ช่วงใกล้ปีใหม่ ใครต่อใครคงวางแผนชีวิตด้วยการตั้งเป้าหมายทางการเงินที่แข็งแรงซึ่งจะนำไปสู่ความร่ำรวย หลายคนทำได้ หลายคนทำไม่ได้ เพราะเส้นทางนี้ไม่ได้ใช้แค่ความรู้ด้านการเงิน หากแต่การนำความรู้ด้านพฤติกรรมมาประยุกต์ใช้ก็ช่วยให้เราสามารถมีวินัยทางการเงินได้มากขึ้น ถ้าคุณกำลังวางแผนชีวิตด้านการเงินสำหรับปีใหม่ ลองนำวิธีการเหล่านี้ไปใช้ดูสิ
เส้นทางสู่สุขภาพทางการเงินที่ดี
1. มีเป้าหมายที่ Smart
เป้าหมายที่ Smart ไม่ได้หมายถึงเป้าหมายที่ฉลาด แต่หมายถึงเป้าหมายที่ specific (จำเพาะเจาะจง) measurable (ตรวจวัดได้) attainable (ทำให้เป็นจริงได้) relevant (มีความหมายสำหรับชีวิต) และ time bound (ระบุเวลาชัดเจน)
สังเกตว่าเป้าหมายในการลงทุนควรมุ่งเน้นไปที่เหตุ ไม่ใช่ผล คือมุ่งแต่สิ่งที่ควบคุมได้ เช่น ทำบัญชีรายรับรายจ่าย จ่ายเฉพาะสิ่งที่สมเหตุสมผล โดยระวังการตั้งเป้าหมายอย่างไม่สมเหตุสมผลในเชิงตัวเงิน เช่น จะเก็บเงินได้เท่านั้นเท่านี้ในเวลาอันสั้น หากเราทำไม่ได้ก็จะเสียความตั้งใจไปโดยใช่เหตุ
2. มี internal motivation
2.1 ทำความเข้าใจว่าเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญแก่ชีวิตอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
ตรงนี้เราควรทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่าเราจะมีสุขภาพทางการเงินที่ดีไปทำไม และถ้าเราทำไม่ได้จะส่งผลเสียอะไรบ้าง โดยพยายามเชื่อมโยงกับสิ่งที่เราต้องการจริง เข้าใจจริง เช่น ออมเพื่อให้รวยอาจไม่ใช่เป้าหมาย แต่อาจเป็นออมเพื่อให้มีเงินพอที่จะลาออกไปทำตามความฝัน แบบนี้อาจกระตุ้นความตั้งใจของเราได้มากกว่า
2.2 เพิ่มความมั่นใจว่า เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้
เราต้องลองวิเคราะห์ดูว่าเรามีความมั่นใจในเป้าหมายที่คิดจะทำแค่ไหน อาจกำหนดให้เป็นสเกล 1–10 แล้วค่อยปรับดูว่าทำไมเราถึงให้มากหรือน้อย ลองวิเคราะห์ดูด้วยว่าเราต้องปรับอย่างไรถึงจะทำให้สเกลตรงนี้สูงขึ้น เช่น ถ้าไม่มั่นใจเพราะเป้าหมายยากไป ก็อาจปรับเป้าให้เหมาะสมมากขึ้น แล้วค่อยปรับความยากไปตามลำดับ
3. มีทักษะที่จะทำให้เราอึด
หัวข้อนี้พูดถึงการใช้แรงใจหรือ willpower ให้เหมาะสมกับเป้าหมาย คือเราต้องพยายามบริหารจัดการแรงใจของเราให้เหมาะสมเพื่อจะบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ โดยสรุปวิธีการตามทฤษฎีมาให้ดังนี้ เราอาจลองปรับใช้ตามความเหมาะสมกับตัวเอง
(3.1) ฝึกสมาธิ เช่น นั่งสมาธิ สวดมนต์ ทำงานศิลปะ ฯลฯ ให้จิตใจจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน (3.2) ฝึกความอดทน เพราะหากอดทนกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ก็จะทำให้ความอดทนโดยรวมดียิ่งขึ้น เช่น ตื่นนอนเข้านอนเป็นเวลา (3.3) ออกกำลังกาย (3.4) ทำสิ่งที่ยากและท้าทายในเวลาที่ร่างกายสดชื่น (3.5) อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายเรื่องพร้อมๆ กัน (3.6) ทำเรื่องที่ “ต้องทำแต่ยาก” ให้ง่าย และทำเรื่องที่ “ไม่ควรทำแต่ง่าย” ให้ยาก เช่น วางหนังสือการเงินไว้หัวเตียง แต่เอาโทรศัพท์มือถือไปวางไว้นอกห้อง (3.7) ฝึกหายใจเข้าออกช้าๆ ตอนกำลังจะเลิกล้มความตั้งใจ (หายใจเข้า 5 วินาที หายใจออก 7 วินาที) (3.8)ฝึกทำสิ่งที่ไม่ถนัดบ้าง เพราะการทำสิ่งที่ไม่ถนัดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันจะทำให้ willpower โดยรวมสูงขึ้น เช่น ฝึกนั่งหลังตรงตอนพิมพ์คอมฯ ฝึกเขียนหนังสือด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด (3.9) หนีจากสิ่งเร้า เช่น รู้ว่าใจอ่อนต่อโซเชียลมีเดียง่ายก็เอาโทรศัพท์ไปไว้ไกลๆ
4. มีแผนการที่จะบรรลุเป้าหมาย
มีการวางแผนชัดเจนว่าจะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร เช่น เป้าหมายคืออ่านหนังสือสัปดาห์ละ 1 เล่ม ก็จัดตารางเลยว่าอ่านตอนกี่โมง อ่านวันละกี่หน้า และต้องมีการปรับแผนให้เหมาะสมอยู่ตลอด เช่น ถ้าวางแผนจะอ่านวันนี้แต่ไม่ได้อ่าน จะอ่านชดเชยอย่างไรให้ทัน คือต้องมีแผนการบรรลุเป้าหมายอย่างชัดเจนด้วย ไม่ใช่จะสักแต่ตั้งเป้าหมายอย่างเดียว
5. จัดสิ่งแวดล้อมให้เอื้ออำนวย
5.1 เวลา
จัดเวลากิจวัตรในเส้นทางการเงินการลงทุนให้ชัดเจน เช่น อ่านหนังสือหุ้นก่อนนอน เรียนหุ้นวันเสาร์ วิเคราะห์หุ้นวันอาทิตย์ พอเราทำเป็นกิจวัตร เราจะเคยชินและใช้ willpower ในการทำน้อยลง เราจะบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
5.2 สถานที่
คล้ายกับการผูกแผนการกับเวลา แต่เราก็ผูกกับสถานที่ได้ด้วย เช่น อ่านหนังสือบนโต๊ะตัวเดิม อ่านบทวิเคราะห์จากคอมฯ ตัวเดิม พอเราทำอะไรเป็นกิจวัตรหรือความคุ้นเคย เราก็จะใช้ willpower ในการทำลดลง อย่างผมจะใช้คอมฯ PC ในออฟฟิศอ่านบทวิเคราะห์ตอนเช้าทุกวัน พอเปิดคอมฯ เราก็เปิดหน้าบทวิเคราะห์โดยอัตโนมัติ ถึงอย่างไร เราก็ไม่ได้ใช้ความพยายามมากมายในการศึกษาหาความรู้เท่ากับตอนเริ่มต้น
5.3 อารมณ์
ฝึกดูอารมณ์ตัวเองให้ชัดเจนและพยายามเข้าใจอารมณ์ตัวเองมากขึ้น เช่น หากอยากเลิกอ่านหนังสือ คือไม่ใช่วางหนังสือแล้วจบเลย แต่ต้องพยายามฝึกถามตัวเองว่าเรารู้สึกแบบนี้เพราะอะไร นี่คือความรู้สึกแบบไหน เราจะจัดการมันได้อย่างไรบ้าง
5.4 คนรอบตัว
สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเดินทางบนถนนการลงทุน พยายามพาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มคนที่ชอบและสนใจการเงินเหมือนกัน ให้ความสำคัญแก่การวางแผนการใช้จ่ายเหมือนกัน
ขอเสริมอีกนิดว่าโดยส่วนตัวมองว่าแพชชัน (passion) เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการบรรลุเป้าหมาย คือเราต้องเชื่อก่อนว่าเราทำได้ เราต้องเห็นภาพก่อนว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จ ยิ่งเชื่อมั่น เรายิ่งไม่ท้อไม่กังขากับเส้นทางที่เราเลือกเดิน
สุดท้าย เราก็จะประสบความสำเร็จอย่างที่เราคิดจริงๆ
Whether you think you can, or you think you can’t, you’re right. Henry Ford
“ไม่ว่าคุณจะคิดว่าคุณทำได้ หรือคิดว่าคุณทำไม่ได้ คุณก็คิดถูกทั้งนั้น” – เฮนรี ฟอร์ด (ผู้ก่อตั้งบริษัท ฟอร์ดมอเตอร์)
คอลัมน์: ใดใดในโลกล้วนลงทุน
เรื่อง: ลงทุนศาสตร์