“การไม่กล้าลงมือทำอะไร
ทำลายผลงานทั้งหลาย
ได้มากมายกว่าการทำอะไรไม่สำเร็จ”
เพราะการไม่ลงมือทำอะไร เพราะกลัวทำไม่ได้ กลัวทำไปไม่ตลอด
หรือกลัวคนอื่นจะถามว่าทำไปทำไม พอทำไม่ได้จะมีคนสมน้ำหน้า (ที่เตือนแล้วว่าไม่ให้ทำ)
สุดท้ายคือไม่ทำอะไร เมื่อไม่ทำอะไร จะหวังอะไรได้ เพราะผลงานเกิดจากการกระทำ
แผนการเลิศเลอแค่ไหน ก็เหมือนเครื่องยนต์พลังมหาศาล เป็น 1,000 แรงม้า วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก
แต่ถ้าไม่ขึ้นไปขับ ไม่เข้าเกียร์ ไม่เหยียบคันเร่งทะยานออกไป
เครื่องยนต์มหัศจรรย์แค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ รถยนต์ก็จอดอยู่กับที่เหมือนไม่มีเครื่องยนต์
ความคิดสวยหรูที่ไม่ได้นำสู่ภาคปฏิบัติอะไร ก็เหมือนไม่ได้คิด เพราะมันผลิตผลงานออกมาเป็นรูปธรรมไม่ได้
ดังนั้น อย่ากลัวที่จะลงมือทำอะไร
เพราะต่อให้ทำ แล้วทำไม่ได้ ก็ใช่ว่าจะสูญเปล่า เพราะอย่างน้อยสิ่งที่เหลือไว้คือประสบการณ์ที่คนไม่ลงมือทำไม่มีวันมีได้
อย่างน้อยคุณจะได้เรียนรู้ว่า เพราะอะไรมันถึงไม่สำเร็จ
แล้วเมื่อคุณไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นมาทำใหม่ คุณไม่ได้ทำจากจุดเริ่มต้น แต่คุณเริ่มจากจุดที่คุณล้ม
เหมือนวิ่ง 100 เมตร คุณล้มลงที่ระยะ 50 เมตร เมื่อคุณลุกขึ้นมาวิ่งต่อไป คุณจะวิ่งไปอีกแค่ 50 เมตร ก็จะถึงเส้นชัย
เขาถึงเรียกว่า การทำอะไรแล้วทำไม่ได้ คือการล้มไปข้างหน้า
แต่การไม่ทำอะไร ก็เหมือนการเต๊ะท่าอยู่กับที่
ไม่ได้ทั้งความคืบหน้าและประสบการณ์ใดๆ
เวลาจะทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ ทุกคนจะมีความกลัวทั้งนั้น
วิธีจะชนะความกลัวให้ได้ก็เหมือนเวลาเราหันหน้าเข้าหาแสง
แน่นอนว่าต้องแสบตา แต่วิธีที่สู้แสงให้ได้ ไม่ใช่การหันหลังให้แสง
เพราะถ้าเราหันหลังให้แสง เงาก็จะไปอยู่ข้างหน้า
ไปทางไหน ก็จะเห็นแต่เงาตัวเอง
ถ้าแสงมันทำให้เราแสบตา ก็อาจจะเดินก้มหน้าหรือหาอะไรมาบังแสง
แต่ต้องหันหน้าเผชิญหน้ากับมันให้ได้ ลองทำความคุ้นเคยทีละเล็กละน้อย
อีกไม่นานเราอาจจะพบว่าแสงที่แยงตาคือแสงที่ส่องทางนำพาเราไปสู่ความสำเร็จนั่นเอง
แต่ถ้าทำความคุ้นเคยแล้วก็ยังไม่ชิน จึงตัดความกลัวออกไปไม่ได้สักที
วิธีต่อไป คือให้ทำต่อไป ทั้งๆ ที่กลัวอยู่
อย่านึกว่า ทหารกล้าที่เผชิญหน้ากับข้าศึก จะไม่กลัวตาย
นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จะไม่กลัวแพ้
คนที่เก่งกาจ จะไม่กลัวทำผิดพลาดเลย
เขาทุกคนล้วนมีความกลัวกันทั้งนั้น
แต่เขาไม่ยอมให้ความกลัวหยุดเขาไว้ เขายังทำต่อไป ทั้งๆ ที่ยังกลัว
ดังนั้น จงก้าวข้ามความกลัวให้ได้
“อย่ากลัวที่จะทำแล้วทำไม่ได้
แต่ให้กลัว ‘การไม่เริ่มต้น’
เพราะถ้าเริ่มทำ
ยังมีสองคำตอบ
คือ ทำได้ กับ ไม่ได้
แต่ถ้าไม่เริ่มต้นทำอะไร
เหลือคำตอบเดียวตลอดไป
คือ ทำไม่ได้
เพราะ ไม่ได้ทำ”
คอลัมน์: ก้าวไกลไปข้างหน้า
เรื่อง: จตุพล ชมภูนิช
ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์