‘เจ้าหญิงผู้เลอโฉม’ จากเด็กหญิงนักเขียน กับ 17 ปีบนถนนวรรณกรรม

-

ย้อนไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน นิยายรักโรแมนติกของสำนักพิมพ์แจ่มใสเข้ามาครองใจนักอ่านวัยรุ่น จนเกิดกระแสฮิตอ่านนิยาย และเป็นช่วงต้นของการเปิดพื้นที่ออนไลน์ให้นักอยากเขียนได้โชว์ฝีมือ แจ้งเกิดนักเขียนหน้าใหม่หลายต่อหลายคน เมื่อเวลาผ่านไปนักเขียนวัยละอ่อนในยุคนั้นบางคนก็หายหน้าจากวงการตามการเปลี่ยนแปลงของชีวิต แต่ก็ยังมีบางคนที่ยืนหยัดอยู่บนถนนวรรณกรรมสายนี้จวบจนปัจจุบัน พร้อมด้วยประสบการณ์และวัยที่เติบโตขึ้น ‘เจ้าหญิงผู้เลอโฉม’ หรือ ‘อาย’ กานตริน ลีละหุต คือหนึ่งในนักเขียนรุ่นแรกของสำนักพิมพ์แจ่มใส เธอจรดแป้นพิมพ์ครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 12 ปี และไม่เคยหยุดเขียนจนถึงปัจจุบัน มีผลงานกว่า 70 เล่ม อาทิ เซ็ต Nippon Sweetie รักหวานใสหัวใจสีซากุระ เซ็ต นายคะ อย่ามาอ่อย ซึ่งนำมาสร้างเป็นซีรีส์ฉายช่อง GMM 25 นอกจากงานเขียนแล้วเธอยังมีผลงานแปลอีกด้วย โดยปกติแล้วอาย หรือ “เจ้าหญิงผู้เลอโฉม” ทำงานที่ต่างประเทศ ออลฯ สบโอกาสอันดีมากๆ ที่ได้พบและสนทนาถึงเส้นทางวรรณกรรมในช่วงที่เธอกลับมาไทยชั่วคราวนี้

 

 

เริ่มต้นเส้นทางนักเขียนได้อย่างไร

เดิมเป็นคนชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็ก  ผู้ใหญ่พาไปไหนก็ต้องพกหนังสือไปด้วย พอเริ่มอ่านมากๆ ก็รู้สึก เอ๊ะ ทำไมเนื้อเรื่องเป็นแบบนี้ ควรเป็นแบบนั้นสิ หรือคนเขียนออกเล่มใหม่ช้าไม่ทันใจ อยากเขียนแทน จึงเริ่มอยากเขียน ตอนนั้นอยู่ม.1 เพื่อนนิยมอ่านนิยายแปลเกาหลี แต่เราสนใจอ่านนิยายแฟนตาซีมากกว่า เพราะได้รับอิทธิพลจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์ เพื่อนก็คะยั้นคะยอ เราเลยรับๆ มาลองอ่าน ปรากฏชอบมาก แนวนี้แหละที่อยากเขียน ประจวบกับช่วงนั้นสำนักพิมพ์แจ่มใสเขาเปิดเว็บไซต์ให้นักอยากเขียนโพสต์เรื่องที่ตัวเองแต่ง แรกๆ มีเขียนกันอยู่ไม่กี่คน เราเป็นหนึ่งในนั้น พอเรื่องของเรามีคนอ่านเยอะขึ้นๆ บก.ก็ติดต่อมาว่าอยากรวมเล่ม เป็นช่วงแรกที่แจ่มใสหันมาทำนิยายไทย เพราะก่อนหน้านั้นเน้นนิยายแปลเกาหลีเป็นหลัก ปิ๊งรักร้าย นายตัวแสบ คือหนังสือเล่มแรกของเรา ตีพิมพ์ตอนอายุ 12 ปี ยังไม่สามารถเซ็นสัญญาเองได้ต้องให้คุณแม่เซ็นให้ เป็นความสำเร็จอย่างมากของเด็กตัวน้อยๆ ตอนนั้นที่บ้านไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเขียนนิยาย คิดว่าเอาแต่เล่นคอมฯ จนโดนดุ พอเขารู้ก็พลอยดีใจกับเรา เมื่อหนังสือวางแผง เรากับแม่ก็แอบไปดูตามร้านหนังสือ จำได้ว่าตอนแจกลายเซ็นครั้งแรกที่งานหนังสือแจ่มใสยังเป็นบูธเล็กๆ เราเองก็ยังเด็กมากๆ เหมือนตัวเรากับสำนักพิมพ์เติบโตไปพร้อมกัน

 

 

มีนักเขียนที่เป็นไอดอลไหม

ต้องเป็น J.K.Rolling เราเข้ามาในแวดวงหนังสือเพราะผลงานของเขา ถ้าจะมีนักเขียนคนไหนที่ชื่นชอบจนเป็นแรงบันดาลใจในวันที่ท้อได้ก็ต้องยกให้คนนี้ กว่าเขาจะประสบความสำเร็จนั้นเขาโดนปฏิเสธมาไม่น้อย แต่ไม่เคยท้อ เราก็ไม่ควรท้อด้วย ไม่ได้หวังให้ตัวเองประสบความสำเร็จเทียบเท่าเขา แต่เวลานึกถึงเขาเราจะมีแรงฮึดสู้

แนวนิยายของนามปากกา ‘เจ้าหญิงผู้เลอโฉม’ คืออะไร

นิยายรัก ด้วยความที่เริ่มจากสำนักพิมพ์แจ่มใสซึ่งยึดแนวนี้เป็นพื้นฐาน เราก็เขียนแนวนี้มาตลอด แต่นิยายรักก็แบ่งได้หลายประเภท องค์ประกอบหลักของนิยายรักคือการที่คนสองคนรักกัน แต่ก็สามารถเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ได้ เช่น มีฉากฆาตกรรม ก็ถือเป็นนิยายรัก มีความแฟนตาซี ก็ถือเป็นนิยายรัก มันกว้างมากจนสามารถเขียนอะไรได้มากมาย และเราเขียนมา 70 กว่าเล่มแล้วเลยได้ทดลองอะไรหลายอย่าง

 

 

คุณเขียนนิยายรักในขณะที่อายุเพียง 12 ปี มีวิธีฝึกฝนหรือถ่ายทอดยังไงให้คนอินกับเรื่องที่เล่าได้

ในด้านภาษาที่เขียนนั้นได้มาจากการอ่านเยอะ อ่านหลากหลายแนว จึงมีคลังคำพอสมควร เรามั่นใจในเรื่องนี้ แต่สำนวนช่วงแรกอาจไม่เป๊ะเท่าปัจจุบัน ส่วนการเรียงประโยค วางคำ วางสตอรี่ไลน์ ทั้งหมดเราได้จากการอ่าน ซึ่งมีวิธีศึกษาอยู่นะ เราเป็นคนอ่านทุกคำ ไม่ข้าม ชอบสังเกตสำนวนที่นักเขียนแต่ละคนใช้ อย่างหนังสือแปลก็มีสำนวนเฉพาะที่มาจากภาษาต่างประเทศ นำมาปรับใช้ได้ หรือคำสันธาน คำอุปมาอุปไมย เราก็จำมาจากหนังสือที่อ่าน พออ่านเยอะก็มีไอเดียเวลาเขียน เช่นจะบรรยายสีดำ สีดำเหมือนถ่านก็ไม่โรแมนติก ก็ต้องสีดำเหมือนท้องฟ้าค่ำคืนที่มีแสงดาวกะพริบส่อง ด้านพล็อตหรือความรู้เกี่ยวกับความรัก คนเคยคอมเมนต์เหมือนกันว่าเด็กอายุแค่ 12 ปี จะเขียนได้ยังไง จะไปรู้เรื่องความรักจากไหน เราก็ตอบไปว่า หนูไม่รู้เหมือนกันพี่ หนูจินตนาการเอา

วิธีคิดพล็อตสไตล์ ‘เจ้าหญิงผู้เลอโฉม’ คือแบบไหน

ส่วนใหญ่คือเจอเหตุการณ์แล้วจุดประกายความคิดขึ้นเอง เช่น นายคะ อย่ามาอ่อย เอามาจากชีวิตจริงที่ทำงาน ฉากและแนวเรื่องแบบนี้ไม่เคยเห็นเลย น่าจะหยิบยกมาเขียนนิยายได้ บางครั้งเริ่มจากเรามีแคแรกเตอร์ที่ชอบ ที่อยากเขียน ก็มาคิดพล็อตที่เข้ากับแคแรกเตอร์นั้น หรืออีกแบบคือกำหนดธีมเลย เช่นเรื่อง Naughty Bedtime นิทานร้อนซ่อนรัก ธีมมาจากการพูดถึงโรค nymphomania เป็นอาการของคนติดเซ็กซ์

ทำอย่างไรถึงสามารถผลิตงานได้ต่อเนื่องในขณะที่ทำงานประจำด้วย

อาจเพราะเราไม่เคยคิดจะเลิกเขียนเลย ตั้งแต่ปี 2548 ที่เริ่มเขียนนิยายก็ไม่มีความคิดว่าอยากหยุด ในหัวคิดแต่จะเขียนไปเรื่อยๆ ดังนั้นต่อให้ทำงาน ทำธีสิส หรือธุระอะไรก็ตาม เราจะกลับมาเขียนเสมอ ทว่าตอนเด็กมีเวลาว่างเยอะ มีไฟ มีพลัง ก็เขียนได้มากหน่อย เคยเขียนสูงสุดปีละ 9 เล่ม เกือบจะเดือนละเล่มเลย บางวันเขียนได้ถึง 50 หน้า ยังมีแรงโต้รุ่งเขียนแล้วไปเรียนต่อ แต่พอทำงานก็ไม่ค่อยไหว ออกได้ปีละเล่มหรือสองเล่มเท่านั้น

 

 

ผลงานที่ประทับใจที่สุดคือเล่มไหน

ชอบทุกเล่ม แต่ที่ประทับใจพิเศษคือ นายคะ อย่ามาอ่อย เพราะเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแนวจากนิยายรักวัยเรียนมาสู่วัยทำงาน ต้องบอกว่าเราไม่เคยหลุดจากกรอบวัยเรียนเลย เพราะคิดแต่ว่าคนอ่านของเราคือวัยรุ่นวัยนักเรียน ถ้าข้ามไปเรื่องของวัยทำงานจะหลุดจากกลุ่มนักอ่านของเราแล้ว ก่อนจะตัดสินใจลองเปลี่ยนแนวจึงค่อนข้างกังวลพอสมควร กลัวคนอ่านไม่ชอบ และก่อนจะเขียนเรื่องนี้เป็นช่วงที่เราพักการเขียนไว้ชั่วคราวด้วย เป็นช่วงเขียนไม่ออก และงานประจำก็ค่อนข้างยุ่ง แต่อยู่ๆ รู้สึกอยากเขียนพล็อตแบบนี้จัง ไม่รู้คนจะชอบไหม แต่ลองดูละกัน พอโพสต์ปุ๊บปรากฏว่าได้รับกระแสตอบรับดีมาก เป็นเรื่องซึ่งรู้จักในวงกว้างที่สุด และได้ทำเป็นซีรีส์คนแสดงด้วย จึงประทับใจเป็นพิเศษ

แล้วผลงานที่เขียนยากที่สุดคือเล่มไหน

จริงๆ ยากหมด อย่าง Naughty Bedtime นิทานร้อนซ่อนรัก ธีมคือโรค nymphomania เราต้องหาข้อมูลของโรค สาเหตุ อาการ การรักษา จะเขียนยังไงให้คนอ่านเชื่อว่าตัวละครเป็นโรคนี้จริงๆ และนางเอกที่เป็นโรคนี้ต้องเปลี่ยนคู่นอนตลอด ในขณะที่พระเอกเป็นเพื่อนซึ่งไปรับนางเอกในตอนเช้าที่โรงแรม และลงมากับผู้ชายใครก็ไม่รู้ จะทำยังไงให้คนอ่านไม่เกลียดนางเอก และเชื่อว่าพระเอกรักผู้หญิงคนนี้จริงๆ ก็ค่อนข้างยากพอสมควร

04

 

กว่า 70 เรื่องตลอด 17 ปี ผลงานของ ‘เจ้าหญิงผู้เลอโฉม’ มีพัฒนาการยังไงบ้าง

เมื่อก่อนเน้นที่พล็อต ต้องมีจุดน่าสนใจ มีจุดหักมุม พอเขียนไปเรื่อยๆ พล็อตไม่ใช่สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุดแล้ว แต่เราเน้นที่ความสัมพันธ์ของตัวละคร ความรู้สึกที่ถ่ายทอด ความอิน อยากให้คนอ่านซาบซึ้งและมีอารมณ์ร่วมกับเราด้วย

มีแนวที่อยากเขียนในอนาคตไหม

จริงๆ เขียนมาเกือบทุกแนวแล้ว ฆาตกรรมก็มี แฟนตาซีก็มา ดิสโทเปีย สายลับ เป็นแฮกเกอร์  เป็นแวมไพร์ ถ้าถามว่ายังมีอะไรที่ไม่ได้เขียนแล้วอยากเขียน ตอนนี้คงเป็นนิยายวายมั้งคะ ช่วงนี้เขาฮิตกัน แต่เราอยากเขียนวายย้อนยุค สมัยที่ความสัมพันธ์รูปแบบนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับ ต้องปกปิด หรือแนววายญี่ปุ่น เพราะเรามีวัตถุดิบอยู่แล้ว อาจเปลี่ยนเป็น นายครับ อย่ามาอ่อย ก็เป็นไอเดียอย่างหนึ่ง

 

ความยากของอาชีพนักเขียนในมุมมองของคุณคืออะไร

การเริ่มเขียนสักเรื่องไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะคิดพล็อตได้ คิดฉาก คิดตัวละคร ชื่อเรื่อง หรือแม้แต่จะหาแรง บันดาลใจในการลงมือเขียน ถ้าไม่มีคือเขียนไม่ออกเลยนะ นั่งมองจออยู่อย่างนั้น เขียนๆ ลบๆ กว่าจะเขียนบทนำได้ก็ยาก จะเปิดเรื่องยังไงให้ปัง เขียนถึงกลางเรื่องเกิดตัน ไปต่อไม่ได้อีก เชื่อว่านักเขียนทุกคนต้องเจอที่อยู่ๆ ภาวะหมดไฟ เขียนไม่ออก อยากบอกว่าอย่าตกใจ ยิ่งพยายามเค้น ยิ่งไม่ได้ คนอื่นช่วยคิดก็ไม่ได้ แนะนำว่าให้ไปทำอย่างอื่นเลย พักไว้สักอาทิตย์ค่อยกลับมาลองใหม่ เราเองเคยประสบภาวะนี้หลายเดือน เขียนไป 60 หน้าแล้วทิ้งก็มี ไม่ชอบไม่สนุก ให้เวลาเป็นตัวช่วย เชื่อว่าเราเขียนได้ แต่อย่ากดดัน

ความยากของนักเขียนในยุคนี้อีกอย่างคือคอมเมนต์จากนักอ่าน เราชอบนะกับการมีโซเชียลมีเดีย ทำให้เราคุยกับนักอ่านได้ง่าย แต่ก็เป็นดาบสองคม  ข้อดีคือเพิ่มกำลังใจให้อยากเขียน มีคนรออ่าน แต่ก็บั่นทอนเราได้เช่นกัน สำหรับเราเจอคอมเมนต์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กม.ต้นอยู่เลย แล้วเป็นเด็กไม่ค่อยพูด ซ้ำร้ายไม่รู้จะบอกคนรอบข้างยังไงว่าเราเครียดกับคอมเมนต์นะ เลยเก็บไว้กับตัวเอง ช่วงเป๋ ช่วงท้อแท้คือพักนานเป็นปี แต่พอจิตใจดีแล้วก็กลับมาเขียนใหม่ คำพูดเหล่านั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว เราออกงานเหมือนเดิม มั่นใจว่าที่ทำอยู่ดีแล้ว เต็มที่แล้ว เชื่อมั่นในสิ่งนั้นต่อไป

การที่ผลงานเล่มแรกดังมากสร้างความกดดันในการเขียนเล่มต่อไปหรือไม่

อันนี้เป็นอีกปัญหาเหมือนกัน ตอนเขียนเซ็ต Nippon Sweetie ซึ่งเป็นที่นิยมมาก คนชอบคาดหวังว่าจะเหมือนเล่มแรกหรือเปล่า เราเลยประสาทเสียหน่อยๆ คอยแต่เอาเล่มแรกมาเปรียบเทียบโดยไม่จำเป็น เพราะแต่ละเรื่องไม่เหมือนกันถึงจะเป็นเซ็ตเดียวกัน แต่ถามว่าเรากดดันไหม เรากดดันตัวเอง เราเครียด เราชอบเอาไปเทียบเหมือนกัน และพยายามบอกตัวเองเสมอว่าเทียบไม่ได้ หรืออย่างเซ็ต นายคะ อย่ามาอ่อย จริงๆ ต้องมีทั้งหมดสี่เล่ม ตอนนี้ขาดเล่มสุดท้าย และคนอ่านตั้งตารอเพราะเป็นตัวละครที่ชอบมาก เรายังเขียนไม่ออก ยังมีความกังวลเรื่องพล็อต แต่สัญญาว่าจะออกภายในปีนี้

 

 

เกือบ 20 ปีของการเป็นนักเขียน เห็นพัฒนาการของวงการนี้ยังไงบ้าง

เราอยู่มาตั้งแต่สำนักพิมพ์แจ่มใสมีแค่บูธเดียว จนบูธใหญ่ คนอ่านต่อคิวไปถึงที่จอดรถ และมาถึงยุคที่หนังสือเล่มขายยากขึ้น เทรนด์เปลี่ยนไปทุกวัน นักเขียนทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ก็ต้องปรับตัวตาม สมัยก่อนตอนอีบุ๊กเข้ามาแรกๆ คนก็ไม่เอา แต่เดี๋ยวนี้มีคนอ่านเยอะขึ้น คนอ่านเล่มก็อ่านเล่ม คนอ่านอีบุ๊กก็อ่านอีบุ๊ก ถ้าไม่ปรับตัวก็อยู่ไม่ได้ ทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงให้ได้ ไม่ใช่ไม่มีคนอ่านแล้ว ท้อ คนอ่านยังอยู่ เขาแค่ย้ายแพลตฟอร์ม ส่วนตัวมองว่าจะอยู่บนอะไรไม่สำคัญ ขอแค่คอนเทนต์เราดี ทำงานให้ดีเหมือนเดิมก็พอ

ขอคำแนะนำสำหรับนักอยากเขียนรุ่นใหม่ๆ บ้าง

ต้องมั่นใจว่าอยากเขียนจริงๆ เพราะถ้าอยากจริงๆ จะมีพลังในการฝ่าฟันอุปสรรค ยังไงเสียต้องได้เจอความท้อใจเวลาเขียนงานไม่ออก ความเครียดเวลาเจอคอมเมนต์ไม่ดี คนอ่านไม่เยอะ ดังนั้นมีความปรารถนาอันแน่วแน่ และเชื่อว่าตัวเองทำได้ อย่าคาดหวังว่าเรื่องแรกต้องปัง ต้องดี ทุกอย่างอาศัยเวลาฝึกฝน เราเขียนกันมานับ 10 ปีกว่าจะมีผลงานที่คนชอบในวงกว้าง ไม่มีทางลัดอะไรทั้งนั้น มีแต่ฝึกเยอะๆ เพราะพวกเราก็ฝึกตนเต็มที่กว่าจะได้ในสิ่งนี้มาค่ะ

 

 

ผลงานที่อยากแนะนำของ “เจ้าหญิงผู้เลอโฉม”

  • นายคะ อย่ามาอ่อย เป็นเรื่องแรกที่เขียนแนวผู้ใหญ่ 18+ ได้วัตถุดิบจากประสบการณ์ทำงานในบริษัทโฆษณาญี่ปุ่น นำสิ่งที่พบเจอมาสร้างเป็นเรื่องราว เรื่องนี้ได้ทำเป็นซีรีส์ในทีวีด้วยค่ะ
  • Sexy Boy for Rent ผู้ชายให้เช่า เป็นผลงานร่วมกับ “แสตมป์เบอร์รี่” ล่าสุดประเทศจีนซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นซีรีส์แล้ว เรื่องนี้พล็อตดราม่ากว่าเดิม และเรื่องของเรากับ “แสตมป์เบอร์รี่” จะเชื่อมกัน ต้องอ่านทั้งสองเล่ม
  • Reverse Revenge สลับร่างทวงรัก เป็นการเขียนลง Webtoon ที่ต้องลงทุกอาทิตย์ และยังต้องดึงคนอ่านที่ปกติอ่านการ์ตูนออนไลน์ ซึ่งมีภาพและตัวหนังสือไม่เยอะ ให้เขาติดตามอ่านนิยายให้ได้ ปรับการเขียนให้กระชับ ทุกตอนต้องมีจุดหักมุม ถึงจะดึงดูดคนอ่าน ต่างจากนิยายปกติที่มีจังหวะเนิบได้บ้าง แต่อันนี้ต้องตื่นเต้นทุกตอน ค่อนข้างท้าทาย

ภิญญ์สินี

Writer

กองบรรณาธิการ ศิษย์เก่าเอกปรัชญาและศาสนา ชอบติดตามกระแสสังคม และเทรนด์แฟชั่น สนใจศิลปวัฒนธรรม และสีมงคล ลายนิ้วหัวแม่มือคือลายมัดหวาย

อนุชา ศรีกรการ

Photographer

ช่างภาพที่เกิดวันเดียวกับวันถ่ายภาพโลก เลยทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้ว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!