เมื่อมดตัวหนึ่งเดินบนใบบัวที่ลอยบนน้ำ มันรู้สึกว่าพื้นใบบัวนั้นมั่นคงอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะขนาดมดเล็กมาเมื่อเทียบกับใบบัว
แต่ถ้าเราจับแมวตัวหนึ่งวางบนใบบัวเดียวกันนั้น ใบบัวที่มั่นคงสำหรับมดจะอ่อนยวบ แมวก็จมลงน้ำไป
มหาสมุทรในโลกนี้ใหญ่มาก มันกว้างใหญ่กว่าผืนแผ่นดินทั้งหมดในโลกรวมกัน หากเราทิ้งขยะลงไปสักหนึ่งคันรถ น้ำในมหาสมุทรก็ยังคงใสสะอาด เพราะความสกปรกน้อยเกินไปที่จะทำลายทั้งมหาสมุทร
แต่หากเราเทขยะลงไปในมหาสมุทรต่อเนื่องทุกๆ วัน วันละหมื่นตัน สองหมื่นตัน ถึงจุดจุดหนึ่ง มหาสมุทรก็เน่าเสีย เพราะปริมาณขยะมีมากเกินไป
ใจคนเราก็เช่นกัน เมื่อเราเครียดด้วยเรื่องหนึ่งเรื่อง ใจเราอาจรับได้ ครั้นเครียดด้วยสองเรื่อง สามเรื่อง สี่เรื่อง ใจก็เริ่มรับไม่ไหว
ถ้าเครียดต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน วันหนึ่งเมื่อมาถึงจุดที่ใจก็รับน้ำหนักไม่ได้ ก็เกิดอาการจิตตก และอาจลามไปถึงร่างกาย ทำให้ป่วยไข้ได้
ปัญหาคือคนจำนวนมากชอบใส่ขยะเข้าไปในใจ
บางคนรู้ว่าไม่ดี แต่ก็มิวายทิ้งขยะในบ่อใจ
เรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเรา เรื่องเล็กเรื่องน้อย เรื่องที่ไม่สำคัญ ใส่เข้าไปในหัว แล้วปรุงแต่งให้เป็นขยะที่ใหญ่ขึ้นไปอีก
คนบางคนนำทุกเรื่องเข้ามารกสมองทุกวัน บางทีเพราะเชื่อว่ามันคือการ “ก้าวทันโลก” มีกรอบคิดว่า ถ้าคนอื่นรู้ เราก็ต้องรู้ด้วย ถ้าคนอื่นคอมเมนต์ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เราก็ต้องคอมเมนต์บ้าง
นิสัยใส่ข้อมูลทุกอย่างเข้าไปในหัวโดยไม่คัดกรองก็คือ “หาเหาใส่หัว”
“เหา” ในที่นี้คือขยะ
ใส่เข้าไปทุกวัน ใจก็เต็มไปด้วยขยะและมลพิษ
เมื่อทับถมเข้าในในมหาสมุทรแห่งจิตใจ มิเพียงมันทำลายใจ มันยังทำลายร่างกายด้วย
ลองจินตนาการเราเป็นบ้านเปล่าหลังหนึ่ง เราใส่ข้าวของเครื่องเรือนเข้าไปทีละชิ้น จนถึงจุดจุดหนึ่ง บ้านจะสวยพอดี หากใส่มากกว่านี้มันจะรุงรัง อึดอัดไม่สบาย และอาจเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค
“เครื่องเรือน” ต่างๆ เหล่านี้ก็คือความคิดที่เราใส่เข้าไปในใจ บางคนทิ้ง “ขยะ” ในบ้าน รกรุงรังสกปรกจนแมลงสาบและหนูมาเยือน ไม่เคยทำความสะอาดบ้าน
ถ้าเรารักบ้านของเรา เราก็ต้องรักษามันให้สะอาด ทำให้โปร่งโล่ง สบายตา
มีแต่คนที่เกลียดบ้านตัวเองจึงสร้างและใส่ขยะเข้าไปเรื่อยๆ จนบ้านเน่าเหม็น
“บ้าน” ก็คือใจของเรา
คำถามคือเรารักตัวเราเองมากพอที่จะมอบสิ่งดีที่สุดให้เราหรือไม่
และเรารักใจของเรามากพอที่จะทำให้มันสะอาดหรือไม่?
winbookclub.com
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/winlyovarin/
คอลัมน์ ลมหายใจ
เรื่องและภาพ: วินทร์ เลียววาริณ