“ผมไม่รู้หรอกว่าชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปมหาศาลได้ขนาดนี้ ผ่านการลองผิดลองถูกและล้มเลิกมาถึงสามรอบ แต่เพราะลูกค้าคนเดียวเมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้ว ทำให้มีหงส์ไทยจนถึงทุกวันนี้” คุณธีระพงศ์ ระบือธรรม เจ้าของแบรนด์หงส์ไทย เล่าถึงจุดกำเนิดแท้จริง จากเด็กชายวัยสิบสามที่ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ แต่สู้ชีวิตจนเมื่ออายุสามสิบ เขาจึงประสบความสำเร็จเกินคาด เพราะไม่เคยทอดทิ้งความฝัน เชื่อในความตั้งใจของตัวเองที่ไม่มีวันทรยศผู้บริโภค หงส์ไทยเลยระบือไกลถึงต่างแดน
สินค้าดีไม่มีวันตาย
คุณธีระพงศ์เริ่มต้นธุรกิจอย่างคนไม่มีประสบการณ์ และไม่เข้าใจกลุ่มลูกค้า จึงต้องเลิกการขายไปหางานอื่นทำ หากแต่ด้วยใจรักประจวบกับประสบอุบัติเหตุ เลยพักงานแล้วว่างๆ ก็กลับมาลองธุรกิจอีกครั้ง เหมือนทุกสิ่งไปได้ดี ทว่าอุปสรรครอบสองนี้เกิดจากการแข่งขันตัดราคาในกลุ่มสินค้าเดียวกัน เลยต้องหยุดขายอีกรอบ
“ร้านที่รับสินค้าเราก็ถามว่าลดราคาเท่าเขาได้ไหม เราทำไม่ได้ เพราะถ้าลด คุณภาพก็ต้องลดตามต้นทุน ลูกค้าก็จะได้ของไม่มีคุณภาพแทน เริ่มใหม่ครั้งที่สาม ก็ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ตระเวนหาลูกค้าเก่าเพื่อสอบถาม เลยได้รับข้อมูลสำคัญจากร้านขายของในปั๊มน้ำมัน ว่ามีลูกค้าคนหนึ่งมาถามหาตลอด ทั้งที่ไม่ได้วางขายแล้วสองปี แต่เขายังเฝ้าถามทุกเดือน เผื่อว่าผมจะแวะมาส่งสินค้า เกิดความคิดแวบขึ้นมา ถ้าเราผลิตสินค้าดี มันจะไม่มีวันตายใช่ไหม เราหาคำตอบมาทั้งชีวิต ความรู้สึกตอนนั้นมันตอบว่าใช่แล้ว เราเป็นผู้ประกอบการรายเล็กในกลุ่มสินค้าเหล่านี้ แต่ที่ผู้บริโภคมาตระเวนหา เพราะคุณภาพครับ”
ลงสู่ตลาดใหญ่
ในครั้งนี้คุณธีระพงศ์ตัดสินใจเดินเร่ขายเองให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตามตลาด เพื่อเก็บข้อมูลมาพัฒนาต่อเนื่อง ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง จากไม่มีคนรู้จักก็เริ่มเป็นที่ยอมรับ และหงส์ไทยก็ค่อยๆ แพร่หลายไปยังโรงงานต่างๆ
“ตอนขายในตลาด เงินหนึ่งพันบาทแรกจำได้ว่าใช้เวลาเป็นเดือน ดีใจมากเลย เหรียญเต็มกระเป๋า (หัวเราะ) เริ่มเชื่อมั่นว่ามีโอกาสละ ลูกค้าก็ซื้อใช้และเริ่มซื้อฝากให้คนในครอบครัว บางคนทำงานในโรงงาน เลยแพร่เข้าไปในหมู่คนโรงงานด้วย จากเดินขายธรรมดา ก็เริ่มทำส่ง จากได้เงินวันละไม่ถึงพัน กลายเป็นวันละสองหมื่นหก ตัวผมที่ทุกคนเห็นในทุกวันนี้ เคยลำบากต้องเดินขายของมาก่อน เชื่อมั่นว่าเราทำได้นะ และก็ทำได้จริงๆ ผมตั้งเป้าว่าเราจะยืนอยู่จุดไหนในอนาคต จึงไม่สามารถหยุดอยู่กับที่ได้ ต้องพัฒนาต่อไป การทำธุรกิจถ้าไม่วางแผน ก็สักแต่ว่าทำไปวันๆ ไม่มีจุดหมาย
“ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมันคนนั้นทำให้มีหงส์ไทยในวันนี้ และเป็นลูกค้าที่สร้างความผูกพันและเชื่อมั่นต่อหงส์ไทย รู้ว่าสินค้าเรามีคุณภาพ หงส์ไทยยิ่งทำยิ่งเชื่อมั่น”
อนาคตของหงส์ไทย
คุณธีระพงศ์อยากให้เหล่าคนทำธุรกิจหันมารักผู้บริโภคมากกว่าตัวเอง และไม่เอาเปรียบกันเพื่อให้เติบโตด้วยกันได้
“สิ่งที่หงส์ไทยอยากทำคือความยั่งยืน ไม่ใช่คิดถึงแต่กำไรส่วนตัว ผู้บริโภคเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เราได้อยู่ต่อ เขาเป็นคนให้เงินเรามาพัฒนา หงส์ไทยอยากทำสินค้าที่คุ้มค่าให้แก่ผู้บริโภค ใช้แล้วรู้สึกดีและประทับใจ ใช้แล้วรู้สึกเหมือนต้องมนตร์จนไม่อาจเปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าอื่นได้ ผมอยากทำสินค้าสะท้อนความเป็นไทยที่ดีมีคุณภาพครับ เป้าหมายสูงสุดคือ อยากให้ผู้มาเยือนประเทศไทย ต้องซื้อหงส์ไทยเป็นของฝาก”
จากก้นบึ้งของหัวใจ
“ขอบคุณคุณพ่อ ขอบคุณคุณแม่ พ่อผมขับแท็กซี่ทำงานทุกวัน วันที่เห็นเขาพักคือวันที่เขาป่วย พ่อหาเงินเข้าบ้านคนเดียว สิ่งที่ได้จากพ่อแม่ไม่ใช่ตัวเงิน แต่คือสิ่งที่พวกเขาเป็น พ่อแม่สอนผมด้วยการทำให้เห็น ไม่โกง ไม่เอาเปรียบ ไม่หาเรื่อง ดำรงชีวิตเรียบง่าย ปกติสุขมากๆ ไม่ทะเลาะกับใคร ความสุขที่เรามีในแบบที่เราเป็น หล่อหลอมให้เราเติบโตมามีความคิดเช่นนี้ รวมทั้งการบริหารเรื่องความสุขด้วย หงส์ไทยกำลังทำบริษัทให้เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน จะสร้างความสุขให้ทุกคน และรักทุกคน ให้อยู่แล้วมีความสุขเหมือนบ้าน ขอบคุณอุปสรรคหลาย อย่างที่ทำให้เรามีประสบการณ์ที่ดี ถ้าเรามีชีวิตที่เพียบพร้อม ย่อมไม่ได้เจอสิ่งเหล่านี้ ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร แต่ขึ้นอยู่กับเราเข้าใจและปรับปรุงแก้ไขครับ”
คุณธีระพงศ์ทิ้งท้ายว่าสิ่งที่หงส์ไทยเป็นอยู่และยืนหยัดมาตลอดคือความรัก 1. รักครอบครัว 2. รักอาชีพ 3. รักผู้บริโภค 4. รักคู่ค้า และที่ขาดไม่ได้คือรักทีมงาน เพราะถ้าปราศจากปัจจัยเหล่านี้ คงไม่มีหงส์ไทยอย่างแน่นอน
คอลัมน์: ยุทธจักร ฅ.ฅน เรื่อง: มาศวดี ถนอมพงษ์พันธ์ ภาพ: อนุชา ศรีกรการ