ใครคนหนึ่งเคยบอกว่า “บางครั้งแง่งามของความพิเศษอาจซ่อนตัวอยู่ในความธรรมดา” มื้อเที่ยงในวันหยุดสุดแสนสบายแบบนี้นิวนิวเลยชวนคุณแฟนมาสัมผัสกับความเรียบง่าย ณ บ้านหลังหนึ่งในซอยประดิพัทธ์ 14 ที่มีชื่อว่า Raan Keng (ร้านเข่ง)
เพียงก้าวแรกที่เข้าไปภายในบ้าน ด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่บริเวณสนามหญ้าทำให้เราสองคนรู้สึกผ่อนคลายและเย็นสบาย เมื่อมองไปยังเบื้องหน้านิวนิวสะดุดตากับสีน้ำเงินเข้มของตัวบ้าน ที่ช่วยให้บ้านรูปทรงธรรมดาหลังนี้โดดเด่นกว่าบ้านหลังอื่นในละแวกเดียวกัน เพราะ “คุณเข่ง” เจ้าของร้านได้ปรับปรุงบ้านหลังเก่าที่มีอายุกว่า 70 ปีให้กลายเป็นร้านอาหารอันแสนอบอุ่น เพื่อให้ผู้มาเยือนเหมือนกลับมากินข้าวที่บ้านกับครอบครัว
เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไป เราพบกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เรียบง่าย สีน้ำตาลและลายไม้ตัดกับสีน้ำเงินของผนัง ตกแต่งด้วยต้นไม้ในมุมต่างๆ ของบ้าน หากช่วงหน้าหนาวใครอยากมานั่งชิลล์ๆ รับลม ที่นี่ก็มีพื้นที่ด้านนอกไว้บริการเช่นกัน แค่นิวนิวหันไปเห็นหน้าคุณแฟนซึ่งกำลังมองโต๊ะด้านนอก ก็พอรู้แล้วว่าคงกำลังคิดกลับมาที่ร้านเข่งอีกครั้งเมื่อลมหนาวมาเยือน
เมนูเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านสีน้ำเงินหลังนี้มีสามเมนู นิวนิวเลยลิ้มลองครบทั้งน้ำอัญชัน น้ำอัญชันมะนาว และชาข้าวคั่วอัญชัน แม้มีส่วนผสมของดอกไม้ชนิดเดียวกันแต่ทั้งสามแก้วกลับมีรสชาติเฉพาะที่ชัดเจน เปรียบได้กับมีผู้หญิงสามสไตล์มายืนอยู่ตรงหน้าคุณ คนแรกเป็นสาวนุ่มนวลซึ่งอยู่ด้วยแล้วสบายใจ คนต่อมาเป็นสาวหวานซ่อนเปรี้ยวมีเสน่ห์ ส่วนคนสุดท้ายนั้นทั้งสวยและหอมเย้ายวนใจ สิ่งที่ทุกแก้วมีเหมือนกันคือคุณประโยชน์จากดอกอัญชันและสีสันชวนดื่มยิ่งนัก
ส่วนแนวคิดเรื่องเมนูอาหารเกิดจากการที่เจ้าของร้านชื่นชอบอาหารอีสานและอาหารญี่ปุ่นแนวอิซากายะ จึงดึงจุดเด่นของอาหารทั้งสองแบบมาผสมผสานกันจนเป็นอาหารแนว “อีสานกายะ” ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือการนำเสนออาหารด้วยสีน้ำเงินจากดอกอัญชัน เมนูแรกคุณแฟนสั่งกุ้งเทมปุระอัญชัน เมนูพิเศษเฉพาะของทางร้านที่ผสมน้ำอัญชันในแป้ง จากนั้นนำกุ้งตัวโตไปคลุกเคล้าแล้วทอดให้กรอบในน้ำมันร้อนๆ จนได้กุ้งสีน้ำเงินแปลกตาแต่อร่อยมาก กินคู่กับผักสดที่ราดด้วยน้ำสลัดญี่ปุ่น เรียกว่าโดนใจเราสองเป็นอย่างมากค่ะ
นิวนิวเลือกสั่งเมนูที่รับรองว่าต้องถูกใจสายเนื้ออย่างแน่นอนคือ เนื้อย่าง 300 grams New Zealand rib eye เนื้อวัวเกรดเยี่ยมหมักกับเครื่องเทศจนได้ที่ ย่างแบบ medium rare สุกกำลังดีไม่เหนียวจนเกินไป กินคู่กับซอสรสกลมกล่อม ขอบอกว่าหากผู้ชื่นชอบเนื้อวัวมีโอกาสมาเยือนที่นี่ไม่ควรพลาดเมนูนี้ด้วยประการทั้งปวง
ต่อกันที่ของหวานอันเป็นความเหมาะเจาะของส่วนผสมแบบไทยกับญี่ปุ่นคือ วุ้นชาเขียวข้าวเหนียวอัญชัน ที่เสิร์ฟมาบนถาดไม้น่ารัก วุ้นชาเขียวมัทฉะเนื้อแน่นเสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียวมูนสีน้ำเงิน ราดด้วยน้ำกะทิอัญชัน เหมือนเป็นสองเมนูที่เสิร์ฟแยกกันแต่เมื่อกินคู่กันแล้วเข้ากันได้ดี วุ้นชาเขียวรสขมนิดๆ กินคู่กับข้าวเหนียวรสหวานนั้นคุณแฟนกินแทบไม่วางช้อนเลย ปิดท้ายด้วยของหวานอีกหนึ่งเมนู ลำไยอัญชันนมสด เกล็ดน้ำแข็งสีม่วงพาสเทลรูปทรงดอกไม้น่ารักที่มีเนื้อลำไยซ่อนอยู่ เสิร์ฟพร้อมนมสด ให้รสละมุนลิ้นและเย็นชื่นใจ เรียกได้ว่าพิเศษจนถึงเมนูสุดท้ายกันเลยทีเดียว
เมนูส่วนใหญ่ของบ้านสีน้ำเงินหลังนี้มีส่วนผสมหลักคือดอกอัญชันที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทั้งยังมีสารแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของดวงตา ใครที่กลัวว่าความรักจะทำให้คุณตาบอด หากได้มากินอาหารที่นี่ รับรองว่าแม้ความรักจะบดบังดวงตามากแค่ไหนก็ไม่ต้องห่วงค่ะ สรรพคุณของดอกอัญชันจะช่วยให้ตาสว่างเอง นิวนิวรับประกัน (ฮ่าๆ)
สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่เรียบง่ายและให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนอยู่บ้าน นิวนิวคิดว่าด้วยบรรยากาศโดยรวมของร้านเข่ง จะช่วยให้การพบปะพูดคุยเป็นไปอย่างผ่อนคลาย เพราะการศึกษาดูใจกันนอกจากจะขึ้นกับคนสองคนแล้ว องค์ประกอบรอบตัวนั้นก็ส่งผลต่อความรู้สึกรอบใจเช่นกัน คุณคิดเหมือนนิวนิวไหมคะ
Raan Keng (ร้านเข่ง)
บ้านเลขที่ 9 ซ.ประดิพัทธ์ 14 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 12.00-22.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 12.00-24.00 น.
โทร. 0 2279 1555
Facebook & Instagram: Raankeng