ฉบับนี้ผู้เขียนขอเสนอสำนวนไทยที่มักได้ยินได้ฟังกันอยู่เสมอ ได้แก่ ปลาข้องเดียวกัน และปลากระดี่ได้น้ำ
ปลาตายน้ำตื้น
โดยธรรมชาติปลาจะว่ายวนอยู่ในแม่น้ำลำคลองที่มีน้ำลึกจนไม่เห็นตัวปลา มีบางเวลาที่ปลาจะแหวกว่ายขึ้นมาสูงเกือบถึงผิวน้ำ แต่ก็มีปลาบางชนิดอยู่ในแหล่งน้ำตื้น ซึ่งถ้าโชคร้ายมีคนเห็น พวกมันก็จะถูกจับไปเป็นอาหารได้โดยง่าย
เมื่อใช้ ‘ปลาตายน้ำตื้น’ เป็นสำนวนเปรียบจะหมายถึงคนที่ประมาท ชะล่าใจ หรือไว้วางใจคนง่ายๆ โดยไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วนลึกซึ้งว่าจะเป็นอันตราย ดังนั้นจึงต้องเผชิญกับความทุกข์ที่ตามมาภายหลัง เช่น ไม่นานมานี้มีข่าวทางโทรทัศน์เรื่องอธิบดีกรมหนึ่งรับซองเงินค่าวิ่งเต้นจากพ่อค้าเพื่ออำนวยผลประโยชน์ตามต้องการ ทำให้อธิบดีคนนั้นต้องถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวน เมื่อจนด้วยหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและซองเงินในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ผลที่ได้คือจะต้องถูกดำเนินคดีและพ้นจากตำแหน่ง ทิพย์ซึ่งนั่งดูข่าวดังกล่าวกับสามีพูดขึ้นว่า “นี่แหละที่โบราณเขาว่าปลาตายน้ำตื้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นถึงข้าราชการระดับนี้ยังชะล่าใจทำเรื่องอย่างนี้ได้ไง”
ปลาข้องเดียวกัน
คำว่า ‘ข้อง’ ในที่นี้แปลว่าเครื่องจักสานที่ทำจากไม้ไผ่สำหรับใส่ปลา หอย ปู ที่จับได้ บางคนเอาข้องผูกไว้ที่เอวขณะจับปลา ข้องธรรมดามีรูปร่างคล้ายตะกร้า มีปากแคบคล้ายคอของหม้อดิน ก้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ปากกว้างประมาณ 5 นิ้ว ความสูงประมาณ 12 นิ้ว แต่มีข้องชนิดหนึ่งเรียกว่าข้องปากเป็ด ปากข้องเหมือนข้องธรรมดา แต่ตัวข้องจะยาวกว่า ทำให้มีรูปร่างคล้ายเป็ด ถ้าขังปลาไว้ในข้องปากเป็ด ปลาจะมีชีวิตอยู่ได้นานเป็นวันๆ เพราะปลาสามารถเหยียดตัวได้โดยไม่ต้องงอตัวโค้งไปตามรูปข้องธรรมดา พวกปลาในข้องที่ถูกจับขังไว้ในน้ำ ถ้ามีบางตัวตายแล้วเน่า ปลาตัวอื่นๆ ก็จะพลอยติดกลิ่นเน่าไปด้วย
‘ปลาข้องเดียวกัน’ ถูกนำมาใช้เป็นสำนวนเปรียบหมายถึงกลุ่มคนที่เป็นพวกเดียวกัน วันใดถ้าคนในกลุ่มไปมีเรื่องราวกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง เกิดการปะทะกันบาดเจ็บและเสียชีวิต แม้บางคนจะมิได้เป็นผู้กระทำร้าย แต่ก็ถูกจับกุมไปสอบสวนดำเนินคดีด้วย พจน์ก็อยู่ในข่ายนั้นด้วย ครั้นบรรดาพ่อแม่และญาติๆ รู้ข่าวก็ยังไม่แน่ใจว่าลูกหลานของตนร่วมก่อเหตุร้ายด้วยหรือไม่ ตอนหนึ่งพ่อพูดกับแม่เรื่องที่พจน์ถูกจับว่า “ปลาข้องเดียวกัน ตัวไหนตายเน่าตัวอื่นก็ต้องพลอยมีกลิ่นเหม็นเน่าติดตัวไปด้วย เตือนแล้วเตือนอีก เจ้าพจน์ก็ไม่เชื่อฟัง โดนซะบ้างก็ดี จะได้หลาบจำ”
ปลากระดี่ได้น้ำ
ปลากระดี่เป็นปลาน้ำจืดคล้ายปลาสลิด โดยทั่วไปตัวยาวประมาณ 8-10 เซนติเมตร รูปร่างแบนคล้ายใบไม้ หัวเล็ก ปากเล็ก ปลายปากค่อนข้างแหลม ปลากระดี่มีหลายชนิด เช่น ปลากระดี่นาง ปลากระดี่หม้อ เป็นต้น ปลากระดี่มีสีสันแตกต่างกันไปตามพันธุกรรมและที่อยู่อาศัย เช่น สีเทาเงิน สีน้ำตาลใส ฯลฯ พวกมันอาศัยชุกชุมอยู่ตามแหล่งน้ำที่ไหลไม่แรง เช่น หนอง บึง ท้องร่องสวน เป็นต้น ปลากระดี่ที่จมปลักอยู่ในที่น้ำน้อยและมีน้ำแห้งลง ถ้ามีน้ำใหม่ไหลลงไปเพิ่มมากขึ้น มันก็จะดีใจ กระโดดขึ้นลงไปมาเหนือน้ำ และด้วยสีของลำตัวเมื่อกระทบแสง ก็จะทำให้เห็นพฤติกรรมของมันได้ชัดเจน
ได้มีการนำ ‘ปลากระดี่ได้น้ำ’ มาใช้เป็นสำนวนเปรียบกับกิริยาหรือพฤติกรรมของคนที่ออกอาการตื่นเต้นดีใจที่จะได้พบกับเหตุการณ์หรือสิ่งใหม่ๆ ที่ปรารถนา เช่น เมื่อเจ้าของบริษัทประกาศว่าหน้าร้อนนี้จะพาพนักงานไปพักผ่อนที่ชายทะเล ทุกคนก็ตื่นเต้นดีใจ ตอนหนึ่งฟ้าพูดกับพิศเพื่อนรักว่า “ดีจังเลย ฉันจะต้องเตรียมหาชุดไว้ไปเดินเล่นตามชายหาด เธอเองก็ดีใจเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ถึงได้ยิ้มไม่หุบ กระโดดโลดเต้นเหมือนปลากระดี่ได้น้ำเชียว”
คอลัมน์: คมคำสำนวนไทย
เรื่อง: ยุพร แสงทักษิณ
ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์