ฉบับนี้จะว่าด้วยสำนวนไทยซึ่งมีที่มาเกี่ยวกับสัตว์ทั้งสัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก สัตว์บก สัตว์น้ำ เช่น เสือสิงห์กระทิงแรด หนูติดจั่น รู้อย่างเป็ด ฯลฯ
เสือสิงห์กระทิงแรด
ทั้งเสือ สิงห์ (สิงโต) กระทิง และแรด ล้วนเป็นสัตว์ป่าตัวใหญ่ดุร้ายน่ากลัว เพราะมีเขี้ยว เล็บ เขา และนอเป็นอาวุธที่ติดตัวมาโดยธรรมชาติ พวกมันสามารถกัดกินทิ่มแทงคู่ต่อสู้หรือเหยื่อของมันได้อย่างน่าสยดสยอง ยิ่งเมื่อนำชื่อสัตว์ร้ายเหล่านี้มากล่าวถึงรวมๆ กันก็ยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่น่ากลัวมากขึ้น
ได้มีผู้ใช้ “เสือสิงห์กระทิงแรด” เป็นสำนวนให้สื่อความหมายถึงกลุ่มบุคคลที่มีนิสัยและพฤติกรรมที่เป็นอันตรายไม่น่าไว้วางใจ ถ้ากล่าวโดยเฉพาะในแวดวงพวกนักการเมือง จะเห็นว่าบางคนมีกลอุบายหรือชั้นเชิงอันแยบยลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง แต่ปากก็พูดว่าจะทำเพื่อชาติและประชาชน เย็นวันหนึ่งภรรยาพูดกับสุวิชว่า “วันนี้นักการเมืองหลายคนมาหาเสียงในตลาด พอลับหลังฉันได้ยินพวกแม่ค้าบ่นว่าพวกนี้เชื่ออะไรไม่ได้ ล้วนแต่เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น สัญญาจะทำจะช่วยอย่างนั้นอย่างนี้ พอได้เป็นผู้แทนสมใจอยากแล้วก็หายหัว”
หนูติดจั่น
จั่นเป็นเครื่องดักสัตว์ทั้งในน้ำและบนบก มีรูปคล้ายกรง มีหลายชนิด ในที่นี้หมายถึงจั่นหับซึ่งด้านหน้ามีประตูปิดเปิดได้ ชาวบ้านใช้เป็นเครื่องดักหนู เมื่อหนูเข้าไปแล้วออกไม่ได้จึงติดอยู่ในจั่น มันก็จะกระวนกระวายเดินไปเดินมาเพื่อหาทางออก
กิริยาอาการของหนูติดจั่นถูกนำมาใช้เป็นสำนวนเปรียบกับบุคคลที่ประสบปัญหาแล้วหงุดหงิดงุ่นง่านเดินไปเดินมาเพราะหาทางที่จะแก้ปัญหาไม่ได้ เช่น ขณะนั่งดูโทรทัศน์ แม่เห็นลูกชายวัยรุ่นมีสีหน้ากังวลกระสับกระส่าย เดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่ง เดินไปเดินมามองไปที่ประตูหน้าบ้าน ก็ถามขึ้นว่า “มีอะไรรึเปล่าถึงได้เดินเป็นหนูติดจั่นอย่างนี้ บอกแม่ซิ”
รู้อย่างเป็ด
“เป็ด” เป็นสัตว์ปีก บินได้ ว่ายน้ำได้ ร้องได้ วิ่งได้ เดินได้ แต่ก็เพียงทำได้ แต่เป็ดไม่เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งโดดเด่นเป็นพิเศษ เช่น บินได้เพียงระยะใกล้ๆ ว่ายน้ำก็ไม่เก่งเหมือนปลา ร้องได้ก็ไม่เพราะเหมือนไก่ ขัน วิ่งได้และเดินได้แต่ไม่เร็วเหมือนสัตว์ปีกบางชนิด ด้วยความสามารถพื้นๆ ของเป็ดดังกล่าวมานี้ทำให้เกิดสำนวนเปรียบว่า “รู้อย่างเป็ด”
สำนวน “รู้อย่างเป็ด” หมายถึงมีความรู้และความสามารถหลากหลาย แต่ไม่มีคุณภาพเด่นพิเศษเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน เช่น นพพูดกับลักษณ์ถึงทวีว่า “นี่วันนี้เจ้าวีมันจะไปวิ่ง 400 เมตรแข่งกับนักกีฬาโรงเรียนคู่ปรับอีกแล้ว อั๊วว่ามันน่าจะเอาดีทางด้านอื่นดีกว่า เพราะวิ่งทีไรก็แพ้ทุกที แล้วมันก็ช่างขยันเล่นกีฬาทุกประเภท เอาดีไม่ได้ซักอย่าง เข้าทำนองที่ครูภาษาไทยสอนเรื่องสำนวน ‘รู้อย่างเป็ด’ จริงๆ สงสารมันว่ะ”
คอลัมน์: คมคำสำนวนไทย
เรื่อง: ยุพร แสงทักษิณ
ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์