Food For Fighters ร่วมแรงคนตัวเล็กสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่

-

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ต้นกำเนิดโรคโควิด-19 (COVID-19) ในเวลานี้ นอกจากยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่ต้องติดตามกันทุกวันแล้ว วิกฤตการณ์ครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตผู้คนในวงกว้าง ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่ดิ่งตัว จำนวนคนตกงานเพิ่มมากขึ้น และจากมาตรการของรัฐที่ต้องการสกัดกั้นโรคระบาดนี้ส่งผลให้เหล่าผู้ประกอบการต้องเผชิญสถานการณ์ยากลำบากได้รับความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก จนยากที่จะหาทางออกในการแก้ปัญหา กระตุ้นเร้าให้สภาพจิตใจบังเกิดความย่ำแย่หดหู่ แต่ท่ามกลางวิกฤติต่างๆ นั้น ยังมีเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น

“Food For Fighters: ข้าวเพื่อหมอ” คือโครงการที่ริเริ่มมาจากคนตัวเล็กๆ อย่าง เต้-พันชนะ วัฒนเสถียร ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางรวมรวบเงินบริจาค ก่อนที่จะนำเงินส่วนนี้ไปจัดจ้างร้านอาหาร ผลิตข้าวกล่องส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือทั้งร้านอาหารขนาดเล็กที่กำลังเผชิญความยากลำบากระหว่างการตัดสินใจที่จะเปิดหรือจะปิดในช่วงที่รัฐบาลมีคำสั่งล็อกดาวน์ และยังช่วยส่งแรงใจให้คณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งถือเป็นด่านหน้าต่อสู้วิกฤติครั้งนี้ไปได้ในคราวเดียว

Food for fighters

จุดเริ่มต้นของ Food For Fighters
พันชนะเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการร้านอาหาร “เป็นลาว” ที่เขาใหญ่ เธอจึงได้สัมผัสกับปัญหาที่ร้านค้าต่างๆ ต้องเผชิญด้วยตนเอง เธอตระหนักดีว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเพียงคนเดียว จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พันชนะครุ่นคิดถึงวิธีแก้ไข
“วันที่ 25 มีนาคม เต้จึงโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กของตัวเองว่าเต้มีโครงการหนึ่งมานำเสนอ หากสามารถรวบรวมเงินระดมทุนได้สำเร็จ เต้จะนำเงินส่วนนี้ไปจัดจ้างร้านอาหารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผลิตข้าวกล่องราคากล่องละ 50 บาท จำนวน 50 กล่อง โดยขอเครดิตร้านอาหารเป็นระยะเวลา 7 วัน เพื่อส่งมอบข้าวกล่องนี้แก่โรงพยาบาลต่างๆ จะมีใครสนใจร่วมโครงการนี้กับเต้ไหม พอเต้โพสต์ลงไป คนที่สนใจก็เข้ามากันเต็มเลย”

กระแสตอบรับที่ได้คือมีผู้สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เธอจึงไม่รอช้า ลงมือดำเนินการในทันที โดยนำโครงการนี้ขึ้นแพลตฟอร์มระดมทุน Sinwattana Crowdfunding ภายใน 24 ชั่วโมง และในวันต่อมา (26 มีนาคม) พันชนะและพี่ๆ ก็สามารถส่งมอบอาหารจำนวน 400 ชุดให้แก่โรงพยาบาลปากช่องนานา จ.นครราชสีมา เป็นแห่งแรก

เต้-พันชนะ วัฒนเสถียร

กลุ่มคนตัวเล็กๆ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างแรงพลังอันยิ่งใหญ่
นอกจากผู้มีจิตศรัทธาส่งเงินร่วมบริจาคแล้ว โครงการยังได้รับแรงสนับสนุนจากพันธมิตรต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านการขนส่ง บริจาคสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง ผัก ผลไม้ น้ำตาล น้ำมันพืช หรือแม้กระทั่งการใช้แรงงาน พันชนะกล่าวว่า “กลุ่มคนจากหลากหลายที่มา หลากหลายอาชีพติดต่อเข้ามาขอเป็นอาสาสมัครเยอะแยะมากมาย เต้ได้ทำงานร่วมกับคนเป็นร้อยๆ คน การแบ่งหน้าที่ใครสะดวกจะทำอะไร เต้ก็มอบหมายหน้าที่นั้นให้ ทุกคนพร้อมเข้ามาช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าแรงใดๆ” ธารน้ำใจหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เมื่อร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือ จากเรี่ยวแรงเล็กๆ ก็ก่อให้เกิดกลุ่มก้อนพลังอันยิ่งใหญ่

ข้าวกล่องที่ส่งมอบ

ปัจจุบันโครงการ Food For Fighters มีร้านอาหารที่เข้าร่วมกว่า 100 ร้าน พนักงานร้านค้ารวมกันทั้งสิ้น 1,400 คน ตั้งเป้าหมายวันละ 1,000 กล่องเป็นอย่างน้อย เพื่อส่งมอบแก่โรงพยาบาลในเครือข่าย 20 แห่ง แบ่งเป็นเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สัดส่วน 50 ต่อ 50 ส่งมอบไปแล้วกว่า 30,000 กล่อง ได้รับเงินบริจาคจากการระดมทุนมากกว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท โดยทุกกิจกรรมสามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ @FoodForFightersTH หรือเฟซบุ๊กส่วนตัวของพันชนะเอง( panchana vatanasathien)

แรงสนับสนุนจากพันธมิตรช่วยบริจาคสิ่งของกันเข้ามา

โครงการที่ชาวต่างชาติยังให้การยอมรับ
พันชนะเล่าให้เราฟังด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า “เต้ได้รับการติดต่อจากน้องคนไทยที่เป็น marketing director ของเฟซบุ๊กที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ว่า เรื่องราวของ Food For Fighters ได้รับคัดเลือกจากเฟซบุ๊กระดับโลก โดยเหตุผลที่ได้รับคัดเลือกคือ โครงการของเราแม้จะเป็นโครงการเล็กๆ ก็จริง แต่ก็สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความช่วยเหลือ ความร่วมมือร่วมใจของคนตัวเล็กๆ จำนวนมากที่สามารถรับมือกับปัญหาในรูปแบบที่ตนเองถนัดในสถานะผู้ประกอบการ จึงขอสัมภาษณ์และขออนุญาตนำภาพจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ @FoodForFightersTH ไปเผยแพร่

“นอกจากนี้ Food For Fighters ยังได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 เรื่องราวการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 จากทั่วโลก โดย Coca-Cola จัดทำเป็นหนังสั้นในแคมเปญ For the Human Race เพื่อฉายผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นยินดีมากสำหรับคนที่ทำโครงการเล็กๆ ในประเทศไทยของเรา”

อาสาสมัครพร้อมเข้ามาช่วยเหลือ

ก้าวต่อไปของ Food For Fighters
ระหว่างดำเนินโครงการพันชนะพบว่า “กล่องพลาสติก” ที่ใช้ในการบรรจุอาหารคือปัญหาสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไข จึงต่อยอดโครงการสู่ “ปิ่นโตเพื่อหมอ” ขึ้นด้วยความคิดริเริ่มจาก ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อลดปัญหาขยะพลาสติกที่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยผู้ที่ได้รับสามารถนำปิ่นโตที่ได้รับส่งคืนสู่โครงการ เพื่อนำมาหมุนเวียนใช้งานอีกครั้ง

โครงการปิ่นโตเพื่อหมอ

โครงการนี้เริ่มดำเนินการกับโรงพยาบาลสนาม ธรรมศาสตร์รังสิตเป็นแห่งแรก โดยพันชนะเล่าให้เราฟังว่า “เรื่องที่น่าดีใจคือทางโครงการได้ปิ่นโตมาจากพระครูรัตนโสภณ (สุรัฐ สิริปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดนายโรง ท่านมอบปิ่นโตเป็นจำนวนถึง 118 เถา ให้โครงการได้ใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ยังได้จากวัดอุทัยธารามอีก 65 เถา ทำให้เกิดการหมุนเวียนใช้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กล่องอาหารแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง” ปัจจุบันการจัดส่งปิ่นโตเพื่อหมอสามารถดำเนินการกับโรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลปากช่องนานาได้สำเร็จผลตามเป้าหมายแล้ว และจะขยายการใช้งานสู่โรงพยาบาลอื่นๆ อีกต่อไป

โครงการปิ่นโตเพื่อหมอเริ่มดำเนินการกับโรงพยาบาลสนาม ธรรมศาสตร์รังสิตเป็นแห่งแรก

นอกจากรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว คนบางส่วนเริ่มตระหนักถึงอนาคตในภายภาคหน้าว่าเราจะใช้ชีวิตหลังโควิด-19 กันอย่างไร พันชนะมีความเห็นว่า “เราไม่สามารถแยกได้ว่าช่วงต่อจากนี้มันคือก่อนหรือหลังโควิด-19 เพราะการเกิดวิกฤติครั้งนี้กินเวลายาวนานและไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด หากเป็นเช่นนั้นแล้ว เราจะต้องอยู่บ้าน 24 ชม. ไปอีก 365 วันหรือ? สิ่งที่เราควรเริ่มต้นคิดกันคือเราจะออกมาพบปะผู้คนอย่างไร เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) การใส่หน้ากากป้องกัน หรือการล้างมือ สิ่งเหล่านี้คือชีวิตไม่ปกติที่เราจะต้องทำมันจนเป็นปกติ” เพราะฉะนั้นพันชนะเองก็วางแผนถึงการรับมือในอนาคตด้วยเช่นกัน

ก่อนดำเนินโครงการ Food For Fighters พันชนะมีธุรกิจร้านอาหาร “เป็นลาว” ซึ่งเป็นธุรกิจเพื่อสังคม (social enterprise) ส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้คนในชุมชนเขาใหญ่ พันชนะอยากให้ร้านเป็นลาวเป็นต้นแบบในการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมในแบบเดียวกัน จึงนำเสนอไอเดีย “Food For Fighters cloud kitchen” ขึ้นมา

“cloud kitchen” หรือครัวที่ใช้ร่วมกัน คือแนวคิดการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ โดยนำสถานที่เช่นโรงแรมหรือร้านอาหารที่ต้องปิดกิจการลงหลังได้ผลกระทบจากโควิด-19 มาใช้เป็นพื้นที่ฝึกอาชีพให้แก่ผู้ที่ประสบปัญหาตกงานหรือได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว งานบริการ หรือฟรีแลนซ์ โดยมีร้านอาหารในกลุ่มคอยให้ความช่วยเหลือและทำงานร่วมกับเกษตรกรในชุมชนนั้นๆ ด้วย พันชนะกล่าวว่า “Food For Fighters cloud kitchen สามารถดำเนินการได้ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ผลลัพธ์ที่จะได้คือมอบวิชาความรู้ในการสร้างอาชีพ ในขณะเดียวกันอาหารที่ผลิตออกมาก็สามารถส่งต่อไปยังทีมบุคลากรทางการแพทย์ เด็ก คนแก่ หรือผู้ยากไร้ในแต่ละจังหวัดนั้นๆ” ซึ่งไอเดียนี้จะเริ่มดำเนินการในช่วงเฟส 2 หรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป

 

นับเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจที่โครงการ Food For Fighters แสดงให้เห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจของคนไทย และความสามัคคีนี้เองจะทำให้พวกเราทุกคนสามารถฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

 


ติดตามโครงการ Food for fighters ได้ที่
เฟซบุ๊ก: @FoodForFightersTH
https://social.sinwattana.com/foodforfighters
สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0 2016 9910
สนับสนุนโครงการ
บัญชี “พันชนะ วัฒนเสถียร” ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขุมวิท 33
เลขบัญชีออมทรัพย์ 003 2 916 724

หรือร่วมสนับสนุนเสื้อในโครงการ (รายละเอียดในรูปภาพ)

สนับสนุนโครงการ

 

 

กัตติกา

Writer

กองบรรณาธิการ เด็กโบราณคดีเอกไทย ผู้พ่ายแพ้ต่อแมวเหมียวและสิ่งมีชีวิตน่ารัก ชื่นชอบการดูหนังและสีเขียวแต่ดันมีเสื้อสีฟ้ามากกว่าเพราะคิดเอาเองว่าใส่แล้วสวย

อนุชา ศรีกรการ

Photographer

ช่างภาพที่เกิดวันเดียวกับวันถ่ายภาพโลก เลยทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้ว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!