แท็ก: นิยาย น.นพรัตน์
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 24 ตอนที่ 60 :: ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
๖o
♦ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ♦
...............
ฉี้อิงเป็นผู้ทรงฝีมือ เมื่อได้ยินจึงพอจะเข้าใจอย่างเลือนราง แต่นางครุ่นคิดมิออกว่า หากไม่ไปขึ้นบนเวที จะมีวิธีใดช่วยเหลือกิมเม้งตี้ได้?
กี้เฮียงเค้งคล้ายดั่งมิร้อนรุ่ม กล่าวอีกว่า
“นิสัยเดิมของเขา เป็นผลร้ายต่อการฝึกหัดวิชาดาบพุทธไร้เทียมทาน ดังนั้นบัดนี้เขาพอแสดงนิสัยดั้งเดิมก็เปิดเผยจุดอ่อนในข้อขาดสมาธิสำรวมตน”
“ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าจะช่วยเหลือกิมเม้งตี้ได้อย่างไรกัน?”
“หนทางเพียงประการเดียวก็คือบีบบังคับฝ่ายตรงข้ามแสดงจุดอ่อนบ้าง”
บุคคลอื่นหากกล่าวเช่นนี้ ฉี้อิงย่อมต้องด่าว่าเป็นวาจาบัดซบทีเดียว กี้เฮียงเค้งพลันส่งเสียงบอกกับนางอย่างแผ่วเบาหลายประโยค
ฉี้อิงเข้าใจในบัดดล ผนึกพลังขึ้นจากจุดตังชั้งส่งเสียงดังกังวานว่า
“กิมเม้งตี้ ผู้แซ่ซ่งคือยอดฝีมือของสถาบันอำมหิต ท่านหากกำจัดคนผู้นี้ไปได้ ยังประเสริฐกว่าสร้างสมบุญกุศลถึงสิบชาติ”
สุ้มเสียงมิถึงกับกึกก้อง แต่ทุกถ้อยคำแว่วกระทบโสตผู้คนอย่างชัดเจน เพียงแต่ว่าใจความออกจะน่าหัวร่อ เนื่องจากขณะนี้เป็นขั้นพิสูจน์ความเป็นความตายของกิมเม้งตี้ มันไฉนมิคิดเอาชัยฝ่ายตรงข้ามเล่า?”
ฉี้อิงกลับกล่าวอีกว่า
“กิมเม้งตี้มานะพยายามด้วย ควรทราบว่าชีวิตของผู้คนจำนวนพัน ฝากฝังอยู่กับการประหารคู่ต่อสู้ของท่านเท่านั้น”
วาจาเมื่อกล่าวออกไป มิถึงห้ากระบวนท่ากิมเม้งตี้พลังแผ่อานุภาพอย่างรุนแรง...
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 24 ตอนที่ 59 :: รำลึกถึงความหลัง
๕๙
♦ รำลึกถึงความหลัง ♦
...............
ภายในห้องโถง ประดับประดาด้วยผ้าม่านสีแดงปักรูปซังฮี้ (มงคลคู่) และเทียนไขมหึมา ทั้งยังจัดที่นั่งไว้รับรองบุคคลที่มีเกียรติ กิมเม้งตี้ในชุดวิวาห์ ได้ปราศรัยกับเหล่าอาคันตุกะ เจ้าสาวยังไม่ปรากฏขึ้น เจ้าภาพเทพเจ้าสันโดษก็มิแสดงตน
ขณะนั้นเอง ทาสชายผู้หนึ่ง ได้เข้ามารายงานว่าฉี้น่ำซัวนำพาฉี้อิง ปึงเซียะ นางแมงมุมขาว มาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ พร้อมกับมอบของขวัญมิน้อย
พริบตาเดียว ในกลุ่มคนที่แน่นขนัด ได้แตกแยกเป็นช่องหนึ่งแลเห็นฉี้น่ำซัวนำพวกฉี้อิง ภายใต้การต้อนรับของตงเอ็กลิ้มแห่งสำนักไท้เก๊กผู้แลทั่วไปในงานวิวาห์นี้ เข้าสู่ห้องโถงใหญ่
กิมเม้งตี้ดาหน้าเข้าไป ปฏิสันถารกับพวกฉี้น่ำซัว ตลอดเวลาฉี้อิงได้เย็นชากระด้างต่อกิมเม้งตี้ มิแยแสสนใจ...
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 24 ตอนที่ 58 :: เทพธิดาเมฆา
๕๘
♦ เทพธิดาเมฆา ♦
...............
กิมเม้งตี้จดจำคำกำชับของกี้เฮียงเค้งได้ จึงร้องดังๆ ว่า
“ถูกต้อง แต่เรื่องเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับท่าน?”
อิสตรีในรถม้ากล่าวว่า
“กี้เฮียงเค้งคือวีรสตรี ทั่วใต้หล้าล้วนสยบยอมต่อภูมิปัญญาของนาง ข้าพเจ้าในฐานะอิสตรี รู้สึกว่านางได้แก่งแย่งชื่อเสียงให้กับเพศหญิงมิน้อย ดังนั้นข้าพเจ้าสมควรกระทำเพื่อนาง โดยล้างแค้นแทนท่าน”
“เจตนาดีของโกวเนี้ย เราขอรับด้วยใจ ผู้ทรงฝีมือของสถาบันอำมหิตเคยหักล้างกับเรามาก่อน แต่มันยังมิโค่นข้าพเจ้าล้มไป”
สตรีในรถม้าหัวร่อเสียงเจื้อยแจ้วกล่าวว่า
“บัดนี้ได้เห็นท่าน แสดงว่าวาจาที่กล่าวมาเป็นความจริง แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้ากลับทำให้ท่านไม่มีทางเลิกร้าง เนื่องจากอาศัยเกียติภูมิของท่าน วันนี้หากมิอาจแลเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของข้าพเจ้านามผู้ทรงฝีมืออันดับหนึ่งแห่งยุค ก็ต้องมอบให้กับข้าพเจ้าใช่หรือไม่”
กิมเม้งตี้ครุ่นคิดขึ้นว่า
“...สตรีนี้มีเจตนากระตุ้นให้เราลงมือ ย่อมต้องมีจุดประสงค์อันเร้นลับ เราสมควรไม่สนใจ แต่ขณะนี้มีชนชาวบู๊ลิ้มร่วมอยู่มิน้อย...
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 23 ตอนที่ 57 :: รถม้ามหาภัย
๕๗
♦ รถม้ามหาภัย ♦
...............
กี้เฮียงเค้งมิแสดงความหวั่นวิตก กล่าวว่า
“ข้าพเจ้าไม่คัดค้าน เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านก็มีความมั่นใจ และมีพลังกำลังสามารถหักโค่นบริวารของอลัชชีโลกันตร์แล้ว”
“ท่านทราบได้อย่างไร?”
“บุคคลที่มีพลังฝีมือเฉกเช่นท่าน ในใจย่อมเสาะหาคู่มือคนหนึ่ง จึงยินยอมมานะฝึกปรือ ดังนั้นท่านพอพาดพิงถึงซิเล้ง แสดงว่าในใจของท่านได้ไม่เห็นว่าบริวารของอลัชชีโลกันตร์คือคู่ต่อสู้แล้ว
กิมเม้งตี้กล่าวว่า
“ถูกต้อง เรารู้สึกว่าจับฮึงไต้ซือสามารถนับเป็นคู่มือ แต่มันเมื่อเป็นหลวงจีนที่ทรงปริยัติธรรม เราก็จะไม่ขอท้าทายมัน”
“ข้าพเจ้าจะตักเตือนท่านสักคำหนึ่ง อลัชชีโลกันตร์มีความลึกซึ้งเปี่ยมเล่ห์อุบาย และมันหากไม่มีความมั่นใจ ย่อมไม่กล้ารุกรานบู๊ลิ้ม ดังนั้นท่านมิอาจเข้าใจว่า บริวารของมันมีผู้ฝึกหัตถ์เทพยดาไร้เทียมทานเพียงผู้เดียว ในความเห็นของข้าพเจ้า อย่างน้อยต้องมีสองคน”
กิมเม้งตี้ขมวดคิ้วเข้าหากัน แต่แล้วก็กล่าวว่า
“ถ้าเช่นนั้นเราต้องแสดงความสามารถให้พวกมันได้ดูกันจนฝ่ายตรงข้ามมิกล้ารังควานพวกเรา”
มันหัวร่ออย่างนุ่มนวล...
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 22 ตอนที่ 56 :: วาสนาอีกชาติหนึ่ง
๕๖
♦ วาสนาอีกชาติหนึ่ง ♦
...............
สองวันผ่านพ้นไป ล้วนไม่มีเหตุการณ์อุบัติขึ้น กิมเม้งตี้ขณะที่นั่งผนึกลมปราณ พลันได้ยินนอกประตูห้องแว่วสำเนียงอันแผ่วเบาคล้ายดั่งใบไม้ร่วง
มันสะท้านใจวาบ คำนึงว่า
“...นี่แสดงว่าเป็นเสียงฝีเท้าเหยียบย่ำพื้นดินของผู้มีพลังฝีมือสูงเยี่ยม บุคคลนี้สามารถเร้นกายเข้ามาในระยะใกล้ชิด เราค่อยรู้สึกตัว ทั้งๆ ที่กำลังนั่งผนึกกำลัง อาศัยวิชาตัวเบาเช่นนี้ก็นับว่าน่าสะท้านโลก...”
ดังนั้นจึงกระทำตามแผนที่กำหนดไว้ ล้มกายลงบนเตียงนอน แสดงท่วงท่ากำลังหลับใหล
ประตูห้องพลันถูกผู้คนผลักเปิดออก บังเกิดสุ้มเสียงดังขึ้น
กิมเม้งตี้เพียงลืมตาข้างเดียวมองออกไป แลเห็นหน้าประตูยืนหยัดไว้ด้วยบุรุษชุดดำสนิท ศีรษะใช้ผ้าดำคลุมปกปิดโฉมหน้าเอาไว้
เพราะเหตุนี้ กิมเม้งตี้จึงเพียงสามารถคำนวณจากส่วนสัดของผู้ที่มาว่า ฝ่ายตรงข้ามหาใช่ผู้ชราภาพ สำหรับใบหน้าท่าทางมิอาจทราบได้
มันรีบพริ้มตาลง แสดงท่วงท่าที่ทอดอาลัย ผู้คลุมหน้าชุดดำมีประกายตาดั่งสายฟ้า เขม้นมองอย่างคมกล้าอยู่เนิ่นนาน...
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 22 ตอนที่ 55 :: พลังจิตสองสุดยอด
๕๕
♦ พลังจิตสองสุดยอด ♦
...............
ซิเล้งในสถานการณ์ที่ขาดแคลนเสบียงอาหารเช่นนี้ หากแม้นถูกกักอยู่ในความมืด และพบแต่ความเปล่าเปลี่ยว ตนก็จะกัดกินเสบียงอาหารจำนวนมากอย่างลืมตัว ดังนั้นอีกมินานก็ต้องอดตายไป ซึ่งอาจก่อนจะคลุ้มคลั่งเสียอีก
บัดนี้สภาพการณ์พอเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ข้อแรกซิเล้งก็มิต้องอยู่ในความมืดมิดสนิทอีก โดยนัยกลับภายในห้องเทพเจ้ามีแสงสว่างยิ่งนัก
นี่ทำให้ตนสำนึกไปว่า ทางเดินที่คล้ายกับใยแมงมุมทางด้านนอก คราก่อนก็มีแสงสว่างเช่นเดียวกัน เพียงแต่ภายหลังล้วนถูกปิดสกัด ทำให้กลับกลายเป็นมืดมิด
ข้อที่สอง ภายในห้องเทพเจ้ามีความอบอุ่นเหลือแสน ซากสังขารของปรมาจารย์ทั้งสองท่านบนเตียงศิลาเสมือนกับเป็นผู้มีชีวิต ทำให้ตนบรรเทาความรู้สึกที่เปล่าเปลี่ยวเดียวดายมิน้อย
ข้อที่สาม วิชาพลังจิตสองสุดยอดนี้ ทำให้ซิเล้งต้องหมกมุ่นฝึกปรือ บุคคลหนึ่งเวลาไม่มีเรื่องราวกระทำ ย่อมทรมานยิ่งนัก ตรงกันข้าม พอมีเรื่องวุ่นวาย...
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 22 ตอนที่ 54 :: มรสุมระลอกซ้ำ
๕๔
♦ มรสุมระลอกซ้ำ ♦
...............
ฉี้อิงส่งเสียงกล่าวว่า
“หากแม้นพวกมันเป็นเพียงชนชั้นสามัญ ยามเสี่ยงชีวิตอาจจะรุนแรง แต่ผู้ทรงฝีมือแห่งยุคได้มาชุมนุมกันในที่นี้ คงไม่ลำบากต่อการสกัดขัดขวาง”
นางแมงมุมขาวกล่าวว่า
“เจ้เจ๊เข้าใจผิดแล้ว บุคคลเหล่านั้นพอเริ่มลงมือ พลังฝีมือจะเพิ่มพูนหลายเท่าตัว กอปรกับต่อสู้อย่างมิคิดชีวิต ความจริงมีไม่กี่คนที่ต้านทานพวกมันเอาไว้ได้!
“อือม์ คราก่อนได้ยินท่านบอกว่า อลัชชีโลกันตร์เพาะขบวนนางเฒ่าขี้ผึ้งจำนวนหนึ่ง ทุกผู้คนจู่โจมได้ครั้งเดียวก็เสียชีวิต ดังนั้นจึงรู้ร้ายกาจอย่างสุดแสน ขณะนี้บุคคลสิบกว่าคนนั้น ก็คงนำชัชวาลแห่งชีวิต ใช้ออกในคราเดียว ก็จะเผาผลาญหมดสิ้น อานุภาพจึงเพิ่มพูนกว่าปรกติหลายเท่าตัว”
นางแมงมุมขาวกล่าวว่า
“ถูกต้อง พวกมันเหล่านี้จึงน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก ขอเพียงแต่มีกำลังเคลื่อนไหว ก็จะใช้ออกโดยมิเลิกรา ดังนั้นเฒ่าเอกะประหลาดจึงไม่วิตกกังวลและไม่คำนึงถึงชีวิตของเตียกงหมงเลย”
ปึงเซียะก็กล่าวขึ้นว่า
“คำนวณจากพลังฝีมือของชนชั้นจูกงเม้ง...
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 21 ตอนที่ 53 :: ประมุขสำนักมหากาฬ
๕๓
♦ ประมุขสำนักมหากาฬ ♦
...............
จับฮึงไต้ซือกล่าวว่า
“ประสกเฒ่าเกรงใจไปแล้ว ท่วงท่าของท่านแสดงว่าได้ฝึกปรือวิชาลมปราณชนิดหนึ่ง ซึ่งน้อยครั้งจะได้พบพาน”
ชายชราร่างงองุ้มมีประกายตาเจิดจ้ากล่าวว่า
“ไต้ซือมีสายตาคมกล้าอย่างยิ่ง เราลี้บ้ออ๋วยรู้สึกเลื่อมใสนับถือ”
ทุกผู้คนพอได้ยินว่าชายชราผู้นี้กลับเป็นจอมอสูรแห่งยุคตั๊กโต่วจื้อ (จอมครัวพิษ) ลี้บ้ออ๋วย จึงสะท้านใจวาบ ซึ่งคำนวณแล้วรู้สึกว่ามีแต่มันที่คู่ควรต่อการยืนหยัดร่วมกับผู้นำสำนักใหญ่ สามคนนั้น
จับฮึงไต้ซือกวาดสายตาเหลือบมอง ผู้คนทั้งสี่กล่าวอย่างแช่มช้าว่า
“ทุกท่านมีเจตนาขัดขวางการนำประแจทองกลับไปของอาตมาหรอกหรือ”
จอมครัวพิษ กล่าวอย่างเย็นชาว่า
“มิผิด เรื่องนี้หากถกเถียงด้วยเหตุผลก็ไม่มีทางสิ้นสุดเราขอคำแนะนำจากไต้ซือสักหลายกระบวนท่า”
กล่าวจบก็สะบัดมือเหวี่ยงถุงหนังลงพื้นดินและในมือของมันได้เพิ่มดาบแวววาวเล่มหนึ่ง
ดาบนี้มีความยาวไม่เท่ากับดาบทั่วไป แต่ทั้งกว้างทั้งหนา ลักษณะคล้ายมีดหั่นผัก เพียงแต่ใหญ่กว่ามีดหั่นผักหลายเท่า แลเห็นมันขยับร่างเล็กน้อย กระดูกสันหลังก็ส่งเสียงเกรียวกราว กลับกลายเป็นทั้งผอมทั้งสูงกว่าคนธรรมดาหนึ่งช่วงศีรษะ
จอมครัวพิษก้าวยาวๆ ออกไป กวดแกว่งมีดหั่นผักเล่มใหญ่ขึ้น...
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 21 ตอนที่ 52 :: เหินห่างกันแค่คืบ
๕๒
♦ เหินห่างกันแค่คืบ ♦
...............
คราแรกซิเล้งมีจิตใจอัดอั้นคร่ำครวญ รู้สึกว่าเทพยาดาฟ้าดินไม่มีความเมตตาการุณย์ ตนมิเคยกระทำเรื่องราวอันชั่วร้าย ชะตาซีวิตไฉนจึงวิปโยคเช่นนี้
แต่หลังจากผ่านช่วงเวลาอันยืดยาวแล้ว จิตใจของตนก็ผิดแผกไป รู้สึกว่ามาตรแม้นจะตกตายไปในตำหนักลับ ก็ยินยอมพร้อมใจ บุคคลผู้หนึ่งมิว่าช้าเลวก็ต้องถึงแก่ความตาย ปัจจุบันนี้เพียงแต่ล่วงหน้าไปก่อนเท่านั้น
ซิเล้งในครั้งนี้ยังสามารถหลีกเลี่ยงจากความหมกมุ่นกังวลที่คอยพัวพันมิสิ้นสุด นี่จึงจะเป็นเรื่องที่ทำให้ตนรู้สึกปลื้มประโลมใจ ดังนั้นจิตใจจึงเริ่มสงบลง
ตนผุดลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องลับหลังที่ค้นพบ มาถึงนอกประตูห้อง จับจ้องประตูเหล็กซึ่งปิดสนิทดังเดิม แต่มิรู้สึกว่าผิดหวังเท่าใดเลย
เวลาหิวโหยซิเล้งก็รับประทานอาหารเสบียงกรังเข้าไปเล็กน้อย และเนื่องจากหนังวัวแห้งขดที่อุ้ยเซี่ยวย้งสร้างขึ้นเป็นพิเศษ มาตรแม้นจะแข็งกระด้าง แต่ก็มีประสิทธิภาพในการบำรุงร่างกาย ขอเพียงแต่กัดกินอย่างกระเหม็ดกระแหม่ ทุกวี่วันกัดเพียงสองคำ ก็สามารถใช้รับประทานได้นานถึงสองปี
แน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้น ตลอดทั้งวันก็ต้องตกอยู่ในอาการหิวโหย...
วีรบุรุษผู้พิฆาตเล่ม 20 ตอนที่ 51 :: ทดสอบเสี่ยงวาสนา
๕๑
♦ ทดสอบเสี่ยงวาสนา ♦
...............
ทั้งสองสนทนาถึงตอนนี้ ก็ได้ยินอุ้ยฮูหยินส่งเสียงเร่งเร้าหนึ่งบุรุษหนึ่งดรุณี จึงกลับไปในถ้ำ อุ้ยเซี่ยวย้งถือห่อผ้าเล็กๆ ของนาง ซิเล้งกุมกระบี่ยาวเริ่มเดินทางอีกต่อไป
อาศัยฝีเท้าของบุคคลทั้งสี่ ยามวิ่งตะบึงคล้ายดั่งเหินบินยังต้องติดเดินทางเป็นเวลาสองชั่วยาม จึงเข้าไปในหุบเขาคับแคบที่อุ้ยเซี่ยวย้งเคยบอกเล่า และขณะอยู่ในหุบเขา สามารถแหงนหน้าขึ้นทัศนาเจดีย์ทองที่สูงตระหง่านเทียมเมฆนั้น
จับฮึงไต้ซือเดินเหินนำหน้า และเรือนร่างอาศัยพื้นหิมะที่ท่วมสูง จึงสามารถบดบังอำพรางเอาไว้ ขณะมองจากบนหน้าผา ไม่มีทางพบพาน
ชั่วครู่ให้หลัง ทั้งหมดก็เดินเหินอยู่ในเส้นทางของหุบเขา ซึ่งมืดทึบและชื้นแฉะ ทางเดินคดเคี้ยวลื่นไถล ขอเพียงแต่พลาดพลั้งจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
ดังนั้นจับฮึงไต้ซือจึงบงการให้ซิเล้งติดตามอยู่ด้านหลังอย่างกระชั้นชิด และส่งเสียงแนะนำว่าสมควรเดินเหินอย่างไร บ่งบอกตำแหน่งเหยียบย่ำลงไปได้ ซิเล้งก็มิกล้ามีสมาธิวอกแวก และด้วยความยากลำบาก...