สังคมไทยในปัจจุบันแฝงไปด้วยอันตรายและภัยร้ายที่มองไม่เห็นมากมาย โดยเหยื่ออธรรมที่มักโดนทำร้ายมักจะเป็นเพศหญิง ดังเห็นได้ตามหน้าข่าวอาชญากรรม ทั้งข่าวการทำร้ายร่างกาย การปล้นชิง หรือแม้แต่การข่มขืน ซึ่งไม่อาจรับรู้ได้เลยว่าโชคร้ายเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไร แต่เราสามารถป้องกันได้ ด้วยการเรียนรู้ที่จะใช้ศาสตร์ป้องกันตัวเอง นักสืบเสาะ ฉบับนี้ ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ FMMA BANGKOK โรงเรียนสอนศิลปะป้องกันตัว ที่ผสมผสานศาสตร์การป้องกันตัวจากประเทศจีนหลายแขนงเข้าด้วยกัน เพื่อให้สาวๆ สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม
เราได้พบกับ Patrick Gee (แพทริก กี่) อาจารย์ผู้ก่อตั้งโรงเรียน พร้อมกับ Attila Arthur (อติล่า อาร์เธอร์) ศิษย์เอกคนสำคัญผู้จะได้รับสืบทอดศาสตร์การป้องกันตัวนี้เป็นรุ่นถัดไปมาพูดคุยร่วมกัน อาจารย์แพทริกเป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ฝึกมวย Wing Chun (หย่งชุนหรือหวิงชุน) มาประมาณ 19 ปีแล้ว ผู้สอนวิชานี้ให้แก่อาจารย์แพทริกเป็นมาสเตอร์จากฮ่องกงที่ย้ายมาสอนในประเทศมาเลเซีย
อาจารย์แพทริกได้อธิบายถึงศิลปะป้องกันตัวว่า เป็นศิลปะที่ทุกคนแสดงออกมาไม่เหมือนกัน แต่ละคนจะเรียนในสิ่งที่ดีที่สุดของสไตล์นั้น และเอามาผสมผสานกันเพื่อเกิดเป็นสไตล์ของตัวเอง โดยส่วนมากของผู้ที่เรียนกังฟูจะเป็นนักเดินทาง มักออกไปแสวงหาวิชาและความรู้กัน ดังนั้นในระหว่างการเรียนอาจารย์แพทริกจึงได้เดินทางไปประชุมกังฟูตามสถานที่ต่างๆ และเรียนรู้แขนงการต่อสู้ที่แตกต่างจากบุคคลหลากหลายที่พบเจอ ทำให้อาจารย์แพทริกได้สร้างสรรค์พื้นฐานศิลปะป้องกันตัวสไตล์ของตัวเองขึ้นมา โดยเป็นการผสมผสานกันระหว่าง Qigong (ชี่กง), Tai Chi (ไทชิหรือไทเก็ก) และ Wing Chun (หวิงชุน) โดย ‘ชี่กง’ จะมุ่งให้รับรู้ถึงกำลังภายในที่มีในร่างกาย ‘ไทชิ’ เน้นการเคลื่อนไหวร่างกายแบบมีรากฐานที่มั่นคง เพื่อพร้อมตั้งรับการจู่โจมที่จะพุ่งเข้ามา และ ‘หวิงชุน’ ซึ่งเป็นกำลังภายนอก มารวมกับการใช้ Demerit Points (จุดอ่อนของร่างกาย) ซึ่งเป็นจุดระหว่างกล้ามเนื้อ
จุดเริ่มต้นที่ทำให้อาจารย์แพทริกมาก่อตั้งโรงเรียนที่ประเทศไทย เกิดจากการได้เห็นข่าวเด็กผู้หญิง อายุ 14 ปี ในเชียงใหม่ โดนข่มขืนและถูกบีบคอจนเสียชีวิตจากเพื่อนบ้านวัย 54 ปี ซึ่งอาจารย์มีความเห็นว่า จริงๆ แล้วมันไม่ยากสำหรับเด็กอายุ 14 ที่จะป้องกันตัวจากผู้ชายอายุ 54 ปี ถ้าเขาได้เรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวที่สามารถใช้งานได้จริง เด็กคนนั้นคงมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ อาจารย์จึงเริ่มก่อตั้งและเปิดโรงเรียนมาได้ 7 ปีแล้ว
ผู้หญิงที่มาเรียนที่ FMMA BANGKOK สามารถนำวิชาไปใช้ป้องกันตัวได้จริงตั้งแต่การเรียนในคลาสแรกเลย เพราะจุดประสงค์ของการตั้งโรงเรียน คือการคิดแบบประยุกต์ว่าศิลปะป้องกันตัวแบบใดจะเหมาะกับผู้หญิงที่สุด หาวิธีที่ไม่ต้องใช้แรงมาก แต่สามารถป้องกันตัวได้จากคนที่มีพละกำลังมากกว่า 3-4 เท่าได้ เน้นการเอาไปปรับใช้ในชีวิตได้จริง สามารถพลิกแพลงตามสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งแตกต่างจากการเรียนเป็นกระบวนท่าซ้ำๆ เดิมๆ ที่พอเจอสถานการณ์จริง อาจจะนิ่งค้างทำอะไรไม่ถูกเพราะตกใจ ทั้งคนร้ายไม่ได้เตะต่อยตามกระบวนท่าหรือแพทเทิร์นตามที่เรียนมาด้วย ดังนั้น โรงเรียนแห่งนี้จึงเน้นการสอนแบบฟรีสไตล์ อติล่า ศิษย์เอกคนสำคัญกล่าวว่า “เราไม่รู้ว่าจะเจอเหตุการณ์อะไรข้างหน้า ถ้าสอนแค่มวยหวิงชุน เราก็ตั้งรับได้แค่แบบมวยหวิงชุน แต่ที่นี่จะสอนแบบผสมผสาน ทำให้สามารถตั้งรับได้ทุกสถานการณ์”
นอกจากนักเรียนไทยแล้ว ยังมีชาวต่างชาติทั้งเพศหญิงและเพศชาย มีการให้ฝึกร่วมกัน โดยอาจารย์แพทริกจะวิเคราะห์ถึงข้อดีและข้อด้อยของนักเรียนแต่ละคนว่า ต้องปรับปรุงด้านไหนเพื่อให้ร่างกายและกระดูกเข้าที่เข้าทาง ซึ่งแต่ละคนลักษณะร่างกายจะมีความแตกต่างกัน รวมทั้งเรื่องเพศและวัย อาจารย์จึงพยายามปรับและดัดแปลงสไตล์ให้เข้ากับร่างกายของแต่ละคน เพื่อให้เหมาะกับตัวนักเรียนคนนั้นโดยเฉพาะ ถือเป็นความพิเศษของการเรียนการสอนที่นี่ “ไม่มีอะไรถูก ไม่มีอะไรผิด มีแต่อะไรที่มันเวิร์กสำหรับตัวนักเรียน” อาจารย์แพทริกกล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจ ทางโรงเรียนมีคอร์สเรียนทั้งรายครั้งและรายเดือน ตามแต่ความสะดวกของนักเรียน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ
สาวๆ อย่ารอช้า มาเริ่มเรียน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชีวิตสวยๆ ของพวกเรากันดีกว่า
FMMA BANGKOK
55 ซอย 20 มิถุนา แขวง สามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
เฟซบุ๊ก: @Fmmawingchunbangkok
Instagram: fmma_bangkok
เว็บไซต์: https://smbkk78.wixsite.com/fmmabangkokwingchun
โทร: 09 2683 5686
