เราเรียกภูเก็ตว่า เกาะ เพราะมันเป็นแผ่นดินที่อยู่โดดเดี่ยวกลางทะเล เช่นกัน ทวีปออสเตรเลียอันใหญ่โตไพศาลก็เข้าข่าย เกาะ เพราะมันเป็นแผ่นดินที่อยู่โดดเดี่ยวกลางห้วงสมุทร
มองแบบนี้ โลกของเราทั้งใบก็เป็น เกาะ เช่นกัน เพราะมันลอยโดดเดี่ยวกลางทะเลเอกภพ
โลกเราและดาวเคราะห์อื่นๆ ก็เหมือนเม็ดทรายที่ลอยล่องในอวกาศ แต่ละเม็ดเป็นอิสระจากกัน บางเม็ดเช่นโลกของเราห่อหุ้มด้วยอากาศที่เราใช้หายใจ
หากเทียบสเกลชั้นบรรยากาศกับโลก ชั้นบรรยากาศทั้งหมดก็มีความหนาประมาณแลกเกอร์ที่เคลือบผิวลูกสนุกเกอร์
บางมากๆ
เส้นผ่าศูนย์กลางโลกคือ 12,742 กิโลเมตร เหมืองแร่ทองคำลึกที่สุดที่เราขุดลงไปก็ราวสี่กิโลเมตร แปลว่าเราชาวมนุษย์อยู่กันบนผิวบางๆ ของโลกเท่านั้น
ชั้นบรรยากาศก็คือ โดม ของโลกที่เราอยู่อาศัย ให้ออกซิเจนเราหายใจ แต่มนุษย์เราก็ทำลายโดมนี้โดยปลดปล่อยของเสียขึ้นฟ้าจนอากาศภายในโดมเสียหาย
เกาะ แห่งโลกกำลังถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
ธรรมชาติแห่งเกาะโลกทำงานเป็นวงจรเกี่ยวร้อยกันและกัน เมื่อบรรยากาศเสียหาย ระบบนิเวศก็เสียหาย ระบบน้ำ ลมก็รวนไปด้วย ลงท้ายทุกชีวิตบนโลกก็ได้รับผลกระทบ
ถ้าเกาะนี้เสียหายจนอยู่ไม่ได้ เราก็ไม่มีที่อยู่อื่น
เราจะย้ายไปอยู่ ณ เกาะที่ใกล้เราที่สุดคือดวงจันทร์ก็ลำบาก เพราะดวงจันทร์ไม่มีชั้นบรรยากาศ ไม่มีออกซิเจน
เกาะถัดไปคือดาวอังคารซึ่งเชื่อว่าในอดีตกาลนานมาแล้ว เคยมีชั้นบรรยากาศ แต่ระเหยหายไปหมดแล้ว
แถวนี้มีแต่เกาะแห้งแล้ง
ภาพเกาะแห่งโลกที่กำลังเสื่อมสลายทำให้เราต้องคิดถึงเกาะแห่งชีวิตของตัวเราเอง
…………………
ชีวิตเราทุกคนก็เหมือนเกาะ เราแต่ละคนเป็นเกาะเกาะหนึ่ง หนึ่งชีวิตคือหนึ่งเกาะ
เราเกิดมาเป็นเกาะเดี่ยว (ยกเว้นบางคนตัวติดกัน เช่น แฝดสยาม) ไม่ว่าจะเป็นเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเล หรืออยู่ในหมู่เกาะ เราทุกเกาะก็คือเกาะเอกเทศ มีชีวิตของตนเอง ต้องพึ่งตนเอง
คนบางคนเกิดมาเป็นเกาะขนาดใหญ่ บางคนเป็นเกาะเล็กๆ บางคนอยู่โดดเดี่ยวกลางมหาสมุทร บางคนอยู่กับหมู่เกาะอื่นๆ
บางคนเป็นเกาะที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีน้ำตก มีต้นไม้ร่มรื่น บางคนเป็นเกาะแห้งแล้งไร้ต้นไม้
เราอาจเลือกเกาะที่เกิดไม่ได้ แต่เราสามารถปรับปรุงเกาะชีวิตของเราให้น่าอยู่ได้
เกาะแห่งชีวิตของเราทุกคนมีสองส่วน ส่วนกายภาพกับจิตใจ
ถ้าเราไม่รักษาเกาะชีวิตของเราทางกายภาพให้อยู่ในสภาพดี ปล่อยให้ร่างกายเราเสื่อมโทรม กินไม่ยั้ง หรือกินแต่อาหารขยะ ไม่ออกกำลังกาย นอนไม่พอ กายภาพของเกาะของชีวิตเราก็เสื่อม
ค่อยๆ เน่าตายไป
ในด้านจิตใจ ถ้าเราหมกมุ่นกับอบายมุข จมอยู่ในความมืดบอดทางปัญญา เกาะแห่งชีวิตของเราก็จะพังทลายเช่นกัน
เราเป็นเจ้าของเกาะของเรา ไม่มีใครช่วยรักษามันได้ นอกจากตัวเราเอง เราต้องลงมือเก็บกวาด ดูแลสภาพเกาะด้วยตัวเอง ต้องออกแรงเอง อาจจะเหนื่อย แต่เราสามารถรับคำแนะนำจากเจ้าของเกาะอื่นๆ ที่รักษาเกาะได้ดีเสมอ เราสามารถศึกษาตัวอย่างเกาะอื่นๆ ที่อยู่ในสภาพดี แล้วเดินตามรอยนั้น
เรามีทางเลือกเพียงสองทาง หนึ่งคือดูแลเกาะให้ดี อยู่แล้วมีความสุข
หรือปล่อยให้เกาะค่อยๆ ตายไป
และเราต้องเลือกในวันนี้
คอลัมน์: ลมหายใจ
วินทร์ เลียววาริณ
winbookclub.com
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/