“ความสนุก” และ “สาระ” เสมือนขั้วที่อยู่ตรงกันข้าม เชื่อว่าหลายคนคงเคยตั้งเกณฑ์ในใจไว้ว่า “หากเรื่องใดสาระมาก ความสนุกจะลดน้อยลง” ในทางกลับกัน “หากเรื่องใดสนุกมาก จะไม่ค่อยมีสาระ” ยุทธจักร ฅ.ฅน ฉบับนี้ขอพาผู้อ่านไปรู้จัก วิว-ชนัญญา เตชจักรเสมา คอนเทนต์ครีเอเตอร์ สาวผู้นำเสนอเนื้อหาวิชาการน่าเบื่อได้อย่างสนุกสนาน มีสีสัน และเข้าใจง่าย จนมีผู้ติดตามเธออย่างล้นหลามผ่านโลกโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะในช่องทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือช่องรายการยูทูบ ในชื่อ “พอยท์ออฟวิว (Point of View)”

ก่อนมาเป็น Point of View สิ่งที่เป็นแรงผลักดันเริ่มต้นจากวัยเด็ก วิวเข้าใจว่าหนังสือจำพวกวรรณคดี ประวัติศาสตร์ นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ ไม่ใช่หนังสือสาระวิชาการ แต่คือสิ่งให้ความบันเทิง เมื่อเติบโตขึ้น เพื่อนๆ วัยเดียวกันได้พบความบันเทิงอันหลากหลายและหันเหความสนใจไปสู่สิ่งอื่น ในขณะที่วิวยังคงสนุกกับโลกหนังสือของเธอ และพัฒนาการอ่านจากวรรณคดีฉบับนิทานสำหรับเด็กสู่บทประพันธ์ฉบับดั้งเดิม
ด้วยความที่วิวชื่นชอบวรรณคดีและเกร็ดความรู้ต่างๆ อยู่แล้ว เพื่อนๆ จึงมักมาขอให้เธอช่วยสรุปเนื้อเรื่องสั้นๆ แบบเข้าใจง่ายเพื่อใช้ในการสอบ การช่วยติวสอบเพื่อนนี้เองมีส่วนทำให้เธอกลายเป็นนักถ่ายทอดเรื่องราวที่ดี ประจวบกับช่วงนั้นอินเตอร์เน็ตเริ่มแพร่หลาย จึงใช้พื้นที่ในโลกออนไลน์ถ่ายทอดเรื่องที่เธอชื่นชอบ และหวังอยากหาเพื่อนผู้ชื่นชอบในเรื่องเดียวกัน วิวสั่งสมประสบการณ์การเล่าเรื่องมาตั้งแต่เว็บไซต์มายสเปซ (MySpace), diaryhub.com, diaryis.com จนถึงบล็อกเอ็กซ์ทีน (exteen) และทวิตเตอร์ (twitter) โพสต์เรื่องที่เธอสนใจ รวมทั้งสรุปเนื้อหาวรรณคดีแบบเข้าใจง่ายเพื่อติวสอบให้ตัวเอง ผลพลอยได้คือมีคนติดตามและได้กระแสตอบรับที่ดี ผู้ติดตามเริ่มเรียกร้องให้วิวเล่าเรื่องอื่นเพิ่ม เมื่อคนมาขอให้เล่าเรื่องเดิมซ้ำๆ วิวจึงปรับเปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่องเป็นการอัดคลิปวิดีโอเพื่อความสะดวกในการส่งต่อเนื้อหา

แม้จะเริ่มทำคลิปวิดีโอแล้ว แต่วิวก็ยังไม่ได้จริงจัง เพราะการเป็นนักอ่านตัวยง ทำให้เธอมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นนักเขียน เธอมุ่งมั่นจนได้ออกหนังสือรวมผลงานในชื่อวรรณคดีไทยไดเจสต์ ทว่าเมื่อสานฝันได้สำเร็จแล้ว วิวกลับค้นพบความจริงข้อหนึ่งว่า สิ่งที่เธอชื่นชอบจริงๆ ไม่ใช่การเขียน แต่เป็น “การเล่าเรื่อง” ถ่ายทอดเรื่องราวไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม เธอจึงให้ความสำคัญแก่การลงคอนเทนต์แบบออนไลน์มากขึ้น เมื่อได้เข้าร่วมโครงการ “YouTube NextUp” (โครงการที่ยูทูบจัดทำขึ้นเพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์ในการพัฒนาช่องของตัวเอง) วิวพบว่ามีครีเอเตอร์หลายคนนำเสนอคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ เธอจึงเริ่มจริงจังกับการทำช่องแชนแนลในยูทูบ จนกลายเป็นช่องทางที่สร้างชื่อเสียง คนทุกเพศทุกวัยต่างเข้ามาดูคลิปของเธอและแชร์ต่อกันในวงกว้าง ด้วยลีลาการเล่าเรื่องและการ์ตูนประกอบแสนน่ารักของเธอ ทำให้เรื่องเข้าใจยากดูน่าสนุกขึ้น
วิวเปรียบตัวเธอคือ “ประตู” ที่กั้นกลางระหว่างสองโลก คือโลกสาระความรู้ กับโลกของคนที่ยังกลัวหนังสือเล่มหนาเตอะ ภาษาเข้าใจยาก จนไม่กล้าก้าวข้ามมา เธออยากจะแง้มให้เห็นว่าด้านหลังประตูบานนั้นมีสิ่งที่สวยงาม และหากใครชอบมากๆ จนอยากเดินข้ามไปก็ยินดี “วิวรู้สึกดีใจทุกครั้งที่เด็กส่งรูปมาให้ดูว่าหนูไปซื้อเล่มเต็มมาอ่านแล้ว เรารู้สึกประสบความสำเร็จที่ดึงคนเข้ามาโลกใบนี้ได้อีกหนึ่งคน”

เส้นทางคอนเทนต์ครีเอเตอร์ของวิวนั้นดำเนินมาอย่างยาวนาน จากช่องทางที่อยากรวบรวม “คนที่สนุกเรื่องเดียวกัน” เข้ามาแบ่งปันและแสดงความคิดเห็น เริ่มเติบโตขึ้น คุณครูนำวิดีโอของเธอไปเปิดสอนในห้องเรียน เด็กนักเรียนดูคลิปก่อนไปสอบ นั่นทำให้วิวคิดว่าช่องทางนี้ต้องมี “ความรับผิดชอบต่อสังคม” มากขึ้น เธอจึงเช็กข้อมูลอย่างถี่ถ้วน อ้างอิงแหล่งที่มา เพราะตระหนักถึงความสำคัญว่าทุกคำที่พูดผ่านคลิปอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของเด็กๆ ที่เข้ามาดู จนกลายเป็นฝังจำความคิดนั้นไปจนโต
คอนเทนต์ของ Point of View มีหลากหลาย ตั้งแต่นิทานพื้นบ้าน นิยาย ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ตำนาน หรือแม้แต่วิทยาศาสตร์ หลายคนอาจติดภาพว่าเมื่อพูดชื่อ Point of View ต้องนึกถึงวรรณคดีไทย ประวัติศาสตร์ แต่หากได้ติดตามอย่างต่อเนื่องจะพบว่า “รายการนี้ไม่ได้ชื่อว่าวิวเล่าวรรณคดี วิวเล่าประวัติศาสตร์ หรือประวัติศาสตร์แสนสนุกกับวิว แต่มันคือ Point of View วิวอยากนำเสนอเรื่องอะไรก็ได้ที่วิวสนใจให้สนุกและมีสาระไปพร้อมกันได้”
อยากชวนทุกคนมาสนุกกับเรื่องที่มีสาระด้วยกัน
ติดตามผลงานของ Point of View ได้ที่
Facebook: @PointoofView
Twitter: @PointoofView
YouTube: https://www.youtube.com/c/PointofView