“หินก้อนเล็กๆ สะสมเป็นภูเขาสูงใหญ่ได้
พลังเล็กๆ ที่เรามีติดตัวในชีวิต
ก็พิชิตความสำเร็จยิ่งใหญ่ได้”
มาดูกันว่า พลังเล็กๆ ที่เราสามารถสร้างขึ้นมาในชีวิต แล้วทำให้เกิดความสำเร็จในชีวิตอย่างมหาศาลมีอะไรบ้าง
1.ตรงต่อเวลา
ส่งของตรงต่อเวลา คนรับก็ยินดีประทับใจ
งานเสร็จส่งตรงตามเวลา คนรับงานก็พึงพอใจ
นัดหมายกัน แล้วทุกคนมาตรงเวลา ทุกคนก็พึงพอใจ
แต่เรื่องตรงเวลาสำหรับคนบางคนหรือคนในบางประเทศกลับไม่ถือสาว่าเป็นเรื่องสำคัญ มาสายบ้างคือเป็นเรื่องธรรมดา
แล้วยังไม่รู้สึกผิด ไม่มีสำนึกไม่มีขอโทษ ทั้งที่ให้คนทุกคนรอคนคนเดียว กว่าจะได้เริ่มงาน หรือออกเดินทาง มาถึงก็ตีเนียน ทำไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนที่ตรงต่อเวลาจะได้รับทั้งความเชื่อถือ ได้รับความร่วมมือ เพราะบางคนเชื่อว่า ถ้าแค่รักษาเวลายังทำไม่ได้ การรักษาสัญญาหรือคำพูดใดๆ ก็กลายเป็นเรื่องยาก
ฝึกให้เป็นคนที่ตรงต่อเวลาเอาไว้ เพราะไม่ใช่เป็นการแสดงออกว่า เคารพในคุณค่าเวลาของคนอื่น
แต่การตรงต่อเวลายังเป็นการรู้ถึงคุณค่าและเพิ่มความศรัทธาให้ตัวเอง
2.การเตรียมพร้อม
ความสำเร็จจำนวนนับไม่ถ้วน ล้วนขึ้นอยู่กับโอกาส
มีโอกาสได้ทำโครงการใหญ่
มีโอกาสได้เข้าแข่งขันจนชนะ
มีโอกาสได้แสดงฝีมือทักษะความสามารถให้โลกรู้เห็น
โอกาสจึงเหมือนประตู ให้เราก้าวเท้าไปสู่ความสำเร็จ ถ้าไม่มีโอกาสเหมือนประตูปิดตาย เพราะไม่ได้ทำอะไรให้บรรลุผลออกมา
ดังนั้นถ้าไม่มีโอกาสก็อย่าเสียเวลาเฝ้ารอ ลุกขึ้นมาสร้างโอกาสให้ตัวเอง
ถ้าเขายังไม่มีประกวดแข่งขัน เราก็หมั่นโชว์ผลงานความสามารถของเราลงในช่องทางโซเชียลต่างๆอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่ง อาจจะเข้าตาคนที่พร้อมจะสนับสนุนส่งเสริมเราอยู่ก็เป็นได้
และข้อสำคัญก็คือ ต้องเตรียมความรู้ความสามารถไว้ให้พร้อมสรรพ เพื่อรอรับกับโอกาสที่จะเข้ามาไว้ตลอดเวลาด้วย
เช่นฝึกภาษาต่างประเทศให้เชี่ยวชาญทั้งพูดฟังเขียนอ่าน พอมีงานที่ต้องการผู้ชำนาญทางภาษานั้น เราจะสอบผ่านได้งานแน่นอน
เมื่อโอกาสผ่านเข้ามา ถ้าเราเตรียมพร้อมความรู้ความสามารถไว้รองรับ ก็เท่ากับความสำเร็จ
3.สื่อสารดี
หลายคนมีความรู้ความสามารถที่ผ่านมาไม่ได้น้อยด้อยค่ากว่าคนอื่น แต่ความก้าวหน้ากลับสู้คนอื่นไม่ได้ คือหนึ่งในสาเหตุที่น่าเสียดาย คือ พูด ไม่เป็น
ที่ผ่านมาจะเห็นว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ หลายคนต้องแพ้การเลือกตั้ง เพราะพูดไม่ได้อธิบายไม่เป็น ว่าผลงานที่ผ่านมาได้ทำผลงานชิ้นโบว์แดงอะไรไว้บ้าง เมื่อไม่พูด พูดน้อยไปหรือพูดไม่เข้าใจ คนเลือกตั้งเขาไม่รู้ เขาก็เลยไม่เลือก
คนทำงานหลายคนเป็นคนเก่งดีมีฝีมือ แต่งานกลับไม่ก้าวหน้า เพราะไม่รู้วิธี present ให้หัวหน้า หรือคนอื่นเข้าใจว่าเขาทำอะไรได้ ทำดีแค่ไหนและทำอะไรได้อีก
ความน่าเสียดายเหล่านี้ แก้ไขได้ด้วยการ ฝึกพูด
ไม่ใช่พูดแบบน้ำไหลไฟดับ แต่ฝึกการพูดให้มีหลัก กระชับได้เนื้อหา ตรงประเด็นเห็นความจริง มีวีธีเล่าเรื่อง story telling เป็นจังหวะจะโคน มีตัวอย่างน่าสนใจ ฟังไม่น่าเบื่อ
แล้วเราจะกลายเป็นคนที่ทำเก่งและพูดเป็นด้วย
4.ความต่อเนื่อง
ในยุคนี้ใครๆก็อยากเห็นผลไว ไม่ชอบการรอคอย อยากรวยไว สำเร็จไว ชนะได้แบบทันใจ นั่นคือหนึ่งของที่มาของแก๊งตุ้มตุ๋นหลอกลวง หลอกให้ลงทุน หลอกให้รวยทางลัด
ซึ่งในความเป็นจริงทุกสิ่งต้องอาศัยเวลา ความสำเร็จต่างๆ นานาก็เช่นกัน
หว่านพืชก็ต้องรอเวลาให้พืชเติบโตเพื่อจะได้เก็บเกี่ยว
ลงทะเบียนวันนี้ ก็ต้องใช้เวลาพากเพียรเรียนหลายปีกว่าจะจบ
จะลงแข่งกีฬาก็ต้องใช้เวลาฝึกซ้อมเนิ่นนานกว่าจะเก่งและลงแข่งขันได้
ดังนั้นเมื่อต้องอาศัยเวลา อยากจะสำเร็จสมปรารถนา ไม่มีอะไรดีไปกว่าใช้ความต่อเนื่อง
คือเริ่มต้นทำแล้วก็ยังคงทำต่อไป แบบไม่ยอมเลิกราจนกว่าจะสำเร็จ
อ่านหนังสือทีละหน้าก็จบเล่มได้
ออมเงินทีละบาทสองบาท ไม่นานก็เป็นหลักหมื่นหลักแสน
ออกกำลังวันละเล็กน้อยก็ค่อยๆแข็งแรง
ความต่อเนื่องจึงเป็นสะพานที่เชื่อมความตั้งใจไปสู่ความสำเร็จ
แรงบันดาลใจอาจจะทำให้เราอยากทำอะไร
แต่วินัยที่ทำต่อเนื่องกันไป จะทำได้สำเร็จ
พลังเล็กๆ (soft power) นี้ ใครมีติดชีวิตไว้ จะสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ในชีวิต
คอลัมน์: ก้าวไกลไปข้างหน้า
เรื่อง: จตุพล ชมภูนิช
ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์
