พ่อผู้ให้ชีวิตใหม่

-

นิโคลาส วินตัน (Nicholas Winton) เป็นคนธรรมดาวัย 29 ปี มีอาชีพเป็นโบรกเกอร์ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน
ในปี 1938 วินตันตั้งใจว่าจะฉลองคริสต์มาสด้วยการไปเล่นสกีที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่แล้วแผนการก็ถูกเปลี่ยนกะทันหันเมื่อเพื่อนชื่อมาร์ติน เบลก (Martin Blake) ขอให้เขามาช่วยงาน ณ ศูนย์ผู้ลี้ภัยที่กรุงปราก ประเทศเชคโกสโลวาเกีย
ช่วงเวลานั้น การเมืองระหว่างประเทศกำลังคุกรุ่น มีข่าวลือว่าเยอรมนีที่นำโดยนาซีของฮิตเลอร์กำลังจะเข้ายึดกรุงปราก และมีความคิดจะกวาดล้างชาวยิว

Nicholas Winton

ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่เดือน รัฐบาลอังกฤษได้ผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้เด็กอายุไม่เกิน 17 ปีสามารถทำเรื่องลี้ภัยเข้าประเทศอังกฤษได้หากมีผู้รับผิดชอบเรื่องที่พักอาศัยและพร้อมจ่ายเงินมัดจำ 50 ปอนด์

คริสต์มาสปีนั้น แทนที่วินตันจะโลดแล่นอยู่ในเทือกเขาแอลป์ เขากลับใช้เวลาตลอด 3 สัปดาห์ในห้องนอนที่โรงแรมเพื่อทำเรื่องลี้ภัยให้เด็กๆ ชาวยิวในกรุงปราก วินตันกรอกเอกสาร เขียนจดหมาย ส่งโทรเลข จัดการเรื่องค่าใช้จ่าย และทำทุกอย่างเพื่อประสานงานให้เด็กเหล่านี้ได้เดินทางออกจากกรุงปรากโดยเร็วที่สุด

เมื่อครบสามสัปดาห์ วินตันต้องเดินทางกลับไปยังกรุงลอนดอน แต่เขาก็ยังคงปฏิบัติภารกิจนี้โดยมีเพื่อนๆ ที่ปรากคอยช่วยเหลือ

ในที่สุดวินตันช่วยให้เด็กชาวยิวได้ลี้ภัยเข้าอังกฤษถึง 669 คน ส่วนพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นล้วนเสียชีวิตในค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ในเวลาต่อมา

วินตันไม่เคยเล่าวีรกรรมนี้ให้ใครฟัง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่ภรรยาของตัวเอง

อาจเป็นเพราะว่า มีเด็กอีก 250 คนที่วินตันได้ประสานงานไว้เสร็จสรรพและพร้อมจะออกเดินทางในวันที่ 1 กันยายน 1939 แล้ว แต่วันนั้นเป็นวันที่ฮิตเลอร์บุกโปแลนด์และสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้นขึ้นพอดี รถไฟขบวนนั้นจึงไม่เคยได้ออกจากชานชาลา และวินตันคงเก็บงำความเจ็บปวดที่ไม่อาจช่วยเด็กกลุ่มนี้เอาไว้ในใจตลอดมา

แต่ความลับไม่มีในโลก เมื่อภรรยาของวินตันพบสมุดบันทึกของเขาในห้องเก็บของใต้หลังคา สมุดบันทึกเล่มนั้นมีรายชื่อและรูปภาพของเด็กทั้ง 669 คนที่วินตันได้ช่วยชีวิตเอาไว้ เธอจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกับนักข่าว เรื่องราวเลยได้รับการเผยแพร่ในรายการโทรทัศน์ “That’s Life!” เมื่อปี 1988 หรือ 50 ปีหลังจากที่วินตันเยือนกรุงปราก

ระหว่างรายการ พิธีกรเซอร์ไพรส์วินตันในวัย 79 ปีด้วยการบอกว่า ผู้ชมในห้องส่งที่นั่งขนาบวินตันทั้งซ้ายและขวาต่างก็เป็นเด็กที่วินตันเคยช่วยชีวิตไว้ วินตันดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เช่นเดียวกับสุภาพสตรีทั้งสองที่ได้พบ “พ่อผู้ให้ชีวิตใหม่” เป็นครั้งแรก

ในปี 2003 วินตันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัศวินแห่งอังกฤษ ก่อนจะได้รับ Order of the White Lion (1st class) ซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุดของสาธารณรัฐเชค

ในปี 2015 วินตันจากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยวัย 106 ปี ทิ้งไว้เพียงมรดกนับร้อยนับพันชีวิตที่ไม่อาจประเมินค่าได้

นี่คือวีรกรรมของคนตัวเล็กๆ ผู้เลือกจะทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่เคยร้องขอสิ่งใดเป็นการตอบแทน

 


คอลัมน์ มุมละไม
เรื่อง: อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์ ภาพ: วิกิพีเดีย
All magazine กุมภาพันธ์ 2563


เกี่ยวกับผู้เขียน: อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์ ผู้เขียนหนังสือ ช้างกูอยู่ไหน และ Thank God It’s Monday ขอบคุณโลกนี้ที่มีงานประจำ เจ้าของบล็อก Anontawong’s Musings และ Head of People ที่ Wongnai

All Creative Team

Writer

ร่วมสร้างสังคมอุดมปัญญา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!