เพราะอยู่ในครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ แถมทั้งพ่อและพี่ชายต่างเป็นนักแข่งรถซูเปอร์ไบค์ ทำให้ ‘ตาล’ รัชฎา นาคเจริญศรี คุ้นเคยกับชีวิตและความเร็วบนอานมอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่เด็ก เธอใฝ่ฝันอยากเป็นนักบิดอาชีพ และความฝันก็เป็นจริงเมื่อเธอได้ลงแข่งในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรายการ ‘เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019’ สนามที่ 2 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะนักบิดหญิงคนแรกของประเทศไทย ‘ยุทธจักร ฅ.ฅน’ จึงชวนสาวแกร่งคนนี้มานั่งคุยเพื่อทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น
“ตาลเป็นนักแข่งอยู่ในสังกัด ตาล เรซซิ่ง คอนเนค (TAAN RACING CONNECT) ขับรถซูเปอร์ไบค์ BMW 1000 ซีซี สนใจเรื่องการแข่งรถมาตั้งแต่ 6 ขวบ เพราะคุณพ่อ (วีระ นาคเจริญศรี) และพี่ชาย (อนุชา นาคเจริญศรี) เป็นนักแข่งอยู่แล้ว เริ่มลงแข่งรถวิบากสำหรับเด็กตอนอายุ 9 ขวบ สนามแรกที่ลงแข่งจริงจังคือรายการชิงแชมป์ประเทศไทย ตาลได้ที่ 1 ตอนนั้นได้เงินรางวัลหมื่นกว่าบาท ดีใจมาก (ยิ้มกว้าง) จากนั้นก็ลงแข่งเป็นอาชีพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตาลจะถนัดลงแข่งร่วมกับผู้ชาย เพราะฝึกกับพี่ชายมาโดยตลอดซึ่งสนามแบบนี้จะไม่ค่อยมีผู้หญิงลงแข่งเท่าไหร่ ความเร็วสูงสุดที่ตาลทำได้คือ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง” สาวนักบิดเริ่มต้นแนะนำตัวอย่างสดใส
เราย้อนกลับไปถามว่าตาลเป็นลูกสาวคนเดียว แล้วมาแข่งรถที่อันตรายแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ห่วงแย่หรือ ตาลตอบว่า “ตอนแรกพ่อแม่ก็ห่วงค่ะ คนที่ไม่ยอมให้แข่งคือคุณพ่อ แต่คุณแม่คงเห็นว่าตาลเริ่มไปขับขี่บนถนนแล้ว ซึ่งน่าจะอันตรายกว่า เลยช่วยคุยกับคุณพ่อให้ ทุกวันนี้คุณพ่อแฮปปี้มากที่ตาลได้มาถึงจุดนี้ เพราะนอกจากตาลจะแข่งรถแล้ว ตาลเป็นผู้จัดการทีมแข่งและสร้างอคาเดมีเพื่อเปิดโอกาสให้นักแข่งคนอื่นๆ ด้วย”
รัชฎาเข้าร่วมการแข่งขันรถจักรยานยนต์มาแล้วหลายรายการ เธอเล่าว่าประทับใจกับการแข่งขันEndurance 4 Hours มากที่สุด รายการนั้นเป็นการขี่มอเตอร์ไซค์ต่อเนื่อง 4 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก โดยเธอต้องขี่สลับกับนักแข่งหญิงอีกคน เธอขี่ต่อเนื่อง 3.5 ชั่วโมงโดยไม่พักและได้ตำแหน่งที่ 5 จากผู้เข้าแข่งขันทั้งชายหญิงจากกว่า 100 ประเทศ
“ตำแหน่งสูงสุดตอนนี้ของตาลคือได้เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ ซึ่งเป็นรายการแข่งที่รวมนักแข่งเก่งที่สุดในโลกมาไว้ด้วยกัน มีผู้ลงแข่งทั้งหมด 27 คัน ตาลเข้าอันดับที่ 19 และเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ลงแข่ง ส่วนเป้าหมายในอนาคต ตาลอยากเข้าร่วมการแข่งขัน MotoGP จะเป็น Moto2 หรือ Moto3 ก็ได้ เพราะสองสนามนี้ (World Superbike และ MotoGP) เป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่ง World Superbike ตาลเคยแข่งแล้วในรุ่น Supersport 600 แต่ตาลยังไม่เคยเข้าร่วมใน MotoGP เลย ที่ผ่านมามีผู้หญิงจากสเปนประเทศเดียวที่ได้เข้าร่วม เพราะต้องเก่งและผ่านการคัดเลือกด้วยค่ะ”
การเป็นนักแข่งรถที่ดูจะเป็นความฝันของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง สาวแกร่งอย่างรัชฎาต้องฝ่าฟันมาขนาดไหนกว่าจะมายืนในจุดจุดนี้ “จะว่ายากก็ยากนะคะ แต่ก็สนุก แม้วงการมอเตอร์สปอร์ตจะดูเป็นเวทีสำหรับผู้ชายมากกว่า แต่ผู้หญิงเก่งๆ ก็มีเยอะ ตาลว่าอยู่ที่การฝึกฝนด้วย ความเป็นผู้หญิงไม่ได้เสียเปรียบหรือได้เปรียบกว่าผู้ชาย ทุกวันนี้ผู้หญิงที่แข่งชนะผู้ชายก็มีจำนวนมาก การแข่งรถต้องใช้ความอดทน ต้องใช้สมองและการตัดสินใจที่ฉับไว นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ สำหรับตาลแล้วการควบคุมรถความเร็ว 300 กม./ชม. ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ท้าท้ายและสนุกดีค่ะ”
นอกจากรัชฎาจะเป็นสาวนักบิดที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยแล้ว เธอยังริเริ่มโครงการ “ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์” (Little Wann be Wow Rider) ร่วมกับกองทุนการพัฒนากีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (NSDF) สมาคมแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย และสปอนเซอร์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เด็กแว้นเข้ามารับอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องการขับขี่และความปลอดภัย ซึ่งในปีแรกมีน้องๆ เข้ารับการอบรมไปแล้วกว่า 300 คน “ตาลเห็นว่าน้องๆ หลายคนอยากเข้ามาในวงการมอเตอร์สปอร์ต แต่บางคนไม่มีต้นทุน เพราะต้องใช้เงินสนับสนุนค่อนข้างสูง จึงอยากเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้การขับขี่อย่างปลอดภัย มาลองใส่ชุดเซฟตี้ราคาเป็นแสน ศึกษาเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และยังมีหลักสูตรเรื่องการซ่อมแซมรถจักรยานยนต์เพื่อเป็นอาชีพของเขาในอนาคตด้วย
“หลายคนอาจมองว่าเด็กแว้นหรือสก๊อยเป็นปัญหาสังคม แต่ตาลกลับมองว่าพวกเขาแค่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ เขาแค่ขาดโอกาส เขาอาจจะไม่ได้รับรู้หรือเข้าไม่ถึงข่าวสารที่ถูกต้อง เช่น ไม่รู้จักอุปกรณ์เซฟตี้ ไม่ได้เรียนรู้เรื่องการขับขี่ที่ถูกต้อง ไม่ได้รับการอบรมเรื่องความประพฤติ ข้อกฎหมาย จึงทำให้น้องๆ ขาดความยั้งคิด เลยออกไปแว้นกันตามถนนที่เราเห็นเป็นข่าวอยู่ ถ้าเรามาช่วยกันเปิดใจยอมรับ ให้โอกาส และพัฒนาความสามารถของพวกเขา ก็น่าจะช่วยพวกเขาได้ในระดับหนึ่ง”
อยากฝากอะไรถึงผู้หญิงที่สายลุยมีความฝันแบบตาลบ้าง “ตอนนี้มีผู้หญิงเข้ามาสู่วงการแข่งรถมอเตอร์ไซค์ค่อนข้างมาก และปัจจุบันก็มีอคาเดมี มีสนามให้ทดลองขับค่อนข้างเยอะ การแข่งรถจึงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแต่คุณต้องมาฝึกและต้องมีอุปกรณ์เซฟตี้ที่ดี ตาลเชื่อว่าถ้าได้มาฝึก จะนำไปใช้บนท้องถนนได้ดีและจะช่วยลดอุบัติเหตุด้วยค่ะ” รัชฎากล่าวทิ้งท้าย
ล่าสุด ‘ตาล’ และ ‘ครูปิ๋ม’ เสาวณีย์ กาญจนโอฬารศิริ อดีตชิไฮนินของวงไอดอลหญิง ที่ชื่นชอบการแข่งรถเหมือนกัน ได้จับมือทำเพลงในสังกัด Make A Whiz Entertainment โดยจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ นับเป็นบทบาทใหม่ที่น่าจับตามองอีกบทหนึ่งของสาวแกร่งคนนี้ที่เราต้องร่วมชื่นชมความสามารถอีกด้านของเธอกันต่อไป…
คอลัมน์: ยุทธจักร ฅ.ฅน
เรื่อง: ‘รินคำ’
ภาพ: all creative team
