ไข่มุกเมโล – อัญมณีของคนดวงดี

-

ในช่วงปีสองปีมานี้ มีการรายงานข่าวหลายครั้งเกี่ยวกับชาวบ้านผู้ดวงดีซื้อหอยทะเลมาปรุงอาหารรับประทาน แล้วบังเอิญพบก้อนมุกสีส้มในเนื้อหอย พอนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีตรวจ ก็ตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่ เนื่องจากมุกสีส้มดังกล่าว เป็น “มุกเมโล” ที่มีราคาแพงมาก ว่ากันว่าอาจจะมีมูลค่าหลายล้านบาทเลยทีเดียว

อย่างกรณีของชายชาวจังหวัดขอนแก่นคนหนึ่ง ซึ่งทำงานเป็นพนักงานขับรถบรรทุกพ่วงหัวลากในจังหวัดชลบุรี แล้วไปซื้ออาหารทะเลจากสะพานปลาแหลมฉบัง มาต้มกินกันในครอบครัวที่แคมป์คนงาน อาหารทะเลนั้นไม่เพียงมีหอยกระโจงโดงเหลืองที่ซื้อมาในราคาแค่ 50 บาท แต่ยังพบมุกสีส้มขนาดใหญ่เท่ากับเหรียญสองบาทอยู่ในหอยด้วย จึงตัดสินใจนำไปส่งให้ผู้เชี่ยวชาญที่สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (หรือ GIT) ที่กรุงเทพฯ ตรวจสอบว่าเป็นไข่มุกเมโล (Melo pearl) จริงหรือไม่

คำตอบที่ได้ก็คือ มุกสีส้มเม็ดนั้นเป็นมุกเมโลแท้ 100% ที่เกิดจากธรรมชาติในหอย และมีน้ำหนักมากถึง 65.57 กะรัต ทางสถาบัน GIT จึงออกใบรับรองให้สร้างความดีใจแก่เขาเหมือนกับถูกสลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 เพราะทราบมาว่าราคาน่าจะสูงเป็นหลักล้านบาท ถ้าขายได้ราคาดี ก็จะเอาเงินไปใช้หนี้ให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ตอนนี้ต้องนำเอามุกเมโลเม็ดนี้ไปฝากตู้เซฟธนาคารไว้ก่อนเพื่อไม่ให้สูญหาย และหวังว่าจะมีผู้สนใจติดต่อมาซื้อขายกัน

หอยเมโล หรือหอยสังข์ทะนาน (Melo melo) วางขายเป็นอาหารทะเล

มุกเมโลมักพบในพวกหอยสังข์ทะนาน (ชื่อวิทยาศาสตร์ Melo melo) หรือหอยโข่งทะเล ซึ่งเป็นหอยทะเลวงศ์ Volutidae ชั้นหอยฝาเดียว (Gastopoda) เป็นหอยทะเลขนาดใหญ่ที่มักอาศัยอยู่ตามดินเลนของน่านน้ำเขตร้อนที่ความลึกประมาณ 10 เมตร ในประเทศพม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย ในไทยเราพบหอยชนิดนี้มากทางภาคใต้ และชาวบ้านชาวประมงนิยมจับมารับประทานเป็นอาหาร ถ้าบังเอิญโชคดี ก็อาจจะพบไข่มุกเมโลอยู่ในเนื้อหอย​

มุกเมโลเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกับไข่มุกชนิดอื่นๆ คือเมื่อมีเศษทรายเล็กๆ หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวของหอยสังข์ทะนานและเกิดการระคายเคือง หอยจะหลั่งสารประกอบคาร์บอเนตมาห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมนั้นไว้ มีลักษณะผลึกที่เป็นเส้นๆ แล้วค่อยๆ กลายเป็นไข่มุกเมโล แต่มุกเมโลไม่มีชั้นมุก (non-nacreous) เหมือนไข่มุกทั่วไป เพราะการผสมผสานระหว่างแคลไซต์ (calcite) กับ อะราโกไนต์ (aragonite) ทำให้พื้นผิวเรียบเนียนเหมือนกระเบื้องเคลือบ มีลักษณะทรงกลมอย่างสมบูรณ์ และมีความแข็งกว่าไข่มุกทั่วไป คือมีค่าความแข็งเท่ากับ 2.5 – 4 ตามสเกลของโมส์ มุกเมโลจึงเป็นอัญมณีที่มีความทนทานสูง สามารถอยู่ได้นานกว่า 5 ปีหากได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ

มุกเมโลที่ราคาแพง มักจะมีขนาดใหญ่ สีส้ม และริ้วลายคล้ายเปลวไฟเข้มชัดเจน

หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างยิ่งของมุกเมโล คือ มักมีลักษณะลวดลายคล้ายริ้วเปลวไฟ ดูเป็นคลื่นไปทั่วพื้นผิวไข่มุก ขนาด ระดับความอิ่มตัวของสี และความลึกของริ้วลายเปลวไฟนี้ ขึ้นอยู่กับอายุของหอยด้วย ถ้ามีเปลวไฟที่เข้มและชัดเจนมากเท่าไร มุกเมโลก็ยิ่งสูงค่าและมีราคาแพงมากเท่านั้น

มุกเมโลเป็นไข่มุกที่เกิดขึ้นเองในหอยตามธรรมชาติโดยเฉพาะ เรายังไม่สามารถเพาะเลี้ยงหอยให้มีมุกเมโลได้ และไม่ใช่ว่าหอยทุกตัวจะมีมุกเมโลอยู่ข้างใน เพราะมีโอกาสพบเพียงแค่ 1 ในกว่า 3 พันตัวเท่านั้นเอง มุกเมโลที่มีคุณภาพสูงถึงขนาดนำมาทำเป็นอัญมณีเครื่องประดับ มีเฉดสีที่สมบูรณ์สวยงาม ยิ่งมีโอกาสพบได้น้อยลงอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เวลามีข่าวคนโชคดีซื้อหอยแล้วเจอมุกเมโล ต้องระวังว่าอาจจะเป็นมุกเมโลของปลอมหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมามีคนทำมุกเมโลเทียมด้วยการเอาเปลือกหอยเมโลมาตัดและเจียระไนให้มีรูปทรงเหมือนไข่มุก ซึ่งดูจากภายนอกแล้วตอบได้ยากทีเดียว ว่าเป็นมุกของจริงหรือของปลอม ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบออกใบรับรองเสียก่อน

พอคนไทยเริ่มรู้จักมุกเมโลจากสื่อมวลชนกันมากขึ้น เราเลยได้ข่าวแปลกๆ ตามมาอีกเป็นระยะ เช่น มีผู้พบวัตถุคล้ายไข่มุกเมโลในหอยชนิดอื่นๆ ที่ซื้อกันมารับประทาน แม้ว่าขนาดเม็ดจะเล็กมากและสีสันก็ไม่ได้เป็นสีส้มเข้ม ถ้าเป็นเมื่อก่อน พอเจอเม็ดกลมๆ ในหอย เราก็คงโยนทิ้งไปแล้วเพราะคิดว่าเป็นแค่เศษสิ่งแปลกปลอมปนอยู่กับเนื้อหอย แต่ตอนนี้หลายคนหวังให้พิสูจน์ออกมาได้ว่าเป็นมุกเมโลของจริง ราคาสูงอย่างที่เป็นข่าวกัน

อย่างไรก็ตาม คำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของผู้อำนวยการสถาบัน GIT ได้ดับฝันของผู้โชคดีหลายๆ คน ด้วยการระบุว่ามุกที่พบในหอยชนิดอื่นๆ เช่น หอยแมลงภู่ หอยหวาน และหอยเชอรี่นั้น ไม่อาจนับว่าเป็น “มุกเมโล” ได้ มุกเมโลต้องเกิดขึ้นในหอยเมโล คือหอยสังข์ทะนานหรือหอยโข่งทะเลเท่านั้น ถ้าเกิดขึ้นในหอยชนิดอื่นๆ ก็เรียกได้แค่ “มุกแท้” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีเศษวัสดุแปลกปลอม อย่างเศษทรายเข้าไปในตัวหอยโดยบังเอิญ เลยเกิดการระคายเคืองขึ้น จนหอยหลั่งสารประกอบคาร์บอเนตมาห่อหุ้มหนาขึ้นๆ แล้วกลายเป็นก้อนมุก

ไข่มุกจากหอยมุกชนิดอื่นๆ จะเห็นได้ชัดว่ามีความแตกต่างกับมุกเมโล

นอกจากนี้ ยังแนะนำด้วยว่า ผู้ที่ครอบครองอยู่หรือได้รับมุกเป็นมรดกตกทอดมา ควรจะให้ทางสถาบันฯ ช่วยตรวจสอบคุณสมบัติและออกใบรับรองว่าเป็นของแท้เสียก่อน ส่วนการตั้งราคานั้น เนื่องจากมุกเมโลเป็นของหายาก จึงไม่มีการกำหนดมาตรฐานของราคาในการประเมิน แต่กำหนดราคากันเองตามความพอใจที่จะซื้อขาย โดยมากแล้ว มุกเมโลที่ราคาแพง มักมีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตรขึ้นไป มุกเมโลสีส้มมีราคาแพงที่สุด และถ้าริ้วลายคล้ายเปลวไฟบนมุกเมโล มีลักษณะเข้มและชัดเจน ราคาก็ยิ่งแพงมากขึ้นด้วย

เรื่องนี้คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของคนดวงดีที่จะมีโชคมีลาภจากการหาซื้อหอยมารับประทานแล้วบังเอิญมีมุกเมโลอยู่ในนั้น อย่าถึงกับไปไล่จับหอยมาเพื่อตั้งใจผ่าหามุกเลย เดี๋ยวจะสูญพันธุ์กันพอดี


คอลัมน์: คิดอย่างวิทยาศาสตร์

เรื่อง: รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์

All Creative Team

Writer

ร่วมสร้างสังคมอุดมปัญญา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!