Paris in Pairs ปารีสบนดาวดวงอื่น

-

แม้ว่าปกสีดำแดงจะไม่มีอะไรสะดุดตา แต่หนังสือเล่มนี้ตั้งชื่อชวนอ่าน  เนื้อในมี 13 เรื่องสั้น  ซึ่งล้วนแต่ใช้ฉากท้องเรื่องที่กรุงปารีส  เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ที่มีเสน่ห์เชิญชวนให้ผู้คนทั่วโลกไปเยือนอย่างน้อยสักครั้งหนึ่ง ทั้งๆ ที่เรื่องสั้นเป็นเรื่องที่จบในตัว แต่โชติกา  ปริณายก นักเขียนหน้าใหม่ทำให้คนอ่านตามอ่านเรื่องต่อไปและต่อไป  เพราะพบว่าตัวละครในเรื่องสั้นทั้ง 13 เรื่องมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันไม่มากก็น้อย  เป็นกลวิธีเล่าเรื่องที่ทำให้หนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มนี้มีเอกภาพ แสดงส่วนเสี้ยวชีวิตหลากหลายที่มีอัตลักษณ์สะท้อนภาพรวมของชาวกรุงปารีสกลุ่มหนึ่ง  ซึ่งมีตั้งแต่นักโจรกรรมสาวและนักปลอมภาพจิตรกรรมชิ้นเอกของโลกมือขั้นเทพ สาวคนที่ตื่นตอนกลางคืนและหลับในตอนกลางวัน ชายนักล้วงกระเป๋ามืออาชีพ หญิงชราผู้ต้องการมีสามี คนส่งเบอร์เกอร์แอนด์ฟรายส์ ศิลปินสาวแห่งจัตุรัสปลาซ  ดู แตร์เตรอ  หนอนหนังสือแห่งร้านเชกสเปียร์แอนด์คอมปานี หญิงชราปริศนาหน้าบ้านเลขที่ 49  สาวน้อยเป็นโรคประหลาดต้องกินยาพิเศษหลายขนาน   เกย์เจ้าของร้านเคบับและสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม  เชฟรูปหล่อกับลูกค้าขี้มโน  สุนัขล่องหน  และชายผู้ชมหอไอเฟลบนดาวอังคาร

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของหนังสือเล่มนี้คือภาพประกอบจากสถานที่จริงและตรงกับเรื่องราวในเรื่องสั้น อันทำให้คิดว่าแท้ที่จริงภาพเหล่านั้นไม่ใช่ “ภาพประกอบเรื่อง”  หากแต่เรื่องสั้นแต่ละเรื่องคือ  “เรื่องประกอบภาพ”   ผู้แต่งถ่ายภาพปารีสที่ได้ไปเยือนอย่างนักท่องเที่ยวทั่วไป  แต่หลายภาพกระตุ้นให้ก่อร่างสร้างเรื่องจนเป็นเรื่องสั้น 13 เรื่องที่ร้อยเกี่ยวกันให้เห็นชีวิตคนเล็กๆ ในมหานครขนาดใหญ่ของโลก  คิดต่อเล่นๆ ว่า  อ่านเรื่องสั้นจบเล่มแล้ว  ลองเอาเนื้อเรื่องมาเรียงร้อยต่อกันใหม่  อาจจะคิดว่าที่อ่านจบไปแล้วเป็นนวนิยายเรื่องหนึ่งก็เป็นไปได้

ผู้แต่งตั้งชื่อเรื่องสั้นทุกเรื่องด้วยชื่อตัวละครหลักในเรื่อง (ซึ่งหลายชื่อออกเสียงไม่ตรงกับภาษาฝรั่งเศส) ตัวละครทั้ง 13  ตัวมีลักษณะเฉพาะโดดเด่นและแสดงให้เห็นความแตกต่างของความเป็นมนุษย์  เรื่องสั้น 13 เรื่องไม่ได้แต่งตามขนบเรื่องสั้นแบบคลาสสิคที่ต้องมีโครงเรื่องเดียว  มีแก่นเรื่องเดียว  มีปมขัดแย้ง และนิยมจบแบบพลิกความคาดหมาย  เรื่องสั้นแต่ละเรื่องในเล่มนี้ไม่มีปมขัดแย้งใด หลายเรื่องคล้ายไม่มีพล็อตและไม่มีแก่นเรื่อง และจบลงแบบหมดเรื่องจะเล่า เราอาจจะเรียกเรื่องสั้นแต่ละเรื่องว่าเป็นฉากชีวิตฉากเล็กๆ ของตัวละครในจินตนาการ อย่างเรื่อง “Laurent” ชายหนุ่มที่นำชีสเบอร์เกอร์ไปส่งให้ลูกค้าสาวเจ้าประจำซึ่งมักขอให้ร้านส่งเบอร์เกอร์ไปให้เธอตามสถานที่ต่างๆ  วันนั้นเขาไปส่งเบอร์เกอร์ให้เธอตามสถานที่ในโปสการ์ดซึ่งแสดงมุมสวยที่สุดของหอไอเฟล  แล้วเขากับเธอก็เดินเท้าแลกเปลี่ยนบทสนทนากันบนสะพานข้ามแม่น้ำแซน เป็นตัวอย่างหนึ่งของเรื่องที่เล่าไปเรื่อยๆ โดยไม่มีข้อขัดแย้งหรือหักมุมจบ  เรื่อง  “Jean”  ก็เช่นกัน  เชฟสุดหล่อซึ่งลูกค้าสาวๆ พากันเหล่มองและแอบถ่ายเซลฟี่  ลูกค้าบางคนมโนเอาว่าฌอนมีปัญหารักสามเส้า บ้างก็คิดว่าเขาคงจะเป็นเกย์คู่ขาของบริกรหนุ่ม แต่อันที่จริงฌอนมีคนรักสาวซึ่งเขาพร้อมทำทุกอย่างที่เธอพอใจ ดังเช่นสั่งให้เลอา-นักโจรกรรมสาว- หาหนังสือเล่มที่โคลอี้ต้องการอ่านได้สำเร็จ  เลอาและโคลอี้เป็นตัวละครในเรื่องสั้นอีกสองเรื่อง   ส่วนเรื่อง “June”  ผู้ใช้เวลาสวนทางกับชาวบ้าน  คือตื่นในยามกลางคืนและนอนในเวลากลางวัน  เธอเดินทางอย่างทุลักทุเลตามลำพังไปปารีส  และได้ท่องราตรีที่เต็มไปด้วยแสงสีของมหานครปารีสอย่างสนุกสนาน

นอกจากนี้  ผู้แต่งใช้เทคนิคของเรื่องเล่าแบบเหนือจริงให้ผู้อ่านเปลี่ยนบรรยากาศและรสชาติการอ่าน เช่น  เรื่อง  “Chloe’”  สาวน้อยผู้เป็นโรคประหลาดและรู้กำหนดวันตายของตัวเอง  เธอชิมและช้อปสั่งลาคืนสุดท้ายของชีวิตอย่างเต็มที่   แล้วนอนอ่านหนังสือ  รอว่าเธอจะตายตามเวลาเดิมหรือตามเวลาใหม่ของปารีสที่ปรับให้ช้ากว่าเดิม   ส่วนเรื่อง “Albert”  ก็เป็นเรื่องของหมาล่องหนเพราะกินยาวิเศษของโคลอี้ที่ทำหล่นไว้  ผู้แต่งให้อัลแบร์เป็นตัวละครเล่าเรื่องการเล่นสนุกของเด็กๆ ในสวนสาธารณะ

แม้ว่าเนื้อหาในเรื่องสั้นแต่ละเรื่องจะดูไม่มีสาระอะไร  แต่แท้ที่จริงทุกเรื่องเก็บ “ความเป็นปารีส”  ไว้ได้อย่างครบถ้วน  ในด้านสถานที่  เรื่องสั้นกล่าวถึงหอไอเฟลสัญลักษณ์แห่งฝรั่งเศส  พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ดอร์เซ  ย่านมงมาร์ตแหล่งชุมนุมศิลปะและศิลปิน   สะพานข้ามแม่น้ำแซน   และนอกจากสถาปัตยกรรมคลาสสิค  ปารีสยังมีสถาปัตยกรรมสมัยใหม่รูปทรงแปลกประหลาดล้ำยุค  สามารถขึ้นชมได้บนตึก “ดาวอังคาร”  สูง 30 ชั้น ที่ชื่อว่า Tour de Mars ที่ซึ่งจะมองเห็นปารีสอีกรูปลักษณ์หนึ่ง  นอกจากนี้เรื่องสั้นยังฉายภาพของสถานที่พักส่วนใหญ่ในปารีสซึ่งมักเป็นห้องเล็กบนตึกสูงมีชั้นต่ำกว่าถนนลงไป  บันไดแคบชันและไม่มีลิฟต์   เช่นเดียวกับรถใต้ดินที่สกปรก  เหม็น  ไม่มีทั้งลิฟต์และบันไดเลื่อน  รายละเอียดเหล่านี้เป็นฉากที่สร้างบรรยากาศให้ผู้อ่านเข้าถึงความเป็นปารีส

คนปารีสชอบอ่านหนังสือ  ร้านหนังสือชื่อดังซึ่งผู้คนชอบไปเลือกหนังสือและนั่งจิบกาแฟริมถนน ชื่อ “เชกสเปียร์แอนด์คอมปานี” นั้นอัดแน่นด้วยหนังสือประเภทต่างๆ  และ  Ofr Librairie  ซึ่งเป็นร้านหนังสือที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร  เมื่อกล่าวถึงอาหาร  อาหารฝรั่งเศสไม่ใช่เป็นเพียงปัจจัยดำรงชีวิต  แต่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์  และเป็นสิ่งบ่งบอกวัฒนธรรมอีกด้วย  อาหารฝรั่งเศสติดอันดับต้นๆ ของอาหารชั้นยอดของโลก  อย่างหอยทากเอสคาโกอบเนย  และเป็ดทอดกรอบ    แต่ฝรั่งเศสที่เติบโตเป็นประชาคมนานาชาติ  ก็ยินดีเอร็ดอร่อยกับเบอร์เกอร์แอนด์ฟรายส์ของอเมริกัน  เคบับของอาหรับ  รวมทั้งอาหารแอฟริกัน ปารีสขึ้นชื่อเรื่องไวน์  แม้ร้านอาหารจะเปิดถึงเที่ยงคืน  แต่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงห้าทุ่มเท่านั้น และเมื่อถึงเดือนตุลาคม  ปารีสจะประกาศปรับเวลาให้ช้าลงหนึ่งชั่วโมง คนที่ไปจากซีกโลกตะวันออกต้องปรับเวลานาฬิกาให้เข้ากับเวลาของปารีส

ปารีสเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่น สาวสวยหนุ่มหล่อทั่วโลกหรือผู้มีบุคลิกเตะตาโดนใจต่างใฝ่ฝันอยากเป็นนางแบบนายแบบเดินโชว์เสื้อผ้าแบรนด์เนมบนแคทวอล์ก  แม้ไม่ใช่นายแบบนางแบบ  ความหล่อเหลาและความสวยสดของหนุ่มสาวปารีเซียงก็เป็นที่รับรู้กันทั่วโลก  กระทั่งผู้สูงอายุก็มักแต่งตัวงามมีบุคลิกภาพดี  เขาและเธอเหล่านั้นเดินอยู่ในเรื่องสั้นเล่มนี้ด้วย  ขณะเดียวกันคนผิวสี  คนตะวันออก  ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้อพยพก็เดินกระทบไหล่สร้างสีสันให้แก่กรุงปารีสอยู่ไม่น้อย  รวมทั้งแก๊งยิปซีที่สร้างน้ำตาและความเจ็บใจแก่นักท่องเที่ยวที่ถูกล้วงกระเป๋าด้วยเทคนิควิธีต่างๆ  นอกจากคนหนุ่มสาวแล้ว  คนแก่ในปารีสทำอะไรกันบ้าง  ที่เห็นอยู่เจนตาคือนั่งเล่นหมากรุกใต้ร่มไม้  หรือนั่งหลับพักผ่อนตากแสงแดดอ่อนในสวนสาธารณะ ส่วนเด็กๆ ก็มีที่เล่นสนุกในสวนสาธารณะ เช่น ปาร์ค เดอ ลา วิลเลตต์  ที่ซึ่งเด็กๆ จะได้วิ่งเล่นรอบชิ้นส่วนประติมากรรมจักรยานขนาดยักษ์ เล่นโทรศัพท์ทางไกลที่จานหิน เล่นกระโดดบนก้อนหินติดสปริง  นั่งม้าหมุน และลื่นไถลจากสไลเดอร์ขนาดใหญ่

Paris in Pairs  ปารีสบนดาวดวงอื่น  ของโชติกา  ปริณายก  เป็นหนังสือเล่มเล็กบางที่อ่านเพลิน  เรื่องสั้นในเล่มเป็นเรื่องเล่าที่ผู้แต่งไม่ตัดสินตัวละครหรือเหตุการณ์ด้วยกรอบความคิดใดทั้งสิ้น  แม้ว่าผู้แต่งจะเป็นนักเขียนหน้าใหม่  แต่เธอเข้าใจศิลปะของเรื่องสั้นและนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ได้ลื่นไหลจนต้องขอติดตามผลงานเรื่องต่อๆ ไป


เรื่อง: ศ.ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์

All Creative Team

Writer

ร่วมสร้างสังคมอุดมปัญญา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!