ช่างรัช ช่างซ่อมยีนส์ในตำนาน

-

กางเกงยีนส์เป็นหนึ่งในไอเท็มเครื่องแต่งกายที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าวันนั้นเราอยากจะแต่งตัวแนวชิค แนวเท่ หรือแนวสบายๆ ยีนส์ก็สามารถตอบทุกโจทย์การแต่งกายได้เป็นอย่างดี แต่… ถ้ายีนส์ที่เราซื้อมาทรงสวยโดนใจ แต่ไม่สามารถใส่ได้พอดีกับตัวเราจะทำเช่นไร! “นักสืบเสาะ” ฉบับนี้ ขอพาทุกคนไปพบกับ “ช่างรัช” ช่างในตำนานที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการซ่อมยีนส์มามากกว่า 20 ปี สามารถซ่อมยีนส์ให้คุณได้ทุกความต้องการ สาวกยีนส์ทั้งหลายคงต้องเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม หรือเคยนำยีนส์ของตนไปซ่อมที่ร้านนี้

The Machine

เราเดินทางไปที่โรงหนังลิโด้ เมื่อเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 มองไปทางซ้ายมือก็จะพบกับร้าน The Machine ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นสะดุดตาในทันที หน้าร้านว่าเท่แล้ว ภายในตกแต่งเท่ยิ่งกว่า สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความวินเทจและความเท่แบบแมนๆ ของยีนส์ได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไป เราพบช่างรัชกำลังเย็บขากางเกงยีนส์อยู่ด้านในด้วยสีหน้ามุ่งมั่น เมื่อช่างเย็บกางเกงตัวนั้นเสร็จจึงหันมาคุยกับเราด้วยท่าทางสบายๆ ดูใจดี ให้อารมณ์ที่แตกต่างกับผู้ชายที่ทำงานด้วยท่าทีเคร่งขรึมทรงพลังเมื่อสักครู่อย่างสิ้นเชิง

ช่างรัชเล่าประวัติให้เราฟังว่าเดินทางจากสงขลา เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ในช่วงประมาณก่อนปี 2537 ในตอนนั้นช่างรัชได้ลองทำมาหลายงาน ทั้งงานรับจ้าง งานขายของในห้างสรรพสินค้า หรือแม้กระทั่งการเป็นช่างซ่อมแอร์ บังเอิญช่างรัชได้อาศัยร่วมบ้านกับคนที่ทำงานเย็บผ้า เลยได้ทำงานช่วยเขาไปด้วย จุดนี้เองที่ทำให้ช่างรัชเริ่มเย็บผ้าเป็น และตัดสินใจเลิกจากอาชีพรับจ้าง แล้วหันมาทำงานเย็บผ้าโหลแทน

ช่างรัช

หลังจากเย็บผ้าโหลมาได้สักพัก ช่างรัชได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้ไปรับจ้างตัดขากางเกงยีนส์ที่ศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์ ตอนแรกช่างรัชลังเลในคำชวน แต่ห้างมาบุญครองฯ ที่เพื่อนชวนไปนั้นเป็นแหล่งกางเกงยีนส์ Levi’s 501 ซึ่งฮิตมากในสมัยนั้น ช่างรัชจึงตัดสินใจลองไปทำดู ด้วยแรงจูงใจจากความหลงใหลใน Levi’s 501 มากกว่าการตัดขากางเกงยีนส์เสียด้วยซ้ำ

ช่างรัชอยู่ที่มาบุญครองมาตั้งแต่ปี 2537 และอยู่มายาวนานกว่า 17 ปี ช่วงนั้นถือได้ว่าเป็นช่วงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดของช่างรัชเลยก็ว่าได้ ทว่า… ทุกสิ่งเมื่อถึงเวลา ก็ต้องพบเจอกับการเปลี่ยนแปลง เมื่อประมาณปี 2556–2557 ช่างรัชต้องย้ายออกจากมาบุญครอง เนื่องจากมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนพื้นที่ ค่าเช่าปรับขึ้นสูงจนช่างรัชอยู่ต่อไม่ได้ ตอนนั้นจึงมีการย้ายกะทันหันมาอยู่ฝั่งสยามแบบสายฟ้าแล่บ อย่างไม่ทันตั้งตัว และไม่ได้มีการแจ้งข่าวบอกลูกค้าเก่าที่เคยแวะเวียนมาที่ร้านก่อน การย้ายร้านมาอยู่ที่สยามของช่างรัชจึงเปรียบเสมือนการมาเริ่มนับ 1 ใหม่ จากธุรกิจที่เคยได้รายได้หลักแสน กลับลดลงเหลือเพียงหลักหมื่น

อย่างไรก็ดี ผลงานที่ช่างรัชสร้างไว้ไม่ได้สูญหายไปไหน ลูกค้าที่เคยติดใจในบริการ ก็เสาะแสวงหาจนเจอร้านของช่างรัชในที่สุด

The Machine

แต่เดิมร้านที่เปิดในห้างมาบุญครองใช้ชื่อว่า “ร้านช่างรัช” จนย้ายมาอยู่สยามและเริ่มมีทีมงานที่ใหญ่ขึ้น ช่างรัชและลูกชายที่เข้ามาช่วยกิจการได้มีการคุยและเปลี่ยนชื่อร้านใหม่เป็น “The Machine” ซึ่งความหมายของคำว่า The Machine คือเครื่องจักร และช่างคือคนที่อยู่เบื้องหลังของเครื่องจักร ช่างรัชขยายความต่อว่า เมื่อลูกค้าซื้อยีนส์มา อาจจะตอบโจทย์ความต้องการแต่ไม่ตอบใจ คือยีนส์ที่ซื้ออาจจะเป็นรุ่นที่ใช่แต่กลับใส่ไม่ได้ ดังนั้นลูกค้าที่มาหาเรา เขาต้องการอะไรที่มันตอบใจ เลยมาให้เราแก้ยีนส์ให้ใส่ได้พอดี เราจึงเป็นเหมือนผู้อยู่เบื้องหลังความพึงพอใจของผู้คนที่ใส่ยีนส์เหล่านั้น

จุดเด่นของร้าน The Machine ที่ทำให้ช่างรัชเป็นตำนานขึ้นมา ช่างรัชกล่าวว่า เป็นเรื่องของฝีมือและเครื่องมือ สองสิ่งนี้ต้องควบคู่กันไป เพราะเมื่อฝึกฝนฝีมือจนสามารถแล้ว ยังต้องอาศัยเครื่องมือที่จะมาซัพพอร์ตฝีมือด้วย และเมื่อบวกกับการบริการที่มีความชัดเจน ยิ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ทางร้านรับซ่อมยีนส์ทุกประเภทภายใต้สโลแกน โหลดเอว คว้านเป้า เว้าเข่า เขย่าสะโพก โยกปลายขา ตัดปะ อัตราค่าบริการเริ่มตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับว่าซ่อมอะไรบ้าง

Union Special

อีกหนึ่งความพิเศษของร้านคือจักร “Union Special” จักรรุ่นเก่าใช้สำหรับเย็บปลายขาลูกโซ่ ซึ่งมีเพียงไม่กี่ร้านที่จะมีจักรตัวนี้ Union Special เป็นจักรที่เคยถูกใช้ที่ประเทศอเมริกา และเคยเย็บยีนส์ Levi’s มาก่อน ลูกค้าส่วนมากจะรู้กันหมดว่าที่ร้านช่างรัชมีจักรตัวนี้ จึงเลือกมาซ่อมที่นี่ ณ ปัจจุบัน ราคาของจักรตัวนี้สูงถึงหลักแสนบาทแล้ว ในขณะที่ช่างรัชซื้อในราคาหลักหมื่นเท่านั้น ไม่เพียงแค่นั้น ช่างรัชนับเป็นเจ้าแรกๆ ที่นำจักรตัวนี้มาตัดขากางเกงแบบลูกโซ่ ช่างยีนส์ในตำนานกล่าวถึงความพิเศษของการนำจักรชนิดนี้มาใช้ว่า เส้นด้ายที่ร้อยเรียงบนเนื้อผ้าและอรรถรสของมันเสมือนงานศิลปะแบบเก่า คือมีความดิบ ความบึกบึน และความดุดันอยู่ในตัว คนทั่วไปอาจจะแยกไม่ออก แต่ถ้าเป็นช่างซ่อมซึ่งคลุกคลีอยู่กับสิ่งเหล่านี้จะสัมผัสได้ถึงอรรถรสเหล่านี้ ซึ่งแตกต่างจากการเย็บแบบธรรมดาทั่วไปได้ ที่จะไม่ได้อรรถรส และไม่ได้กลิ่นอายของความเป็นวินเทจ!

ใครอยากสัมผัสความเท่ในสไตล์วินเทจ สามารถแวะเวียนนำกางเกงไปว่อมกับช่างรัชกันได้ที่ร้าน The Machine

 


The Machine Bkk

เฟซบุ๊ก: The Machine Bkk
ติดต่อได้ที่ 08 1836 5729 (ช่างรัช)
ร้านอยู่ที่สยาม ชั้น 2 โรงหนังลิโด้
เปิดบริการทุกวัน 12.00-20.30 น.

All magazine พฤศจิกายน 2560

กัตติกา

Writer

กองบรรณาธิการ เด็กโบราณคดีเอกไทย ผู้พ่ายแพ้ต่อแมวเหมียวและสิ่งมีชีวิตน่ารัก ชื่นชอบการดูหนังและสีเขียวแต่ดันมีเสื้อสีฟ้ามากกว่าเพราะคิดเอาเองว่าใส่แล้วสวย

อนุชา ศรีกรการ

Photographer

ช่างภาพที่เกิดวันเดียวกับวันถ่ายภาพโลก เลยทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้ว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!