่มาชัดเจน แม้แต่รูปคนไข้จีนที่ใช้ประกอบบทความ ก็ไม่ระบุว่าเป็นรูปใคร และได้มาจากไหน จึงขาดความน่าเชื่อถือ

ในทางการแพทย์นั้น การใช้กระดาษทิชชูเช็ดหลังจากเข้าห้องน้ำ ไม่ได้เป็นต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูก เพราะการที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกนั้น ต้องได้รับเชื้อไวรัสเอชพีวี เข้าไปภายในร่างกายเสียก่อน ไม่ใช่เชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียดังที่แชร์ข้อความกัน และถึงแม้ว่าบังเอิญมีเชื้อเอชพีวี ปนเปื้อนอยู่บนกระดาษทิชชู มันก็จะสัมผัสได้แค่ภายนอกร่างกายเท่านั้น การใช้กระดาษทิชชูซับหลังจากเข้าห้องน้ำ จึงไม่อาจนำเอาเชื้อไวรัสเอชพีวี เข้าไปในช่องคลอดจนถึงปากมดลูกได้

  จริงอยู่กระดาษทิชชูอาจปนเปื้อนสิ่งสกปรกบางชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ แต่เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราก็ไม่ได้เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก อย่างมากก็ทำให้เกิดอาการระคายเคือง อาจเกิดภาวะตกขาวผิดปรกติ หรือภาวะตกขาวผิดปรกติเรื้อรัง หรืออาการคันได้ สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวี มีทั้งสายพันธุ์ที่ไม่ร้ายแรง เช่น สายพันธุ์ที่ 6 และ 11 ที่ทำให้เกิดโรคหูด กับสายพันธุ์ที่ร้ายแรง คือสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก

การติดเชื้อไวรัสเอชพีวีนั้น จะต้องมีพาหะนำเชื้อเข้าไปภายในช่องคลอด ไปสู่บริเวณปากมดลูก การติดเชื้อโดยมากเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ นอกนั้นอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การใส่ผ้าอนามัยแบบสอด การสวนล้างทำความสะอาดช่องคลอด หรือการสอดใส่บางอย่างเข้าไปในช่องคลอด ก็อาจเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสแม้ว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ใช่ว่าจะติดเชื้อจากการไปสัมผัสภายนอก หรือแม้แต่การใช้กระดาษทิชชูซึ่งบังเอิญมีเชื้อเอชพีวี  ปนเปื้อนอยู่ โดยไม่มีพาหะนำเชื้อเข้าไป ก็มีโอกาสน้อยมากที่จะติดเชื้อเอชพีวีตรงบริเวณปากมดลูก 

สตรีที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสเอชพีวีนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นมะเร็งปากมดลูกเสมอไป เพราะส่วนใหญ่แล้ว เชื้อไวรัสจะหายไปเองในจำนวน 70-80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ติดเชื้อ และอัก 10-20 เปอร์เซ็นต์ ยังคงติดเชื้อต่อไป ถ้าติดเชื้อเอชพีวี  สายพันธุ์ที่เป็นอันตันตรายร้ายแรง ก็อาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ โดยต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยเร่งให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ง่ายขึ้น หรือทำให้เชื้อไวรัสติดอยู่ได้นานขึ้นด้วย เช่น การสูบบุหรี่

โรคมะเร็งปากมดลูกไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใดเมื่อติดเชื้อไวรัส เอชพีวี  แต่มักเกิดขึ้นประมาณ 10-20 ปีหลังจากนั้น โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งไม่กี่ชนิดที่เราสามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใส่ถุงยางอนามัยระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดการสัมผัสและรับเชื้อโรคโดยตรง การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเอชพีวี  สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรค รวมถึงควรหมั่นตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ เพราะถ้าตรวจพบความผิดปรกติตั้งแต่ระยะต้นๆ ก็อาจรักษาได้ทันก่อนที่จะลุกลามไปเป็นมะเร็ง

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการใช้กระดาษทิชชูเช็ดทำความสะอาดหลังจากเข้าห้องน้ำ จะไม่เป็นเหตุให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ก็ควรใช้เฉพาะกระดาษทิชชูที่สะอาด แห้ง ไม่เปียกชื้น เพื่อป้องกันแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้ออื่นๆ ที่สามารถแพร่เชื้อได้บนกระดาษทิชชู นอกจากนี้ ควรเลือกใช้ทิชชูที่ผลิตจากเยื่อกระดาษใหม่บริสุทธิ์ ไม่มีเยื่อกระดาษที่ผ่านการรีไซเคิลมาผสม ซึ่งมีพวกสารเคมี เช่น สารฟอกขาว สารเรืองแสง ตกค้างอยู่ และอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ในบางคน โดยสังเกตดูที่ฉลาก ระบุว่าผลิตจากเยื่อบริสุทธิ์และไม่มีสารเรืองแสง  หรือทดสอบด้วยการนำไปจุ่มน้ำ แล้วเอาขึ้นมาพักทิ้งไว้ ถ้าสีของเนื้อกระดาษทิชชูเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำคล้ำ แสดงว่ากระดาษทิชชูนั้นมีส่วนผสมของเยื่อกระดาษรีไซเคิลอยู่ด้วย


คอลัมน์: คิดอย่างวิทยาศาสตร์

เรื่อง: รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์

ภาพ: อินเทอร์เน็ต

 

ภาพประกอบ 1 – กระดาษทิชชู หรือกระดาษชำระ ที่มีใช้กันทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องน้ำ

ภาพประกอบ 2 – โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นความผิดปรกติของเซลล์บริเวณปากมดลูกของสตรี

ภาพประกอบ 3 – เชื้อไวรัสเอชพีวีที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้

All Creative Team

Writer

ร่วมสร้างสังคมอุดมปัญญา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!