ทศวรรษ 1980 และ 1990 เป็นยุคที่ชาวอเมริกันนิยมนำหมูมาเป็นสัตว์เลี้ยง
แจ๊คกี้เป็นหนึ่งในอเมริกันชนที่มีหมูเป็นสัตว์เลี้ยงเช่นกัน เธอได้มันมาเป็นของขวัญวันเกิด 40 ปี และเธอตั้งชื่อหมูของเธอว่าลูลู่
ลูลู่เป็นหมูตัวเมียและกินเก่งมาก อายุเพียงขวบกว่าๆ ก็หนัก 150 ปอนด์ หรือ 68 กิโลกรัมแล้ว
ในปี 1998 แจ๊คกี้มีความจำเป็นต้องไปอยู่ต่างเมืองสักระยะ เธอจึงนำลูลู่ไปฝากให้ “แจ๊ค” และ “โจแอน” พ่อและแม่วัยเกษียณช่วยเลี้ยง
แจ๊คและโจแอนนั้นมีหมาชื่อ “เจ้าหมี” (Bear) ไว้ตัวหนึ่งอยู่แล้ว เมื่อถึงช่วงวันหยุดประจำปีครอบครัวนี้จะไปพักที่บ้านหลังเล็กๆ ที่ทำจากตู้คอนเทนเนอร์ และอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง
เช้าวันหนึ่งช่วงต้นเดือนสิงหาคม แจ๊คออกจากบ้านแต่เช้าตรู่เพื่อไปตกปลา เหลือเพียงโจแอนกับสัตว์เลี้ยงสองตัวที่บ้าน
โจแอนลุกจากเตียงตอนประมาณแปดโมงเพื่อมาเตรียมอาหารเช้า แต่แล้วโจแอนก็รู้สึกแปลกๆ มีอาการมึนหัว แน่นหน้าอก มือสั่น ตัวเย็น ขาของเธอไร้เรี่ยวแรงจนเธอล้มลงในครัว นี่คืออาการของโรคหัวใจวาย เธอพยายามตะโกนเรียกให้คนช่วย และคว้านาฬิกาปลุกโยนทะลุหน้าต่างให้กระจกแตก แต่กลับไม่มีใครได้ยิน
เจ้าหมีเริ่มรู้ตัวว่านายของมันน่าจะไม่สบาย มันจึงเห่า เห่า และเห่า แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น
โจแอนได้แต่นอนหลับตา ทำใจว่าตัวเองน่าจะไม่รอด แต่พอเธอลืมตาขึ้นก็เห็นลูลู่ยืนมองเธออยู่ ครู่หนึ่งมันก็วิ่งออกไป แล้วสักพักมันก็วิ่งกลับเข้ามาใหม่ ทำแบบนี้อยู่หลายรอบ
แล้วโจแอนก็ได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งมาเคาะประตูแล้วบอกว่า “คุณครับ หมูของคุณเลือดไหล!”
นี่คือเสียงสวรรค์ โจแอนรีบตะโกนบอกว่าช่วยเธอด้วย เธอน่าจะเป็นหัวใจวาย ชายคนนั้นจึงเข้ามาในบ้าน เมื่อเห็นอาการโจแอนแล้วก็รีบวิ่งไปที่โทรศัพท์สาธารณะเพื่อเรียกรถพยาบาลมารับเธอไปส่งไอซียู
หลังจากเรื่องราวคลี่คลาย ปริศนาทั้งหลายก็ถูกไขจนกระจ่าง
บ้านของโจแอนมี “ประตูแมว” ที่เป็นช่องเล็กๆ ด้านล่างประตูให้หมาหรือแมววิ่งผ่านได้
เมื่อลูลู่เห็นว่าโจแอนอาการไม่ดี มันจึงวิ่งลอดประตูแมวไป แต่เนื่องจากตัวมันใหญ่กว่าประตู กว่าจะออกไปได้ สีข้างของมันก็ครูดกับประตูจนเป็นแผล
ลูลู่วิ่งไปที่หน้าบ้าน และ “แกล้งตาย” ด้วยการล้มตัวนอนนิ่งๆ ตรงถนน มีรถขับผ่านไปมาหลายคัน บางคันก็จอดดู แต่ไม่มีใครลงจากรถ
ลูลู่เป็นห่วงเจ้านายของมัน จึงวิ่งเข้ามาในบ้านเพื่อคอยเช็คอาการของโจแอนเป็นระยะๆ และการวิ่งเข้า-ออกผ่านประตูแมวแต่ละครั้งก็ทำให้แผลตามลำตัวมันถลอกปอกเปิกกว่าเดิม
หลังจากนอนบนถนนอยู่หลายรอบ สุดท้ายก็มีผู้ชายคนหนึ่งจอดรถและวิ่งลงมาดูเพราะเห็นว่าหมูเลือดไหลนอนหมดแรง แต่พอเขาเข้ามาใกล้ เจ้าลูลู่ก็ลุกขึ้นและเดินนำเขาเข้ามาในบริเวณบ้าน เขาจึงเคาะประตูและได้พูดคุยกับโจแอน จนหาทางช่วยชีวิตเธอได้ในที่สุด
หมอที่ผ่าตัดหัวใจบอกโจแอนว่า ถ้าเธอมาถึงมือหมอช้ากว่านี้เพียง 15 นาที เธอน่าจะเสียชีวิตหรือไม่ก็ต้องใช้ชีวิตบนรถเข็น
ลูลู่จึงเป็นน้องหมูกู้ชีพ เป็น unlikely hero ที่เราสามารถเอาเป็นแบบอย่างได้ครับ
คอลัมน์: มุมละไม
เรื่อง: อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์
เกี่ยวกับผู้เขียน: อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์ ผู้เขียนหนังสือ ช้างกูอยู่ไหน และ Thank God It’s Monday ขอบคุณโลกนี้ที่มีงานประจำ เจ้าของบล็อก Anontawong’s Musings และ Head of People ที่ LINE MAN Wongnai
ประวัติผู้เขียน
รูปของผู้เขียน