ทำอย่างไรให้มีโชค
งวดที่แล้วหากซื้อลอตเตอรี่แบบไม่เลือกเลขมาใบหนึ่งและถูกรางวัล คนส่วนใหญ่ก็มักคิดว่าเป็นเพราะโชคดี แต่ที่จริงแล้วเป็นผลจากการออกเลขรางวัลตรงกับเลขที่มี นั่นเป็นเรื่องของการเกิดขึ้นทางสถิติแบบสุ่มเลือกซึ่งต้องมีคนถูกอยู่แล้ว มิใช่ความโชคดีแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะคิดเห็นอย่างไร ความรู้สึกโชคดีก็อยู่ในใจเสมอเพราะเป็นสิ่งที่ฝังใจมนุษย์มาเนิ่นนานในทุกวัฒนธรรม เราควรทำอย่างไรจึงจะหาประโยชน์จากความเชื่อเรื่องโชคดีเช่นนี้
โชคมี 3 ความหมาย กล่าวคือ หนึ่ง โชคมีความหมายเดียวกันกับโอกาสที่เกิดขึ้น เช่น ซื้อลอตเตอรี่ข้างต้นถึงแม้จะเป็นความบังเอิญก็ตามที สอง โชคเป็นเรื่องของพลังศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติซึ่งมนุษย์แต่ละคนสามารถเข้าถึงได้ด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ พกพาเครื่องรางของขลัง รับมนต์จากผู้วิเศษ ฯลฯ สาม โชคเป็นเรื่องที่ติดตัว บางคนเกิดมาโชคดีเสมอ บางคนโชคร้ายตลอด
สำหรับคำถามว่าโชคมีอยู่จริงหรือไม่นั้น นักวิทยาศาสตร์ไม่เชื่อเรื่องพลังวิเศษ หรือเกิดมาก็มีโชคดีหรือโชคร้ายติดตัว แต่เห็นว่าการมีโชคเป็นเรื่องของการมองตนเองมากกว่า ลักษณะการมองจะส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อพฤติกรรมของแต่ละคน กล่าวคือคิดหรือมองอย่างไรก็จะก่อให้เกิดผลอย่างนั้น เช่น หากเชื่อว่าเป็นคนโชคดี ก็จะมีพฤติกรรมเชื่อมั่นในการกระทำของตนเอง จนประสบความสำเร็จเหมือนคนโชคดี หากพิจารณาในแง่มุมนี้โชคก็มีอยู่จริง
มนุษย์เชื่อเรื่องโชคมาแต่ดึกดำบรรพ์เพราะมนุษย์มีชีวิตอันเปราะบาง ร่างกายไม่มีส่วนใดที่เป็นอาวุธป้องกันตัวได้ และยังรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของตนเองได้ ดังนั้นความเชื่อเรื่องพลังวิเศษเหนือธรรมชาติจึงอุบัติ และนำมาใช้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญ พิธีกรรมต่างๆ ทางไสยศาสตร์เป็นเครื่องมือในการเพิ่มโชคดีและขจัดโชคร้าย เช่น ความเจ็บป่วย ภัยพิบัติ ความพ่ายแพ้ ฯลฯ
เราเห็นนักกีฬามีชื่อระดับโลก เช่น ไมเคิล จอร์แดน ยอดนักบาสเกตบอล ใส่ชั้นในที่เคยใช้ตอนเรียนในมหาวิทยาลัยและประสบความสำเร็จอย่างยิ่งโดยสวมทับชุดประจำทีมอาชีพ นักกอล์ฟบางคนมีลูกกอล์ฟหรือสิ่งของนำโชคติดตัวตอนแข่งขัน เพราะทำให้เขาเกิดความมั่นใจและเล่นกีฬาได้เยี่ยมยอด ถึง “โชค” จะไม่มีจริง แต่พฤติกรรมที่เป็นผลจากความเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เขา “โชคดี” ก็บันดาลให้เขาเล่นได้ดี
คำถามสำคัญก็คือทำอย่างไรให้มีโชคหรือโชคดียิ่งขึ้น นักจิตวิทยาได้ศึกษาคนที่คิดว่าตนเองโชคดีและโชคร้ายก็พบว่า คนโชคดีหาประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นได้อย่างมากมาย และกล้าทำตามสัญชาตญาณของตนเองในการคว้าโอกาสนั้น คนที่รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขย่อมเห็นโลกที่กว้างขวาง อีกทั้งเห็นโอกาสมากขึ้น และถ้าเป็นคนที่สามารถปรับตัวเองได้ดีด้วยแล้ว เมื่อโอกาสมาถึงก็จะได้รับประโยชน์
คนโชคดีรู้ว่าตนเองกำลังไปทางไหน และบ่อยครั้งปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพราะตระหนักว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้น คนที่คิดว่าตนเองโชคดีย่อมคาดหวังว่าตนจะได้รับโชคเสมอ เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดี และปรับตัวรับมือโชคร้ายที่เกิดขึ้นได้ดี เช่น คิดว่ามันอาจเลวร้ายกว่านี้ แต่ “โชคดีที่มันเกิดขึ้นแค่นี้”
กิจกรรมหนึ่งซึ่งช่วยให้เป็นคนโชคดีก็คือการมีสมุดจดบันทึกโชคดีประจำวันไว้ ทุกคืนก่อนนอนใช้เวลาสั้นๆ จดลงไปว่ามีอะไรที่เป็นบวกเกิดขึ้นในวันนั้นบ้าง มีสิ่งใดหรือใครที่มีบุญคุณ หรือมีโชคร้ายใดที่เกิดขึ้นเล็กน้อยกว่าที่อาจเกิดได้บ้าง นอกจากนี้ก็กระตุ้นให้ตนเองตื่นตัวด้วยการทำอะไรที่แตกต่างจากกิจวัตรประจำในชีวิตประจำวัน เช่น เดินเส้นทางอื่น ดูภาพยนตร์ โทรทัศน์ หรือยูทูบรายการอื่นที่แตกต่างจากเดิม คุยกับผู้คนใหม่ๆ ฯลฯ มองหาโอกาสและพร้อมที่จะหาประโยชน์จากโอกาสใหม่นั้นเสมอ แค่นี้ก็จะทำให้เป็นคนที่โชคดีกว่าเดิมแล้ว
(ข้อมูลจาก Reader’s Digest . August, 2022)
คอลัมน์: สารบำรุงสมอง / เรื่อง: รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ
all magazine ตุลาคม 2565