ปัจจุบันผู้เขียนดูข่าวหรือละครในโทรทัศน์ก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของสาวๆ บางคนบางอาชีพในด้านแนวคิดและค่านิยมว่าต่างจากสมัยเมื่อประมาณ 50-60 ปีที่แล้วมาก จนรู้สึกว่าผู้เขียนได้ตกยุคแล้วจริงๆ และมักจะถูกคนใกล้ชิดค่อนว่าเชยหรือล้าสมัยเสมอ ตั้งแต่เด็กผู้เขียนเคยได้ยินการใช้สำนวนไทยที่เกิดจากค่านิยมของผู้ใหญ่ที่เกี่ยวกับเรือนร่างหรือร่างกายอยู่หลายสำนวน โดยเฉพาะบางสำนวนจะเกี่ยวกับสาวน้อยสาวใหญ่โดยตรง เช่น สำนวน “ไว้เนื้อไว้ตัว” “ถือเนื้อถือตัว” “ถึงเนื้อถึงตัว” เป็นต้น
ไว้เนื้อไว้ตัว
ในที่นี้คำ “เนื้อ” และ “ตัว” เป็นคำโดดที่มีความหมายคล้ายกัน คือหมายถึงร่างกาย เมื่อมีผู้นำมาใช้ซ้อนกันเป็นคำซ้อนว่า “เนื้อตัว” ก็จะเน้นความได้หนักแน่นยิ่งขึ้น บางครั้งอาจมีการแยกคำซ้อนนี้ด้วยคำที่เป็นคำเดียวกันให้เป็นสำนวนเปรียบ อาจมีนัยยะในด้านบวกหรือลบก็ได้ ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้ ดังสำนวน “ไว้เนื้อไว้ตัว”
“ไว้เนื้อไว้ตัว” เป็นสำนวนที่ถูกนำมาใช้ในด้านบวก หมายถึงการรักนวลสงวนตัวของผู้หญิงที่ไม่ยอมให้ตนมีมลทินเพราะถูกล่วงเกินจากผู้ชาย เช่น ยายสอนพิมพาหลานรุ่นสาวที่กำลังเรียนอยู่ในระดับมัธยม เมื่อเห็นเธอออกไปเที่ยวกับเพื่อนชายบ่อยๆ บางครั้งก็กลับบ้านจนมืดค่ำว่า “ยายว่าหนูไม่ควรออกไปนอกบ้านตามลำพังกับเสกนะ บางทีเห็นจับไม้จับมือกัน ใครเขาเห็นเข้าก็จะว่าผู้ใหญ่ไม่สั่งสอนให้ลูกหลานไว้เนื้อไว้ตัว คนเขาจะดูถูก เชื่อยายเถอะ คบกันน่ะคบได้ แต่ต้องอยู่ในสายตาผู้ใหญ่และรู้จักรักนวลสงวนตัว ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว”
ถือเนื้อถือตัว
คำว่า “ถือ” ในที่นี้แปลว่าดำรงไว้หรือยึดไว้ เมื่อนำมาใช้นำหน้าคำ “เนื้อ” และ “ตัว” เป็นสำนวน “ถือเนื้อถือตัว” จะมีความหมายเปรียบในด้านลบว่า ไม่ยอมลดตัวเพราะหยิ่งในศักดิ์ศรีหรือฐานะของตน เช่น เชิงชายพูดกับนนทชัยถึงงามตาลูกสาวนายอำเภอ ที่เพิ่งย้ายตามพ่อจากโรงเรียนในจังหวัดอื่นมาเข้าเรียนในชั้นเดียวกันโรงเรียนเดียวกันกับพวกตนเมื่อเดือนที่ผ่านมาตอนหนึ่งว่า “ยายคุณนายงามตานี่น่าหมั่นไส้ชะมัดยาด ข้าไม่เคยเห็นเจ้าหล่อนสังสรรค์หรือพูดเล่นหัวกับใครเลย กินข้าวตอนพักกลางวันก็เดินไปกินคนเดียว ทำเป็นถือเนื้อถือตัวว่าเป็นลูกข้าราชการผู้ใหญ่ สักวันจะรู้สึกว่าความโดดเดี่ยวเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าอีกหน่อยจะเปลี่ยนนิสัยแบบนี้หรือเปล่า น่าจะดูยายทิพย์ที่เป็นถึงลูกสาวผู้ว่าฯ ว่าทำตัวยังไง เพื่อนๆ ถึงได้รักสนิทสนมด้วย”
ถึงเนื้อถึงตัว
“ถึง” ในที่นี้แปลว่า “สู่” ได้มีผู้นำมาใช้นำหน้าคำ “เนื้อ” และคำ “ตัว” ให้เป็นสำนวนเปรียบว่า “ถึงเนื้อถึงตัว”
สำนวน “ถึงเนื้อถึงตัว” หมายถึงละลาบละล้วงหรือล่วงเกินเรือนร่างของผู้ที่ตนพอใจ โดยเฉพาะชายล่วงเกินฝ่ายหญิง เธอก็จะรู้สึกหมางใจหรือดูแคลนชายผู้นั้นได้ เช่น นกกระซิบกับนวลเมื่อเห็นชายสูงอายุคนหนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาเพื่อเข้าลิฟต์ที่ทั้งสองยืนอยู่ก่อนแล้วว่า “อีตานั่นเดินมาแล้ว เร็วๆ รีบกดลิฟต์ปิดก่อนเถอะ เดี๋ยวแกเข้าลิฟต์ทันก็จะเบียดเข้ามาถึงเนื้อถึงตัวพวกเราเลยแหละ พฤติกรรมของแกเป็นที่ร่ำลือกันทั่วสำนักงาน เพราะฉะนั้นอยู่ไกลแกไว้แหละดี”
บางครั้ง “ถึงเนื้อถึงตัว” ก็ใช้ในบริบทที่มีความหมายตรงตามตัวอักษร ไม่เกี่ยวกับการหาเศษหาเลยกับเพศตรงข้าม แต่จะใช้ในความหมายถึงการไม่ทันได้ระวังตัวก่อนจะถูกทำร้ายในระยะประชิดก็มี เช่น พันให้การแก่ตำรวจในที่เกิดเหตุเมื่อตนถูกคนร้ายฟันที่แขนแล้ววิ่งหนีไปว่า “ผมยืนรอน้องสาวอยู่หน้าร้านสะดวกซื้ออยู่ดีๆ ทันทีทันใดนายเดชาก็เข้ามาถึงเนื้อถึงตัวผม แล้วทำร้ายผมจนเลือดตกยางออกอย่างที่เห็นนี่แหละครับ”
คอลัมน์: คมคำสำนวนไทย เรื่อง: ยุพร แสงทักษิณ ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์