เรียนคุณหมอสันต์
หนูจวนจะมีน้อง คือท้องได้ 6 เดือน กำลังมีปัญหาคือเด็กรับจ้างทำงานที่บ้านลาออกไป เลยไม่มีคนทำอาหารให้ หนูกับสามีต้องทำงานทั้งคู่ ทุกวันนี้ต้องอาศัยอาหารกล่องอาหารถุงและกระป๋อง ส่วนใหญ่เป็นอาหารกล่องสำเร็จรูปจากซูเปอร์มาร์เกตเพราะไม่มีเวลาพอที่จะไปยืนรอซื้ออาหารสดปรุงใส่ถุงจากแม่ค้า กินอย่างนี้ตลอดช่วงตั้งครรภ์แล้วจะมีปัญหากับสุขภาพของลูกไหมคะ
ตอบครับ
อาหารบรรจุเสร็จ เรียกง่ายๆ แบบทั่วไปว่า processed food ซึ่งก็ยังมีความแตกต่างกันในแง่ดีกรีของการแปรรูปอาหาร ถ้าเป็นกระบวนการแปรรูปแบบจิ๊บๆเช่นจับอาหารแช่แข็งแล้วใส่ซองขาย หรือเอาผลไม้อบแห้งแล้วใส่ซองขาย อย่างนี้ยังมีความใกล้เคียงกับอาหารธรรมชาติมากจนอาจถือได้ว่าเหมือนอาหารธรรมชาติ แต่อาหารที่ขายอยู่บนหิ้งส่วนใหญ่มักผ่านกระบวนการแปรรูปอาหารระดับซับซ้อน เรียกว่าเป็นการแปรรูประดับ ultra-processed food ได้แก่อาหารที่มีการใส่สารกันบูด (preservatives) หรือพูดแบบบ้านๆก็คือใส่ยาฆ่าเชื้อโรค เพราะสารกันบูดก็คือยาฆ่าเชื้อโรคนั่นแหละ และมีการใส่สารเคมีที่ไม่ใช่อาหารอีกสารพัดเพื่อให้อาหารมีรส กลิ่น และสีสันที่ถูกใจผู้บริโภค สารในกลุ่มหลังนี้เรียกรวมๆว่า additives ซึ่งกฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องจาระไนไว้ที่ฉลากว่าใส่อะไรบ้าง เพราะกฎหมายบังคับแค่ว่าให้บอกสัดส่วนของแคลอรี คอเลสเตอรอล น้ำตาล เกลือ ต่อหน่วยบริโภค ดังนั้นผู้ผลิตก็จะเขียนแค่ว่า “ใช้ preservatives และ additives” แต่ไม่มีผู้ผลิตรายไหนหรอกที่จะจาระไนว่าตัวเองใส่สารเคมีอะไรเข้าไปในอาหารให้เห็นครบถ้วน เพราะยิ่งเขียนละเอียดก็ยิ่งขายอาหารไม่ออก
ประเด็นสำคัญก็คือ preservatives ก็ดี additives ก็ดี เกือบทั้งหมดเป็นสารที่ทำลายดุลยภาพของชุมชนจุลชีวิตในลำไส้ (microbiomes) ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของแม่และเด็กในระยะยาวอย่างคาดไม่ถึง คำว่า “ชุมชนจุลชีวิต” นี่เป็นคำที่ผมแปลจากคำว่า “microbiomes” คือผมต้องการให้หมายถึงระบบนิเวศวิทยา(ecosystem) ในลำไส้ ลองนึกภาพเวลาเราไปดำน้ำดูปะการัง เราจะเห็นสารพัดสัตว์น้ำและพืชน้ำ เช่น กุ้งหอยปูปลาหลากสีหลากรูปร่าง ม้าน้ำ ปะการัง สาหร่ายแบบต่างๆ ทั้งหมดนี้อยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน พึ่งพาอาศัยกันและกันอย่างลงตัว ในทางเดินอาหารของเราก็มีจุลชีวิตทั้งหลาย เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ยีสต์ จำนวนมากอยู่อาศัยเป็นชุมชนในลำไส้ในลักษณะเดียวกันเดียวกับที่เราเห็นสัตว์และพืชเมื่อไปดูปะการังที่อยู่ก้นทะเลนี่แหละ มันมีกันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มักอยู่ในร่างกายเราแบบอยู่ดีๆ ช่วยเจ้าบ้านทำโน่นทำนี่ จุลชีวิตในลำไส้นี้ดำรงชีวิตและสื่อสารประสานงานอย่างแนบแน่นกับเซลล์ของระบบต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบภูมิคุ้มกันโรค เพราะอย่าลืมว่าร้อยละ 80 ของเซลล์ซึ่งเป็นกำลังพลของระบบภูมิคุ้มกันมีที่ตั้งอยู่ในลำไส้นั่นแหละ หากบรรดาจุลชีวิตในลำไส้อยู่ไม่สุข ก็อย่าหวังว่าร่างกายของเราจะอยู่สุขได้ ดังนั้น สำหรับคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ มีข้อพึงสังวรในเรื่องนี้สองประการ
ประการที่ 1 ไมโครไบโอมในทางเดินอาหารนี้จะอ่อนไหวและถูกทำลายโดยสารในกลุ่ม preservatives เช่นสารกันบูด และสารในกลุ่ม additives ได้แก่สารแต่งกลิ่น สารแต่งรสต่างๆ ที่ใส่ในอาหารสำเร็จรูปเป็นจำนวนมากระดับ ultra-processed food ผลของมันจึงเหมือนกับเอาน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างพื้นเทลงในโถส้วม คือมันจะทำลายจุลชีวิตซึ่งช่วยย่อยสลายสิ่งปฏิกูลในถังบำบัดของส้วม ทำให้ส้วมที่ไม่เคยมีกลิ่นเน่าเกิดกลิ่นเน่าขึ้นได้
ประการที่ 2 ไมโครไบโอมในทางเดินอาหารของเรานี้ จะเปลี่ยนแปลงไปทางดีหรือทางร้ายได้ตามอาหารที่เรากิน เพราะมันกินอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นแหละ แต่อาหารของพวกมันเป็นส่วนที่ร่างกายของเราย่อยไม่ได้ ไมโครไบโอมกินอาหารที่มีกากมากและหลากหลาย กากหมายถึงอาหารพืชเท่านั้น เพราะอาหารเนื้อสัตว์ไม่มีกาก ดังนั้นเท่าที่ความรู้ของวงการแพทย์มีอยู่ขณะนี้ อาหารชั้นดีที่จะสร้างสรรค์ไมโครไบโอมคืออาหารพืชที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ถั่ว นัต เมล็ดพืช ธัญพืช ถ้าเป็นไขมันก็ควรเป็นไขมันไม่อิ่มตัวจากพืชเช่นน้ำมันมะกอก การที่คุณแม่ซึ่งกำลังตั้งครรภ์จะยังชีพด้วยอาหารกล่องอาหารถุงตลอดการตั้งครรภ์นั้น ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาวอย่างแน่นอน แม้จะตั้งใจกินโปรตีนผงวิตามินแร่ธาตุเสริมก็ไม่เวิร์ก เพราะจุลชีวิตในลำไส้ไม่ได้ยังชีพอยู่ด้วยสิ่งเหล่านั้น มันต้องการกาก ซึ่งจะได้จากเมื่อคุณแม่กินอาหารพืชธรรมชาติที่ปลอด preservatives และ additives เท่านั้น
ดังนั้นผมแนะนำว่าควรลดการกินอาหารกล่องอาหารถุงให้น้อยลงแล้ว กินอาหารสดๆ ปรุงด้วยวิธีธรรมชาติแบบบ้านๆ ดีกว่า ไม่มีเวลาทำเองก็ซื้อปากซอยเอา
คอลัมน์: สุขภาพ
เรื่อง: นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์