ก่อนวันคริสต์มาสปี 1985 ไม่กี่วัน มีคนพบศพหมีดำตัวหนึ่ง หนัก 79 กิโลกรัม นอนตายในป่ารัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา
จากการชันสูตร มันไม่ได้ตายเพราะถูกใครฆ่า หรืออดอาหาร หมีตัวนั้นตายเพราะเสพโค้กเกินพิกัด
โค้ก ที่ว่านี้ไม่ใช่น้ำอัดลม แต่เป็นคำสแลงของโคเคน
หมีกลางป่าเสพโคเคน? นี่ย่อมเป็นเรื่องประหลาด
ความจริงเผยว่าในเดือนกันยายนปีนั้น นักค้ายาเสพติดชาวอเมริกันคนหนึ่งขนโคเคนมาจากโคลอมเบีย เข้าสหรัฐฯ หลังจากส่งสินค้าที่เมืองแบลร์สวิลล์ รัฐจอร์เจีย นักค้ายาก็บินผ่านป่า ด้วยเหตุขัดข้องบางอย่างทำให้เขาต้องลดน้ำหนักของเครื่องบิน เขาจึงทิ้งโคเคนสี่สิบห่อลงไปกลางป่า หลังจากนั้นก็กระโดดร่มลงมาที่เทนเนสซี แต่ร่มชูชีพไม่ทำงาน นักบินตายคาที่
จนถึงเดือนธันวาคม จึงมีรายงานการพบศพหมีดำตัวนี้
เมื่อผ่าศพหมี พวกเขาพบความจริงว่าหมีดำกินโค้กเข้าไปเต็มท้องจนตาย
โคเคนที่ทิ้งลงไปหนัก 34 กก. ราคาในตลาดสองล้านเหรียญ
เป็นอาหารมื้อสุดท้ายที่แพงมากสำหรับหมีตัวหนึ่ง
จึงมีคนตั้งชื่อมันว่า Pablo Escobear ล้อเลียนชื่อนักค้ายา Pablo Escobar เจ้าพ่อนักค้ายาโคเคนชาวโคลอมเบีย
นี่เป็นเรื่องจริงที่บังเอิญคล้ายหนังเรื่อง The Gods Must Be Crazy อย่างประหลาด
พล็อตเรื่อง The Gods Must Be Crazy คือนักบินคนหนึ่งขับเครื่องบินเล็กผ่านป่าแอฟริกา หลังจากดื่มน้ำอัดลมโค้กหมดขวด ก็โยนขวดเปล่าลงไปกลางป่า ขวดนั้นหล่นตุ๊บกลางหมู่บ้าน ชาวป่าก็นำขวดน้ำอัดลมไปทำกิจกรรมต่างๆ ต่อมาก็แย่งชิงกัน เพราะทันใดนั้นขวดเปล่าใบนั้นกลายเป็นของต้องมี และทุกคนในหมู่บ้านก็ทะเลาะกันเพื่อแย่งขวดโค้ก วุ่นวายไปทั้งหมู่บ้าน
หากเรามองว่าหมีเสพยาเป็นเหตุการณ์ประหลาดที่ในรอบร้อยปีเกิดขึ้นครั้งเดียว อาจต้องคิดใหม่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกของชาวมนุษย์ก็ประหลาดเช่นกัน
โลกเราเต็มไปด้วยเหตุการณ์หมีกินโคเคนทุกๆ วัน
โคเคนในที่นี้ก็คืออบายมุข เฟกนิวส์ ลัทธิบริโภคนิยม ค่านิยมใหม่ๆ การหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต อบายมุขออนไลน์ ฯลฯ
ทุกๆ วัน มีคนประดิษฐ์โคเคนใหม่ๆ มาหลอกล่อให้ลุ่มหลง และเป็นของต้องมี
สังคมทุกวันนี้เต็มไปด้วยอบายมุขต่างๆ ทั้งยาเสพติดที่เป็นยาเสพติดจริงๆ ไปจนถึงสิ่งเสพติดในรูปอื่นๆ ลัทธิบริโภคนิยมสุดโต่ง ทุกคนต้องการทุกอย่างที่มีในโลก และหลงทางกันได้ง่ายดาย
บ่อยครั้งหลงไปในทางที่ผิดทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดี ยิ่งเข้าไปในโลกนั้น ก็ยิ่งงมงายและโง่งมลง
เป็นความงมงายและโง่งมที่เราเลือกเอง ผิดพลาดซ้ำๆ ซากๆ
เราก็คือ ‘หมีกินโคเคน’
ต่างจากหมีดำตัวนั้น เรารู้ดีกว่า เรารู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี แต่บ่อยครั้งความโลภ ความหลง อคติ ทำให้เรากลายเป็น ‘หมีกินโคเคน’
ทางเดียวที่จะรู้ว่าเราเป็น ‘หมีกินโคเคน’ หรือไม่คือหมั่นตรวจสอบตัวเองเป็นระยะ
วัดความคิดสติปัญญาของตนเรื่อยๆ วัดระดับตัณหาในตัวเองว่าสูงเท่าใดเป็นระยะๆ เหมือนการตรวจสุขภาพประจำปี
ถ้าผลปรากฏว่าเรามีสารเสพติดแห่งชีวิตในตัวมากเกินไป ก็รีบหาทางลดละเลิกเสีย ก่อนที่จะพบจุดจบแบบหมีตัวดำตัวนั้น
…………………
ในตอนท้ายเรื่อง The Gods Must Be Crazy ชาวป่านำขวดโค้กใบนั้นไปทิ้ง ณ สุดขอบโลก สถานที่ซึ่งไม่มีใครค้นหามันพบ
แต่ในโลกแห่งความจริง เราไม่มีวันหนีพ้นโคเคนใหม่ๆ ทั้งหลาย โลกไม่มีสุดขอบโลก เมื่อเราทำลายโคเคนชนิดหนึ่ง ก็จะมีโคเคนชนิดใหม่มาแทนที่เสมอ ไม่ขาดสาย
สิ่งที่เราทำได้คืออยู่กับมันอย่างมีปัญญา ไม่ตกหลุมพรางของมัน โดยใช้สติและปัญญา ลดวางตัณหาลง
หมีดำตัวนั้นตายไปเพราะความไม่รู้ มันไม่รู้ว่ายาเสพติดอันตรายอย่างไร มันจึงเดินเข้าหาสิ่งอันตรายโดยไม่รู้ตัว
แต่มนุษย์เรารู้ เรารู้ว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี เรื่องใดควรทำ เรื่องใดไม่ควรกระทำ
หากเราคิดเรื่องแค่นี้ไม่ได้ เราก็ไม่ต่างอะไรจากหมีดำตัวนั้น
วินทร์ เลียววาริณ
winbookclub.com
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/
คอลัมน์: ลมหายใจ
เรื่องและภาพ: วินทร์ เลียววาริณ