ร้านเซนเรียวคุ ซอยอารีย์
ข้าวแกงกะหรี่แบบจัดเต็ม
สมัยก่อนผมเป็นคนที่ไม่ชอบกินข้าวแกงกะหรี่แบบญี่ปุ่นเลย รู้สึกไม่ถูกปากไม่ถูกคอ ใจชอบแกงกะหรี่จีนหรือแกงกะหรี่แขกมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกงกะหรี่จีนที่ออกเชงๆ นี่เป็นของโปรดผมเลย อย่างร้านเฮียฮี้ใกล้โรงพยาบาลกลางหรือร้านเจ๊กเฉียใกล้วัดมังกร ใครชอบแนวนี้อยากให้ไปลอง
จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ไม่รู้ยังไง ผมเกิดนึกชอบแกงกะหรี่ญี่ปุ่นขึ้นมาตะหงิดๆ อาจเพราะช่วงแรกๆ ที่กินยังไม่เจอร้านอร่อยก็เป็นได้
ทีนี้พอนึกชอบแล้ว ประกอบกับในกรุงเทพมีร้านข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นดีๆ เพิ่มขึ้น ผมก็ไปตระเวนกินจนเป็นขาประจำหลายร้าน
ร้านที่จะแนะนำในคราวนี้ก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือในด้านนี้ร้านหนึ่ง แถมอยู่ใจกลางเมืองด้วย เดินทางสะดวกมาก
นั่นคือร้าน “Senryoku” ซอยอารีย์
การเดินทาง นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีอารีย์สะดวกสุด เดินเข้าไปจากปากซอยประมาณ 300 เมตร ร้านอยู่ในซอยเล็กๆ เป็นตรอกระหว่างปากซอยอารีย์ 2 กับ 3 ตรงข้ามตึกบ้านยศวดี ลองใช้กูเกิลแมปก็ได้ หาไม่ยาก เดินเข้าไปประมาณห้าสิบเมตรก็จะเจอร้านที่ตั้งอยู่ชั้นสอง
หรือถ้าขับรถไปเองก็จอดที่อาคารบ้านยศวดี แต่มีค่าจอดรถนิดหน่อย 30 บาทต่อชั่วโมง หรือจอดริมถนนในซอยอารีย์ก็ได้ สามารถจอดได้ 2 ช่วงเวลา ตั้งแต่ช่วงเวลา 09:00-16:00 น. และ 20:00-06:00 น. แต่ต้องดูวันคู่และวันคี่ดีๆ
เซนเรียวคุแต่งร้านอย่างสวยงามได้อารมณ์แบบร้านญี่ปุ่น มีที่นั่งพอสมควร เมนูเด่นขึ้นชื่อก็ต้องเป็นแกงกะหรี่อยู่แล้ว ทีเด็ดของน้ำแกงกะหรี่ที่นี่คือเคี่ยวจนข้นคลั่ก รสชาติเข้มข้นกำลังดี หอมกลิ่นเครื่องเทศ น้ำแกงมีทั้งแบบหมูและเนื้อ ใครที่ไม่กินเนื้อ สั่งน้ำแกงกะหรี่แบบหมูได้
ร้านนี้มีท็อปปิ้งเยอะ เลือกเอาได้เลยตามความชอบ ทั้งหมูตุ๋น ทงคัตสึ กุ้งทอด แฮมเบิร์ก วากิวยากินิกุ สเต็กวากิวออสเตรเลีย
แถมยังสั่งเพิ่มปริมาณข้าวได้ด้วย ตามแต่ความกินจุของเรา ข้าวนี่ทางร้านบอกว่าเป็นข้าวที่ได้รับรางวัล No.1 Rice in Japan นำเข้าจากจังหวัดนีงาตะ ประเทศญี่ปุ่น ต้องบอกว่ากินกับน้ำแกงกะหรี่ข้นๆ แล้วเข้ากันดีมาก
นอกจากแกงกะหรี่ก็ยังมีเมนูอื่นๆ อีกไม่น้อย ที่ผมแนะนำและนิยมกันคือเมนูกิวคัทซึ หรือเนื้อชุบแป้งทอด ซึ่งหากินได้ไม่ง่าย ร้านนี้ก็ทำได้ดีเลย
ร้านเซนเรียวคุเปิดทุกวันตั้งแต่ 11:00 – 20:30 ใครไม่สะดวกจะไปที่ร้าน ก็สามารถสั่งได้ทางแอปฟู้ดดิลิเวอรีทั้งหลาย ใครชอบร้านแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ร้านนี้ผมคอนเฟิร์มเลยว่าอร่อยจริงครับ
ฉบับนี้เนื้อที่หมด พบกันใหม่ฉบับหน้าครับ
คอลัมน์: ไทยชวนไทยชิม เรื่อง: สมบูรณ์ สุข
All magazine ตุลาคม 2565
