ผู้นำมีเสน่ห์ได้อย่างไร
คนมีเสน่ห์เรารู้จักกันแล้ว แต่ผู้นำที่มีเสน่ห์นั้นเป็นอย่างไรเล่า ทำงานได้ผลเพียงใด และประการสำคัญมีลักษณะอย่างไร
ขอเริ่มด้วยเรื่องการแข่งขันชิงกันเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษในอดีตอย่างเข้มข้นจนถึงกับชิงชังกันเป็นส่วนตัว ถึงแม้ว่าในที่สุดทั้งสองคนก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีผลงานไม่แพ้กัน คนหนึ่งคือเบนจามิน ดิสเรลี (Benjamin Disraeli, ค.ศ.1804-1881) ผู้มีความเป็นผู้นำที่มีเสน่ห์ (charismatic leadership, CL) กับวิลเลียม แกลดสโตน (William Gladstone, ค.ศ.1809-1898) ผู้ดูเป็นรองในสายตาคนอังกฤษเพราะขาด CL
คนหนึ่งมี CL และอีกคนไม่มี รู้ได้จากคำพูดแสดงความประทับใจของหญิงสาวอังกฤษคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสนั่งชิดใกล้ท่านผู้นำทั้งสองตอนทานอาหารเย็นในสองวาระ “หลังจากทานข้าวกับแกลดสโตนแล้ว รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในอังกฤษ แต่หลังจากพบดิสเรลีแล้ว รู้สึกว่าดิฉันเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในอังกฤษ”
นี่คือข้อแตกต่างระหว่างการมี CL กับไม่มี CL เธอรู้สึกประทับใจในตัวดิสเรลีมากกว่าเพราะเขาทำให้เธอรู้สึกดี เสน่ห์ส่วนตัวอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้นได้
จอห์น ซี. แมกซ์เวลล์ (John C. Maxwell) ปรมาจารย์ด้านบุคลิกภาพผู้นำ ได้ค้นคว้าเรื่อง CL และบอกว่าความมีเสน่ห์เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้นำต้องมี แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นแม่เหล็กหรือพลังดึงดูดแฝงอยู่ในตัวคน ยากที่จะชี้ชัดได้ บ้างก็เชื่อว่าเป็นพรสวรรค์ที่ฝังอยู่ในบุคลิกภาพจนบางคนมี บางคนไม่มี
แมกซ์เวลล์เชื่อว่าเราสามารถอธิบายและเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูน CL ในตัวเราแต่ละคนได้
ความมีเสน่ห์คือความสามารถที่จะกระตุ้นปลุกเร้าความรู้สึกคึกคักมีชีวิตชีวา ความสนใจ ความรัก ผ่านการใช้เสน่ห์ส่วนตัว หรือผ่านการมีอิทธิพลต่อความรู้สึกผู้อื่น
แมกซ์เวลล์แบ่งองค์ประกอบของ CL ออกเป็น 4 ประการดังนี้
- รักการมีชีวิตเขาจะต้องมีความรู้สึกที่เข้มข้นกับการมีชีวิต มีความสนุกสนาน ไม่พร่ำบ่นไม่พอใจชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นคนที่กระฉับกระเฉง ยิ้มในทุกโอกาสเพราะมันเป็นพลังของ CL
- เห็นศักยภาพของมนุษย์ทุกคนเขาต้องคาดหวังสิ่งดีที่สุดจากทุกคน ไม่เห็นคนอื่นอย่างที่เป็น แต่เห็นอย่างที่เขาสามารถเป็นได้ เขาช่วยเหลือทุกคนสร้างสะพานจากปัจจุบันไปสู่สถานะอันพึงปรารถนาในอนาคต
- ให้ความหวังมนุษย์ทุกคนมีความรู้สึกลึกๆ ภายในที่ต้องการพัฒนาตนเองให้อนาคตดีกว่าปัจจุบัน ดังนั้น CL ต้องสามารถเชื่อมต่อกับผู้ตามโดยทำให้เห็นว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ ต้องทำให้ผู้ตามเห็นว่าอนาคตเต็มไปด้วยโอกาสที่จะเติมความหวังของแต่ละคนได้
- มีการร่วมกับผู้ตาม ผู้นำที่มี CL ต้องเพิ่มคุณค่าให้แก่ผู้ตามด้วยการแบ่งปันทั้งทรัพยากร การร่วมพิจารณาข้อคิดจากปัญญา อีกทั้งเชื้อเชิญผู้ตามให้ร่วมเรียนรู้ ระดมสมอง หรือแม้แต่ดื่มกาแฟร่วมกัน ผู้นำที่มี CL จะทำให้เกิดสปิริตของทีมและเห็นคุณค่าของความเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งหมดนี้จะไม่ทำให้เขาโดดเดี่ยวอยู่ข้างบนคนเดียว
กล่าวโดยสรุป หัวใจของ CL คือการคำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่น สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขก็คือการรับใช้คนอื่น มีความพอใจเมื่อผู้ตามประสบความสำเร็จ และสิ่งที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะเช่นนี้ก็คือทีมสปิริต
หากผู้นำขาด CL ก็จะไม่สามารถกระตุ้นและปลุกพลังจากผู้ตามได้ การมี CL คือการนำสิ่งที่ดีที่สุดในตัวผู้ตามออกมา แล้วมอบสิ่งที่ดีที่สุดของตนเองให้
อดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้ กล่าวว่า “ความเป็นผู้นำและการเรียนรู้คือสองสิ่งที่ขาดจากกันไม่ได้เลย”
คอลัมน์: สารบำรุงสมอง / เรื่อง: รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ