หินคือมวลของแข็งที่ประกอบด้วยแร่ชนิดเดียวหรือหลายชนิดรวมตัวกันอยู่ตามธรรมชาติ มีความแข็งแรงทนทาน จึงนิยมนำมาใช้เป็นวัสดุในการสร้างสิ่งต่างๆ ตั้งแต่สมัยโบราณเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมคอนกรีตในงานก่อสร้าง ทำเครื่องมือล่าสัตว์ เครื่องครัว หรือแม้กระทั่งนำมาทำเป็นเครื่องประดับก็สวยงามไม่แพ้อัญมณีอื่นๆ
นักสืบเสาะ ฉบับนี้จึงขอพาผู้อ่านไปรู้จักร้านจำหน่ายหิน “House of Gems” ทว่าร้านแห่งนี้มิได้จำหน่ายหินหรืออัญมณีธรรมดาที่พบมากในย่านบางรัก แต่กลับจำหน่ายซากฟอสซิล รวมทั้งสะเก็ดดาวรูปทรงต่างๆ ด้วย โดยดำเนินกิจการมานานกว่าห้าทศวรรษ
House of Gems ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปากซอยเจริญกรุง 36 ทำเลแถวนั้นรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ เช่น อาคารไปรษณีย์กลาง สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส สถานเอกอัครราชทูตโปรตุเกส โรงแรมโอเรียนเต็ล อาสนวิหารอัสสัมชัญ และบรรดาธุรกิจค้าขายสินค้าที่เก่าแก่ วิธีการเดินทางไปร้านแห่งนี้ ถ้าเดินทางโดยรถเมล์สามารถนั่งสาย 1, 35, 75, และสาย 514 ลงป้ายโรงแรมโอเรียนเต็ล ร้านอยู่ใกล้กับแยกสุรวงศ์ ห่างจากซอยเจริญกรุง 36 ประมาณ 100 เมตร หรือถ้าไปด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานตากสิน แล้วเดินผ่านตลาดบางรักมุ่งหน้าไปทางไปรษณีย์กลาง ระยะทางถึงร้านประมาณ 850 เมตร
เราได้พูดคุยกับคุณ อร่ามศรี ปุญญถิโร เจ้าของร้านผู้มีใจรักในการสะสมหิน House of Gems ก่อตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. 2509 เดิมจำหน่ายอัญมณีที่ได้จากธุรกิจการเจียระไนพลอยของครอบครัว ทว่าหลังจากคุณอร่ามศรีไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ และได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ ซึ่งมีซากดึกดำบรรพ์ (fossil) และหินต่างๆ มากมาย จึงเกิดความสนใจขึ้น เมื่อกลับมาประเทศไทยคุณอร่ามศรีและคุณบุญมั่น ผู้เป็นสามี เห็นว่าร้านอัญมณีนั้นพบได้ทั่วไป จึงอยากสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ร้าน โดยการเริ่มนำเอาตัวอย่างแร่ พลอยก้อน และสะเก็ดดาวหรืออุลกมณี (tektite) ไม้กลายเป็นหิน (petrified wood) มาจัดแสดงและจำหน่ายด้วย อีกทั้งคุณพ่อของคุณอร่ามศรีก็สนใจเรื่องพลอยและหินแร่แปลกๆ เป็นทุนเดิม และมีคนนำหินก้อนหนึ่งมาให้ ทราบในภายหลังว่าคือซากมูลของไดโนเสาร์ มีการลงข่าวในหนังสือพิมพ์ จนร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่ชาวไทยและชาวต่างชาติ จากนั้นร้านจึงนำสินค้าประเภทซากดึกดำบรรพ์ อุกกาบาต (meteorite) แร่เรืองแสง (fluorescence) และหินประเภทอื่นๆ มาจัดแสดงเพิ่ม คุณอร่ามศรีกล่าวว่า “คุณพ่อมอบร้านแห่งนี้เป็นมรดกตกทอด เราอยากที่จะรักษากิจการนี้ไว้ แต่ปรับเปลี่ยนไปทำสิ่งที่อยากทำ ที่แปลกใหม่ เราชอบหินพวกนี้จึงสะสมเพราะเห็นว่าสวยดี ถึงขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่ได้นั่งชมก็สนุกดี”
จุดเด่นของร้าน House of Gems คือ หินแปลกตาที่ได้มาโดยการสะสมด้วยใจรักจากนานาประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานด้านธรณีวิทยาหลายแห่งที่ขุดค้นพบหิน ร้านแห่งนี้จึงมีหินหลากหลาย และมากมายก่ายกอง สินค้าในร้านบางส่วนมาจากการซื้อขายกับนักสะสมในประเทศอังกฤษ และบางส่วนนั้นได้มาจากการลงมือขุดค้นด้วยตนเองของคุณอร่ามศรีและคุณบุญมั่น โดยได้รับการช่วยเหลือด้านข้อมูลแหล่งค้นพบหินจากกรมทรัพยากรธรณี หินส่วนใหญ่พบมากแถวจังหวัดลพบุรี สระบุรี และภาคอีสาน
หินที่เป็นไฮไลท์สร้างชื่อเสียงแก่ร้านคือ “มูลของไดโนเสาร์” ซึ่งได้รับการพิสูจน์โดยนักวิจัยจากพิพิธภัณฑ์ในประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนั้นยังมี “สะเก็ดดาว” ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนัก 24.1 กิโลกรัม จำนวนสองก้อน และขนาดเล็กที่สุดในโลก น้ำหนัก 0.0005 กรัม องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (NASA) เคยเดินทางมาศึกษาที่นี่ ทว่าหินดังกล่าวไม่ได้จำหน่าย เพียงโชว์ไว้ให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษา
ส่วนสินค้าที่จำหน่ายในร้าน ได้แก่ สะเก็ดดาวรูปทรงต่างๆ ที่หาไม่ยาก หินแร่ชนิดต่างๆ ซึ่งบางคนเชื่อว่ามีพลังในการรักษาและดึงดูดโชคลาภ แต่ความนิยมก็จะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ซื้อไปเพื่อศึกษา หรือสะสมไว้ในพิพิธภัณฑ์
หากผู้อ่านได้มีโอกาสไปเยือนย่านบางรัก อย่าลืมแวะอุดหนุนหินร้าน “House of Gems” นอกจากได้หินที่ทั้งแปลกและสวยงามแล้ว ยังจะได้รับสาระความรู้เรื่องหินแร่จากจากคุณอร่ามศรีอีกด้วย นักสืบเสาะ ขอการันตีว่าดีแน่นอน
ร้าน House of Gems
เปิดให้บริการ: วันจันทร์ – เสาร์ เวลา 09:00 – 18:00 น. ปิดวันอาทิตย์
เบอร์โทรศัพท์: 02-233-3096
ที่อยู่: 1218 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
คอลัมน์: นักสืบเสาะ เรื่อง: คัมภีร์ ไกรวิจิตร