นาโอโตะ มัทสึมุระ (Naoto Matsumura) มีอาชีพเป็นชาวนา และเป็นหนึ่งในประชากรราว 4,500 คนที่อาศัยอยู่ในเมืองโทมิโอกะ (Tomioka) เมืองเล็กๆ ทางชายฝั่งตะวันออกของจังหวัดฟุกุชิมะ
เราคงจะไม่มีวันได้ยินชื่อของชายคนนี้ หากไม่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ.2011 ที่ทำให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะเกิดระเบิด และผู้คนในจังหวัดต้องอพยพเพื่อหนีภัยสารกัมมันตภาพรังสี
มัทสึมุระเองก็พาครอบครัวอพยพไปที่อื่นเช่นกัน แต่เขากลับถูกญาติปฏิเสธจะให้อยู่ด้วย เมื่อจัดแจงหาที่พักให้ครอบครัวเรียบร้อยแล้ว มัทสึมุระจึงตัดสินใจมุ่งหน้ากลับไปที่เมืองโทมิโอกะ เพราะเขาห่วงว่าหมาหลายตัวที่เขาเลี้ยงไว้จะไม่มีคนดูแล
ช่วงวันแรกๆ เขาดูแลให้อาหารหมาของเขาเพียงอย่างเดียว แต่ไม่นานนักเขาก็เริ่มให้อาหารหมากับแมวที่ชาวบ้านทิ้งขว้างด้วย หลายตัวถูกมัดล่ามไว้และเกือบจะขาดใจตายอยู่แล้ว
นอกจากหมาและแมวแล้ว มัทสึมุระยังให้อาหารปศุสัตว์อย่างหมู วัว หรือแม้กระทั่งนกกระจอกเทศ เพียงไม่นาน เขาก็ได้รับการขนานนามว่าเป็น Guardian of Fukushima’s Animals หรือผู้คุ้มครองเหล่าสัตว์แห่งฟุกุชิมะ
ทั้งครอบครัวและเจ้าหน้าที่รัฐต่างขอให้มัทสึมุระหนีออกจากเมืองนี้เสียก่อน แต่มัทสึมุระปฏิเสธ เพราะรัฐบาลเพิ่งจะสั่งฆ่าวัวถึง 1,000 ตัวแล้วฝังกลบ เขารู้ว่าถ้าเขาออกไปจากเมืองนี้ สัตว์อื่นๆ ที่เขาดูแลอยู่ก็คงจะพบชะตากรรมไม่ต่างกัน
มัทสึมุระจึงเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ใน “เขตต้องห้าม” ซึ่งอยู่ในรัศมี 12 ไมล์รอบโรงไฟฟ้าที่เกิดการระเบิด
มัทสึมุระเคยไปตรวจร่างกาย และพบว่าเขามีสารกัมมันตภาพรังสีสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 17 เท่า
“หมอบอกว่าผมได้แชมป์เลยล่ะ” มัทสึมุระกล่าวติดตลก เมื่อได้รับการยืนยันว่าในร่างกายของเขามีสารกัมมันตภาพรังสีสูงกว่าชาวญี่ปุ่นทุกคน
“แต่ผมก็ไม่ได้กังวลอะไรมากหรอกนะ หมอบอกว่าสารกัมมันตภาพรังสีน่าจะทำให้ผมเจ็บป่วยในอีก 30 หรือ 40 ปีข้างหน้า แต่ป่านนั้นผมคงตายไปเรียบร้อยแล้ว” มัทสึมุระในวัย 60 ปีกล่าว
ก่อนหน้านี้มัทสึมุระกินอาหารและน้ำจากเขตพื้นที่เสี่ยง แต่ทุกวันนี้เขาได้รับอาหารซึ่งทางการส่งมาให้ และดื่มน้ำจากน้ำพุร้อนที่ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย เขาอาศัยอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา แต่เขามีแผงโซลาเซลล์ที่เอาไว้ชาร์จโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ของเขา
และนี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวที่สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ เปลี่ยนชาวนาวัยเกษียณให้กลายเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองสัตว์สี่ขาซึ่งไม่มีใครอีกแล้วให้พึ่งพา
คอลัมน์: มุมละไม
เกี่ยวกับผู้เขียน: อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์ ผู้เขียนหนังสือ ช้างกูอยู่ไหน และ Thank God It’s Monday ขอบคุณโลกนี้ที่มีงานประจำ เจ้าของบล็อก Anontawong’s Musings และ Head of People ที่ Wongnai