แท็ก: นิยายการทหาร
คู่พยัคฆ์หัวใจมหากาฬ ตอนที่ 4 :: ล่าระเบิดเมือง
◊ ล่าระเบิดเมือง ◊
...................
อ่าวมาดาร์กัส ราชอาณาจักรอินนีเซีย
ท้องทะเลในขณะนั้นสงบเงียบ กระแสลมบางเบาจนผิวน้ำเกือบจะราบเรียบราวกับแผ่นกระจกจนดูราวกับว่าไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นภายในน่านน้ำบริเวณดังกล่าว
แต่ในความเป็นไปที่แท้จริงมิใช่เช่นนั้น
เพราะลึกลงไปใต้สมุทร ปลาเหล็กสีดำสนิทสัญชาติสหรัฐกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ในลักษณะที่บอกให้รู้ว่าเตรียมที่จะลอยลำขึ้นมาในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
“เรืออยู่ในความลึก 30 เมตร”
“ทราบ”
ผู้บังคับการเรือยศนาวาเอกตอบรับการรายงานก่อนจะกดไมค์ที่อยู่บนมือแล้วออกคำสั่ง
“ทุกแผนก... ประจำสถานีลอยลำ เราจะขึ้นสู่ผิวน้ำ!”
คำประกาศที่ได้ยินจากลำโพงที่ติดอยู่ในห้องเมสกลางลำทำให้หัวข้อการสนทนาระหว่างบุรุษและสตรีชาวไทยกับหัวหน้าหน่วยข่าวกรองสหรัฐประจำประเทศไทยซึ่งเป็นอเมริกันผมสีน้ำตาลเปลี่ยนไป
“ใกล้เวลาที่พวกคุณจะต้องไปจากยูเอสเอส. จอร์เจีย แล้วครับ”
ภาษาไทยชัดเป๊ะหลุดจากปากของคนพูด
“ทันทีที่เราลอยลำขึ้นไปตามเวลานัดหมาย เฮลิคอปเตอร์ของบริษัทเอกชนสัญชาติสหรัฐซึ่งให้บริการในอ่าวนี้จะบินลงมารับนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้วกลับเข้าฝั่ง”
“ฮ. จะไปส่งพวกเราที่สถานทูตเลยใช่มั้ยครับ”
“ถูกต้องครับ”
หัวหน้าซีไอเอ. ประจำประเทศไทยพยักหน้าให้ธงอินทร์ซึ่งเป็นเจ้าของคำถาม
“มันก็อย่างที่ผมคุยให้คุณฟังในตอนต้นว่ารัฐบาลอินนีเซียมีพฤติกรรมบางอย่างที่น่าเคลือบแคลงสงสัยจนทำให้เราไม่ไว้วางใจสักเท่าไหร่ การเดินทางของเจ้าหน้าที่พิเศษจากประเทศไทยซึ่งเป็นทีมหลักจึงต้องใช้วิธีนี้เพื่อความปลอดภัย”
“ฟังดูเหมือนว่าคนของผมที่เดินทางมาตามลำพังอย่างเปิดเผยจะอยู่ในฐานะเหมือนกับเป็นเทสเตอร์เพื่อตรวจสอบความจริงใจของประเทศนี้”
“คุณวิเคราะห์สถานการณ์ได้เร็วมาก”
อเมริกันวัยสี่สิบปลายๆ สบตากับนายทหารชาวไทย
“จากข้อมูลข่าวกรองของเรา หน่วยงานความมั่นคงของอินนีเซียมีความเคลื่อนไหวผิดปกติตั้งแต่รู้ว่าจะมีการส่งมอบตัวมุสตาฟาร์ให้กับทางการไทย จนฝ่ายข่าวประเมินว่าอาจมีการสร้างสถานการณ์เพื่อยับยั้งไม่ให้มุสตาฟาร์เดินทางออกนอกประเทศ
“ขออนุญาตถามครับ”
ธณิศรแทรกเข้ามา
“ตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน เราจะร่วมกันปฏิบัติภารกิจพิเศษในการนำตัวมุสตาฟาร์ไปยังประเทศไทยเพื่อสอบสวนข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับการก่อการร้ายต่อเป้าหมายที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ของสหรัฐในอาเซียนและการแบ่งแยกดินแดนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยอย่างนั้นใช่มั้ยครับ”
“ถูกต้องครับผู้กอง”
หัวหน้าหน่วยงานลับของสหรัฐหันไปทางนายตำรวจหนุ่ม
“ทีมของผู้กองจะได้รับการสนับสนุนทุกอย่างจนกว่าภารกิจจะลุล่วง...
คู่พยัคฆ์หัวใจมหากาฬ ตอนที่ 3 :: สินค้ามีชีวิต
◊ สินค้ามีชีวิต ◊
...................
“สถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำกรุงอินนีเซีย เมืองหลวงของประเทศมุสลิมที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน”
“เจ้านั่นว่าไงบ้าง”
“ยังยืนยันตามคำให้การเดิมครับ”
เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการตอบขณะที่สายตาจ้องมองผ่านกระจกห้องควบคุมไปยังชายผิวคล้ำผมหยิกเจ้าของร่างล่ำสันซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าคนสอบสวน
“มุสตาฟาร์ระบุว่าจะเปิดเผยรหัสผ่านเครือข่ายก่อการร้ายในภูมิภาคอาเซียนและแผนการโจมตีเป้าหมายที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ของสหรัฐ รวมทั้งหลักฐานว่าหน่วยงานของรัฐสนับสนุนขบวนการแบ่งแยกดินแดนในประเทศไทย ก็ต่อเมื่อออกไปจากประเทศนี้แล้วเท่านั้น”
“แล้วทำไมมันต้องเลือกกรุงเทพฯ เป็นจุดหมาย”
หัวหน้าซีไอเอ. ประจำเอเชียที่แฝงตัวในคราบผู้ช่วยทูตขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“อย่าบอกนะว่าที่นั่นอาหารอร่อยเหมือนที่รองนายกฯ ของไทยให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่กลุ่มก่อการร้ายใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตีโรงแรมของเราที่เคนยา”
“มุสตาฟาร์ต้องการให้รัฐบาลไทยอภัยโทษให้ญาติพี่น้องของตนเองที่ถูกคุมขังจากการฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐในภาคใต้ครับ”
“ตกลงหมอนี่เป็นพวกไหนกันแน่”
“ไม่ใช่โจรกลับใจร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ แต่เป็นโจรกลับใจที่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าอื่นใด”
“คุณคิดว่าคำพูดของมันเชื่อถือได้หรือเปล่า”
“มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ครับ”
เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการตอบตามตรง
“มุสตาฟาร์ผ่านกระบวนการทดสอบด้วยเครื่องจับเท็จแล้ว แต่เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องออกหน้า หน่วยเหนือจึงสั่งการให้เราส่งต่อเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานความมั่นคงของไทย”
หัวหน้าซีไอเอ. ประจำเอเชียยิ้มเล็กน้อย
“ยืมมือทีมไทยให้เล่นเกมนี้งั้นหรือ”
“ใช่ครับ”
คนตอบพยักหน้า
“เราไม่ต้องเปลืองตัว แต่คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ตามนโยบายอเมริกันเฟิร์สของทำเนียบขาวอย่างเดียวครับ!”
อาคารผู้โดยสารขาเข้า สนามบินนานาชาติคาคาจาร์
“เป้าหมายลงจากเครื่องแล้วครับ”
ชายร่างสูงในชุดสากลติดบัตรแสดงตนบอกให้รู้ว่าสังกัดหน่วยงานความมั่นคงบอกกับหัวหน้าของตนหลังได้รับแจ้งทางเอียร์โทนที่เสียบอยู่ในหู
“อีกไม่เกิน 10 นาที คงผ่านด่าน ตม. ออกมาเจอกับเรา”
“ทำไมต้องผ่าน...
คู่พยัคฆ์หัวใจมหากาฬ ตอนที่ 2 :: บ้านเรือนเคียงกัน
◊ บ้านเรือนเคียงกัน ◊
...................
“รัฐบาลของเรายังยืนยันนโยบายเดิมในการให้ความช่วยเหลือหน่วยงานความมั่นคงของไทยทุกประการครับ”
พันตำรวจเอก ฮาชิม รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลของประเทศที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยตอนล่างบอกกับคณะผู้มาเยือน
“แต่ที่สถานการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ของท่านเพิ่มมากขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแทรกแซงจากกลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะจากกลุ่มไอซิสที่ยังปฏิบัติการในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน ซึ่งเราได้หลักฐานว่าพวกไอซิสมีการติดต่อกับขบวนการก่อการร้ายที่ข้ามไปมาระหว่างชายแดนของเรา”
“สภาความมั่นคงแห่งชาติและสภากลาโหมของไทยก็ได้เบาะแสในเรื่องที่ท่านรองพูดเหมือนกันครับ”
ธงอินทร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาจากฝั่งไทยกล่าวตอบ
“จากการประชุมครั้งล่าสุดมีการตั้งข้อสังเกตถึงเหตุก่อการร้ายในฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งมีหลักฐานระบุว่ากลุ่มติดอาวุธที่เข้าโจมตีเป้าหมายเชื่อมโยงกับขบวนการไอซิสที่เคลื่อนไหวอยู่ในตะวันออกกลาง”
“ข้อมูลเราตรงกันครับ
พันตำรวจเอกฮาชิมยิ้มให้นายทหารแห่งราชนาวี
“นับวันผู้คนที่บริสุทธิ์กลายเป็นเป้าหมายอ่อนแอที่กลุ่มก่อการร้ายมุ่งเน้นเป็นเหยื่อทำให้ผู้เคราะห์ร้ายทุกเพศทุกวัยต้องหลั่งเลือดล้มตายในสภาพแวดล้อมที่ไม่คาดคิด ทั้งระเบิดพลีชีพและการกราดยิงในที่สาธารณะหรือแหล่งชุมชน”
“ใช่ครับ”
ธงอินทร์พยักหน้าช้าๆ
“กลุ่มก่อการร้ายปรับเปลี่ยนยุทธวิธีเพื่อสร้างมิติแห่งทุกข์ทรมานและความตายอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้กระทั่งการขับรถไล่ชนคนซึ่งกำลังจะมาแทนคาร์บอมบ์”
“การจะปกป้องผู้บริสุทธิ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือการปฏิบัติการเชิงรุกอยู่ตลอดเวลาเพื่อปิดช่องว่างไม่ให้ผู้ก่อการร้ายเคลื่อนไหวโจมตีได้อย่างอิสระตามที่พวกมันต้องการ”
พันตำรวจเอกฮาชิมกล่าวอย่างเป็นงานเป็นการ
“ที่สำคัญก็คือต้องบีบให้ฝ่ายตรงข้ามลงมาเล่นในเกมของเรา ไม่ใช่ปล่อยให้มันบั่นทอนเราให้อ่อนล้าจนเป็นฝ่ายถูกบดขยี้อย่างต่อเนื่องและเหี้ยมโหด”
“ถ้างั้นหน่วยงานความมั่นคงของสองประเทศคงต้องยกระดับความร่วมมือให้เข้มข้นจริงจังและเป็นรูปธรรมมากขึ้น”
“ด้วยความยินดีครับ ผู้พัน”
นายตำรวจวัยห้าสิบเศษๆ ยิ้มให้ธงอินทร์
“การพบปะกันในวันนี้อาจถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการด้านยุทธการควบคู่ไปกับการเจรจาสันติภาพซึ่งย่างเข้าสู่ปีที่สามแต่ยังไม่ได้ข้อยุติเสียที”
“เท่าที่ผมทราบ ทางคณะเจรจาก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว บางทีอาจเป็นเพราะกลุ่มผู้เห็นต่างกับกองกำลังติดอาวุธไม่ขึ้นตรงต่อกัน ปัญหาก็เลยยืดเยื้อ”
นาวาโทแห่งราชนาวีไทยพูดตามความคิดเห็นของตน
“แต่สำหรับงานด้านยุทธการ หน่วยงานความมั่นคงของไทยทุกหน่วยได้บูรณาการเป็นหนึ่งเดียว ปฏิบัติการต่างๆ จึงคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
“ยังงี้นี่เอง คุณถึงมีนายตำรวจหญิงร่วมทีมมาด้วย”
...
คู่พยัคฆ์หัวใจมหากาฬ ตอนที่ 1 :: มิคสัญญีแดนใต้
◊ มิคสัญญีแดนใต้ ◊
...................
ประเทศไทย เดือนมกราคม ปี 2562
บรรยากาศนอกเมืองนราธิวาสเงียบสงบในตอนเย็น นานๆ จึงจะมีเสียงพาหนะทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ดังให้ได้ยิน จนดูเหมือนว่าวิถีชีวิตของผู้คนทั้งไทยพุทธและมุสลิมในยามนั้นหยุดลงชั่วขณะ
มันเป็นผลมาจากเหตุร้ายที่อุบัติขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในชั่วเวลาเพียงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งการบุกเข้ายึดโรงพยาบาลประจำตำบลเป็นที่มั่นในการโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ การสั่งหารโหดข้าราชการเกษียณแล้วชิงรถไปทำคาร์บอมม์หน้าสถานีตำรวจจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ การบุกสังหารอาสาสมัครที่ประจำอยู่ในโรงเรียนถึง 4 ศพ ก่อนจะชิงอาวุธประจำกายไปทิ้งในแม่น้ำ
นอกจากนี้ยังมีการโจมตีโรงพัก สังหารตำรวจคาป้อมยาม ปิดท้ายด้วยการปะทะคนร้ายใกล้มัสยิดจนโดนวิสามัญไป 2 ศพ
แน่นอนว่าความเป็นไปดังกล่าวมีผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของพี่น้องประชาชนอย่างห้ามไม่อยู่ และนั่นจึงทำให้หน่วยงานความมั่นคงจากทุกเหล่าทัพต้องเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังและปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อกดดันกลุ่มก่อความไม่สงบไม่ให้เคลื่อนไหวก่อการได้โดยง่าย
ณ บ้านชั้นเดียวหลังหนึ่งริมถนนบูกาเต...