อาหารเวียดนามเป็นอาหารที่ค่อนข้างคุ้นหูคุ้นตาคนไทย บวกกับการทานผักสดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยกลุ่มหนึ่งโปรดปรานอยู่แล้ว
ถ้าให้เลือกเมนูที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก่อนอื่นใดเมื่อพูดถึงร้านอาหารเวียดนาม ก็น่าจะเป็น ‘แหนมเนือง’ ซึ่งเป็นอาหารอันอุดมด้วยผักหลากชนิดและเครื่องเคียงครบครัน
คราวนี้ผมจะพาไปกินร้าน ‘แหนมเนือง’ ร้านดังที่ผมกินเป็นประจำ เป้าหมายของเราอยู่ที่ร้านอาหารเวียดนาม ทิพวรรณ บางเขน
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ซอยพหลโยธิน 53 – พหลโยธิน 55 เดี๋ยวนี้เดินทางสะดวกมาก เพราะลงรถไฟฟ้าสถานีราบ 11 ก็จะเจอเลย ร้านหาไม่ยาก ตามกูเกิลแมปไปได้เลย
ที่นี่เป็นร้านอาหารขนาดหลายคูหา ค่อนข้างใหญ่ รองรับแขกได้มาก เป็นห้องแอร์
ร้านทิพวรรณเปิดมาหลายสิบปีแล้ว นอกจากอาหารเวียดนาม ยังมีอีสานให้บริการอีกด้วย
เริ่มที่เมนูแรก ‘แหนมเนือง’ ก่อนจะพูดถึงรสชาติ ผมขอย้อนประวัติของแหนมเนืองให้ทราบกัน อาหารชนิดนี้แต่เดิมเป็นอาหารของชาววังในประเทศเวียดนาม เป็นอาหารที่จะเสิร์ฟมาคู่กับผักสด ซึ่งล้วนเป็นผักสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ ต่อมาอาหารชนิดนี้ก็ได้ตกทอดสู่ประชาชนคนทั่วไปได้รับประทานกัน และมีการปรับปรุงจนแพร่หลาย
และเมื่อเข้ามาในไทยก็มีการปรับสูตรให้ถูกปากคนไทย และด้วยลักษณะอาหารที่เน้นผักพืชสมุนไพรที่เข้ากับรสนิยมของคนไทย แหนมเนืองจึงกลายเป็นอาหารเวียดนามยอดนิยมของคนไทย
แหนมเนืองที่ร้านทิพวรรณนี้ เสิร์ฟมาพร้อมกับผักเคียงหลากชนิด หมูยอ และแผ่นแป้ง เวลากินแหนมเนืองก็ใช้แผ่นแป้งห่อผักต่างๆ ตามชอบ บิชิ้นหมูยอ และราดน้ำจิ้มลงไป รสชาติของแหนมเนืองที่ร้านนี้อร่อยไม่แพ้ต้นตำรับใดๆ สมกับที่เป็นอาหารจานเด่น
อีกเมนูหนึ่งที่ผมชอบคือ ขนมปากหม้อญวนหมู ซึ่งเป็นแป้งแผ่นบาง ยัดไส้มาด้วยหมูสับผัดกับผักกุยช่ายปรุงรส กินคู่กับน้ำจิ้มถั่วของร้าน เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยดีมาก
เมนูเด็ดของร้านทิพวรรณยังมีอีกหลากหลาย เช่น ส้มตำต่างๆ หอยแครงลวก ไก่ย่าง กุ้งพันอ้อย แหนมคลุก ก๊วยจั๊บญวน หมูย่างใบชะพลู ปอเปี๊ยะสด หมูยอหนัง ฯลฯ
นอกจากอาหารเวียดนามแล้ว อาหารอีสานที่ร้านนี้ก็อร่อยไม่แพ้อาหารร้านดังเจ้าอื่นเลย
ร้านทิพวรรณ มี 2 สาขา สาขาแรกคือสาขาพหลโยธิน และอีกสาขาคือสาขาลาดพร้าว ตั้งอยู่ริมถนนระหว่างซอยลาดพร้าว 99 กับ 101 สาขาหลังก็หาไม่ยาก ใครอยู่ใกล้หรือสะดวกสาขาไหน ก็ไปสาขานั้น ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม ร้านนี้แม้มีลูกค้าเยอะ แต่ด้วยการจัดการอย่างเป็นระบบ เลยรออาหารไม่นาน
ฉบับนี้เนื้อที่หมดแล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ
คอลัมน์: ไทยชวนไทยชิม
เรื่องและภาพ: สมบูรณ์ สุข