แท็ก: เรื่องสั้น
วิทยัญ
วิทยัญ
........
ศาสตราจารย์สุรพลคลี่ยิ้มและปรบมือเสียงดังนำทุกๆ คนในห้องประชุม เมื่อกฤษฎาวางปากกาเมจิกลงแล้วก้าวถอยออกมาจากภาพที่เขาเพิ่งวาดเสร็จลงสดๆ
เสียงปรบมือและโห่ร้องด้วยความชื่นชมกึกก้องต่อเนื่องสะท้อนไปมาอีกนานหลายวินาทีจนกฤษฎามีท่าทางกังวล หวาดกลัว เขาย่อตัวลงเอามือปิดหู และหลับตา จนทีมงานคนอื่นๆ และแม่ของเขาต้องมาช่วยประคองเขาลงจากเวที หลายคนอุทานแสดงความเห็นใจ แต่อีกหลายคนกลับหัวเราะขัน
“นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่า สมองของมนุษย์มหัศจรรย์แค่ไหน จากคนที่เคยช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้ กลายเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะในชั่วเวลาเพียงไม่นาน ต้องยกความดีให้ทีมงานวิจัยของเรานะครับ ที่ทำให้ทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีจนถึงเดี๋ยวนี้...”
ศาสตราจารย์วัยห้าสิบสองปียังคงพูดต่อไปอีกเรื่อยๆ ในขณะที่กฤษฎาหลบลงมานั่งอยู่กับแม่ของเขาที่ด้านหลังเวที ชายหนุ่มไม่ชอบเสียงดังอึกทึกแบบนี้เอาเสียเลย มันทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย ตอนนี้เขาอยากกลับบ้าน
ก่อนหน้านั้นสามปี
“สิ่งที่เราจะทำกันนี้เรียกว่า Transcranial Magnetic Stimulation เป็นการส่งคลื่นไฟฟ้ารบกวนสมองซีกซ้าย...
กะทิ แกง ขวิด โควิด-19
กะทิ แกง ขวิด โควิด-19
........
เช้าวันนี้สามีตื่นมาก็อดขำตัวเองไม่ได้ที่เก็บเรื่องภรรยาบ่นไวรัสโควิด-19 ทำเอาคนจิตตก ไปฝันเป็นตุเป็นตะ
ในความฝันตัวเขาเองเดินตามถนนโล่งๆ หาซื้อข้าวกิน แต่ไม่มีร้านเปิดขายสักร้าน หิวมาก เดินจนสุดท้ายก็ตกใจตื่น ท้องร้องจ๊อกกก... ต้องลงไปมองหาอาหารจนเจอเป้าหมาย ปลิดกล้วยน้ำว้าลูกหนึ่งปอกเคี้ยวกลืนลงท้อง แล้วตามด้วยน้ำเปล่าสองแก้วเต็มๆ พอประทังหิวไปได้
ในเมื่อตื่นเต็มตาสามีก็ไม่อยากนอนต่อแล้ว เหลียวมองดูนาฬิกาบนผนัง ก่อนหน้านี้เคยคิดจะลาออกจากงานประจำมารับงานนอกทำที่บ้าน พักหลังงานฝิ่นมีมากจนเบียดเวลางานประจำแต่ก็เป็นที่มาของรายได้จำนวนไม่น้อยแม้รู้ดีว่ารายได้เหล่านี้ไม่แน่นอน
ทว่าสุดท้ายก็ต้องถูกบีบให้ออก หลังพิษโควิด-19 เล่นงาน บริษัทอ้างว่าไม่มีงาน อยากให้ช่วยๆ กันหน่อย ยังดีที่ให้เงินล่วงหน้ามาสองเดือน...
ไอ้ขอด (ตอนจบ)
ไอ้ขอด (ตอนจบ)
........
จนกระทั่งคืนหนึ่ง ที่นนท์ได้รับมอบหมายให้ติดตามนายไปที่บ้านของคู่อริ เพื่อตามเงินจำนวน 20 ล้าน ที่ตกลงส่งมอบกัน แล้วหายสาบสูญไป นนท์และทีมอีก 4-5 คน เตรียมประจำการ คนขับรถ ต้นทาง และผู้ติดตาม
นายสั่งให้พวกนนท์จับคนในบ้านนั้นมัดมือไว้ด้านหลังแล้วมานั่งรวมกันที่โถงข้างล่าง นายพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้คู่อริยอมมอบเงินจำนวน 20 ล้านคืนมาตามที่ตกลงกันไว้
ทว่าเจ้านั่นยืนยันเสียงแข็งไม่ยอมคืนเงินให้ ซ้ำมีสิ่งที่ยั่วยุให้นายโกรธมากขึ้นไปอีก นั่นคือเห็นได้ชัดว่าทุกคนในบ้านหลังนี้ แต่งตัวและเตรียมข้าวของลงกระเป๋าเดินทางเรียงรายเรียบร้อย คงมีเจตนาเดินทางหนี หากมาช้ากว่านี้อีกเพียงนิดเดียว เงินของนายคงถูกหอบหายสูญไปแล้ว
นายให้นนท์จับตัวแม่ของมันลุกขึ้นมา...
ไอ้ขอด (ตอนแรก)
ไอ้ขอด (ตอนแรก)
........
“ผมรวยแล้วนะพ่อ” นนท์ยืนยิ้มเศร้าอยู่หน้ากรอบภาพถ่ายเก่าคร่ำคร่า กรุกระจกติดประดับอยู่บนกำแพงหน้าช่องบรรจุอัฐิ ระบุชื่อนามสกุลวันเกิดและวันตายของชายผู้ให้กำเนิดเขา
ในมือข้างซ้ายของเขากระเป๋าเดินทางหิ้วแบบมีซิปรูดใบใหญ่ ในนั้นบรรจุธนบัตร มัดด้วยยางเป็นฟ่อนจำนวนมาก นนท์เองก็ยังไม่ได้นับหรอกว่ามันมากเท่าไร แต่เขาแน่ใจว่าเงินจำนวนนี้น่าจะมากพอที่จะทำให้แม่กับน้องได้มีชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสุขสบายได้
“นี่ไง ไอ้ลูกไม่เอาไหนของพ่อ วันนี้กลับมาแล้ว ดูนี่ รู้ไหมในนี้มีอะไร พ่อคงไม่มีปัญญาแม้จะเกิดใหม่อีกกี่ชาติ ต่อไปนี้ผมจะดูแลแม่กับไอ้แนนเอง จะดูแลให้ดีกว่าที่พ่อเคยทำอีก พ่อคอยดูนะ“ เขายื่นกระเป๋าออกไปข้างหน้า ราวกับกำลังตั้งใจจะพูดกับใครคนหนึ่งที่อยู่ตรงนั้น
เมื่อแปดปีที่แล้ว ตอนที่นนท์อายุได้ 14 ปี แนนอายุ 13...
ความหิวของคนรวย (ตอนจบ)
ความหิวของคนรวย (ตอนจบ)
........
“ดีจังนะฮะ” เสียงผู้โดยสารว่า “ผมอายุพอๆ กับคุณ ใฝ่ฝันแค่อยากมีบ้าน แต่ไปขอกู้ธนาคารซื้อบ้านหลังแค่ล้านกว่ายังไม่ผ่าน จะกู้เงินมาเปิดร้านขายหนังสือก็ไม่ผ่าน เขาบอกว่าอาชีพผมรายได้ไม่ค่อยมั่นคง บริษัทคุณคงไม่เคยต้องกู้เงินธนาคารมาลงทุนขยายกิจการหรืออะไรทำนองนั้นใช่ไหม”
ตะวันถอนหายใจ แสดงท่าทางเบื่อหน่ายความเขลาของผู้ร่วมสนทนา “ถึงกู้ผมก็กู้ด้วยตัวเอง มันเป็นเครดิตของผม ไม่ได้ไปขอให้ใครช่วย ธนาคารไม่ใช่สถานสงเคราะห์นี่ฮะ จะให้ใครกู้ก็ต้องดูความเสี่ยงให้ใครมั่วซั่วได้ที่ไหน อย่ามาอ้างคนจนลำบากหน่อยเลยฮะ ใครก็ลำบากทั้งนั้น ชอบพูดกันจัง คนรวยๆ ที่ไม่เคยหิว ไม่มีวันเข้าใจว่าความหิวของคนจนเป็นยังไง แหม
“มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเคลมว่ามีแต่ตัวเอง มีแต่คนจน...
ความหิวของคนรวย (ตอนต้น)
ความหิวของคนรวย (ตอนต้น)
........
ที่บริเวณลานจอดรถสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ใกล้บริเวณจัดงานมอบรางวัลวรรณกรรมชื่อดังระดับประเทศ หญิงสาวสวยน่ารัก ท่าทางสง่างามภูมิฐาน ยิ้มหวาน
“รบกวนด้วยนะคะ เพื่อนแอมไม่ได้เอารถมา ซอยนี้ลึกมาก แล้วมันก็ดึกแล้วด้วย ขอแค่ออกไปถึงถนนใหญ่ก็พอค่ะ” เธอทำท่าเกรงอกเกรงใจอยู่ข้างรถเบนซ์สีบรอนซ์ทองคันงาม “แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ”
ชายหนุ่มทำตาโต รีบยกมือโบก “เฮ้ย ไม่เป็นไรครับ สบายมาก เพื่อนคุณแอมก็เพื่อนผม อีกอย่างยังไงผมก็ต้องขับออกไปทางถนนใหญ่อยู่ดี” เขาว่าพลางยกข้อมือขึ้นถลกชายเสื้อสูทเพ่งนาฬิกาเรือนละสามแสนเงาวับ หน่วงเวลานิดหน่อยอย่างแนบเนียนเป็นธรรมชาติเหมือนไม่จงใจ “นี่เพิ่งห้าทุ่ม ถ้ารีบหน่อยเราน่าจะทันรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้าย สะดวกไปรถไฟฟ้าไหมครับ”
เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณงานได้สักครู่หนึ่ง สายลมจากเครื่องปรับอากาศในรถเย็นฉ่ำ...
ผีไร้หน้า (ตอนจบ)
ผีไร้หน้า (ตอนจบ)
........
ตราบใดที่ยังเป็นคนนอก เป็นคนอื่น จะไม่มีใครเห็นใบหน้าของเรา แต่ถ้าเราเป็นพวกเดียวกัน มีใบหน้าเดียวกันแล้ว ได้รับการยอมรับแล้ว นั่นแหละตัวตนของเราถึงจะชัดเจนขึ้น
แพทตี้หัดหัวเราะกับมุกตลกโง่ๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติ เล่นมุกเสี่ยวๆ ที่พวกดาราในทีวีกำลังนิยม ติดตามละครหลังข่าวเรื่องดัง และหัดฟังเรื่องนินทาโดยเฉพาะเรื่องลับข่าวคาวของเพื่อนที่เพิ่งเดินหันหลังออกจากกลุ่ม
สีผม เสื้อผ้า การแต่งหน้าก็สำคัญ คิ้วที่โก่งไป บางไป หรือหนาไปเพียงนิดเดียวจะทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกในวงนินทาหน้ากระจกห้องน้ำหญิงเอาได้ง่ายๆ สีลิปสติกต้องไม่ซีดเหมือนคนป่วย และไม่สดเหมือนเพิ่งไปกินเลือดใครมา ต้องไม่เตะตาจนเกินไป และต้องไม่จมหาย
ย้ายไปเช่าคอนโดหรูชื่อดังกลางใจเมืองที่เธอจะไม่อายเวลาใครถามถึงที่อยู่
แต่กระนั้น บางอย่างก็ยังทำให้เธอรู้สึกเข้าไม่ถึงโอกาสสูงสุดในหน้าที่การงาน
แพทตี้ปวดร้าวเหมือนถูกขยี้ส้นเท้าลงบนแผลเดิมๆ เมื่อสังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่หน้าตาดีในที่ทำงาน...
ผีไร้หน้า (ตอนแรก)
ผีไร้หน้า (ตอนแรก)
........
ฤดีเข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ความรู้สึกแปลกแยก แตกต่างจากคนที่นี่ ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเป็นคนนอกเสมอ อยู่อีกฝั่งของกำแพงที่มองไม่เห็น แต่รับรู้ได้ รู้สึกได้
ฤดีมาอยู่กับป้าเมื่ออายุได้ห้าขวบ หลังจากแม่ตายและพ่อมีภรรยาใหม่ อันที่จริงป้าอยากจะรับลดาน้องสาวของเธอมาอยู่ด้วย แต่เนื่องจากป้าเองเป็นสาวโสด ทำงานขายข้าวแกงหน้าบ้านไม่ค่อยมีเวลาดูแลเด็กเล็ก เลยรับฤดีที่พอจะดูแลตัวเองได้บ้างแล้วมาแค่คนเดียว
เด็กหญิงรู้ตัวดีตั้งแต่วันนั้น ว่าตนมาอยู่กับป้านี้ เป็นการเพิ่มภาระดูแลให้กับป้า จึงไม่สร้างปัญหาเพิ่ม แต่พยายามช่วยเหลืองานป้าเท่าที่ตนจะทำได้ เป็นเด็กเรียบร้อย ตั้งใจเรียนเมื่ออยู่ที่โรงเรียน และขยันขันแข็งช่วยงานที่ร้านไม่เคยปริปากบ่น
ป้าของเธอเป็นคนไม่ค่อยพูดและไม่แสดงออกทางอารมณ์มากนัก ไม่เคยบอกรัก กอด หอมแก้ม ไม่เคยซักถามเรื่องที่โรงเรียน...
รักแรกพบของศพไร้หัว (ตอนจบ)
รักแรกพบของศพไร้หัว (ตอนจบ)
........
คำว่า เคย ทำให้ฉันเจ็บแปลบ นั่นหมายความว่ามันเป็นอดีต มันผ่านไปแล้ว และจะไม่มีวันหวนกลับมาอีกใช่ไหม เคยรักกัน เคยเป็นแฟนกัน เคยเป็นคนสำคัญ แค่เคยเท่านั้น...
“อโหสิกรรมให้พี่ด้วยนะพิม” นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ฉันได้ยิน ก่อนจะลอยคว้างเข้าไปในพงหญ้า เผยอปากอ้า ดวงตาเบิกค้าง จ้องมองลวดลายเนื้อผ้าและผิวด้านในของถุงพลาสติกที่กำลังมีไอน้ำเริ่มเกาะ
ในขณะที่อีกสถานที่หนึ่ง ร่างของฉันยังคงนอนตะแคงกางขา 45 องศาเป็นรูปกรรไกร ครึ่งบนอยู่ในพงหญ้า ครึ่งตัวล่างอยู่บนพื้นซีเมนต์
หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานถ่ายรูปและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเบื้องต้นแล้ว ฉันก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสจากฝ่ามือใหญ่นุ่มอุ่นคู่หนึ่ง ขยับขาฉันชิดกัน และดึงกระโปรงลงคลุมเข่าด้วยกิริยาอาการราวกับฉันเป็นเด็กสาวคนหนึ่งที่ยังคงต้องการการปกป้อง...
รักแรกพบของศพไร้หัว (ตอนแรก)
รักแรกพบของศพไร้หัว (ตอนแรก)
........
อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าฉันก็จะได้เห็นหน้าเขาแล้ว... ตื่นเต้นจัง!
ต้องขอบคุณอาจารย์ธนา ชายคนรักคนแรกในชีวิต ผู้เป็นเจ้าของดอกไม้พรหมจรรย์ของฉัน ก่อนที่จะโยนมันไปกองรวมไว้กับดอกอื่นๆ ที่เขาเคยได้ อย่างน้อย เขาก็เป็นคนมอบโอกาสเข้าถึงประสบการณ์มหัศจรรย์นี้ให้ฉัน โอกาสที่ฉันไม่คิดว่าจะมีใครได้รับง่ายๆ
มันแปลกประหลาดน้อยเสียเมื่อไหร่ที่ฉันได้รับรู้ว่ายังคงรู้สึกและรับรู้ได้ ยังคงจดจำทุกสิ่งทุกอย่างแม้จะตายแล้ว ที่แปลกกว่านั้น คือยังรับรู้ได้ครบถ้วน ทั้งที่ร่างกายส่วนหัว และส่วนต่ำกว่าคอลงไป อยู่กันคนละที่ ห่างหลายกิโลเมตร
จะว่าไปแล้ว นี่มันไม่เหมือนกับที่ฉันเคยรับรู้มาก่อนหน้านี้เลยว่า คนเราหากตายแล้ว วิญญาณจะต้องออกจากร่าง อาจจะเป็นคล้ายๆ ร่างมนุษย์แฝดที่บางโปร่งแสง หรือสภาพเหมือนตอนก่อนตาย...