Extraordinary Attorney Woo
เป็นแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิให้แก่กันและกัน
วันแรกของการทำงานเป็นทนายให้กับสำนักทนายความชื่อดัง อูยองอูออกจากห้องนอนที่เต็มไปด้วยหนังสือกฎหมายและคอลเล็คชั่นปลาวาฬหลากหลายชนิด เสื้อผ้ารูปแบบเดียวกันเรียงเว้นระยะห่างเท่ากัน มีรูปสีหน้าพ่อหลากหลายอารมณ์แปะติดไว้พร้อมคำบรรยายใต้รูปว่าแต่ละรูปหมายถึงอารมณ์แบบไหน ก่อนไปทำงานเธอได้รับคำแนะนำจากเพื่อนว่า “อย่าอวดฉลาด อย่าพูดสิ่งไม่จำเป็น” พ่อของเธอก็แนะนำก่อนออกจากบ้านว่า “ห้ามพูดตามคนอื่น ห้ามพูดอะไรแปลกๆ อย่าพูดตรงๆจนเกินไป ห้ามพูดเรื่องวาฬ”
เหตุผลที่อูยองอูจัดห้องแบบนั้นและได้รับคำแนะนำแบบนั้นเพราะเธอมีปัญหาพัฒนาการแบบ Autism Spectrum Disorder (ASD) หรือที่เรารู้จักกันดีว่าออทิสติก
เหตุผลที่ชื่อเต็มๆของออทิสติกใช้คำว่า Spectrum เพราะลักษณะอาการนั้นไม่ได้จำกัดแค่ว่าเป็น/ไม่เป็น แต่มีความหลากหลายในลักษณะอาการ มีระดับมากน้อยของแต่ละลักษณะต่างกันไป โดยเกณฑ์วินิจฉัยสำคัญของ Autism Spectrum Disorder จะมีอยู่สองหมวดซึ่งจะเป็นลักษณะที่เป็นตั้งแต่เกิด
หนึ่งคือ ‘บกพร่องในการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ทางสังคม’ ซึ่งเราก็จะเห็นอูยองอูไม่ค่อยสบตาเวลาพูดคุย ไม่ค่อยเข้าใจหรือรับรู้อารมณ์คนอื่นดีนัก ไม่สามารถแยกแยะมุกตลกหรือความจริงจังในบางครั้ง และบ่อยครั้งก็พูดโพล่งๆตรงๆหรือพูดเรื่องตัวเองหมกมุ่นสนใจ(ปลาวาฬ)จนเหมือนไม่รู้กาลเทศะเพราะไม่ทันสังเกตอารมณ์คนรอบๆไม่ได้สังเกตบริบทสังคมในขณะนั้น
สองคือ ‘พฤติกรรม,ความสนใจหรือกิจกรรมที่มีรูปแบบซ้ำๆจำกัด’ เช่น ความสนใจจดจ่อเรื่องเดียวจนแทบจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ในเรื่องของปลาวาฬ , การไม่ยืดหยุ่นเรื่องอาหารที่ต้องกินแต่คิมบับรูปแบบเดิมๆ หรือความอ่อนไหวต่อประสาทสัมผัสรับรู้เช่นเวลามีเสียงดัง ก้าวร้าวหรือวุ่นวายเธอจะจัดการตัวเองได้ไม่เท่าคนอื่นๆ
ออทิสติกไม่เกี่ยวกับระดับสติปัญญา เพราะผู้ป่วยออทิสติกสามารถมีระดับสติปัญญาปกติหรือระดับสติปัญญาบกพร่องก็ได้ และก็สามารถมีระดับสติปัญญาสูงแบบอูยองอูก็ได้หรือบางคนก็เป็นอัจฉริยะ(ซึ่งพบได้น้อยมาก)
ถึงอูยองอูจะฉลาดในระดับเรียนจบทนายด้วยคะแนนดีมีเกียรตินิยม แต่ก็ไม่มีบริษัทไหนรับเธอเข้าทำงาน ส่วนใหญ่ก็เพราะบุคลิกที่ผิดแผกจากคนทั่วไป เธอถูกตัดสินจากสังคม(บริษัททนายความต่างๆ)ว่าการเป็นออทิสติกจะมีผลต่อการทำงาน ทั้งที่เธอผ่านการพิสูจน์ด้วยการสอบผ่านด้วยมาตรฐานเดียวกับคนอื่นๆแล้วว่าเธอเป็นทนายได้
เส้นเรื่องหลักๆของซีรี่ส์ Extraordinary Attorney Woo จึงแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือเส้นทางการทำงานของทนายออทิสติกอูยองอูที่จะมีคดีย่อยๆใช้เวลา 1-2 episode ที่เราจะเห็นการพิสูจน์ตัวเองของเธอให้สังคมแยกแยะระหว่าง ‘ออทิสติก’ และ ‘ความสามารถในการเป็นทนาย’ ที่ไม่ควรนำมาผสมรวมกันแล้วด้อยค่าคนอื่นเพียงเพราะ ‘บุคลิกใจคอแตกต่างจากคนทั่วไป’ เธอทำให้เห็นว่าการเป็นออทิสติกก็มีจุดด้อยบางอย่างต่อวิชาชีพในขณะเดียวกันก็เสริมจุดแข็งบางอย่างที่ทำให้เธอเหนือกว่าคนอื่นเช่นกัน และในแต่ละคดีก็ถูกเขียนบทให้สะท้อนตัวตนของอูยองอู โดยเธอเองได้เรียนรู้ชีวิตมากขึ้น เติบโตมากขึ้นจากลูกความหรือคู่แข่ง ได้ออกจากโลกที่ดีงามและได้รับการปกป้องจากพ่อตั้งแต่เล็ก มาสู่โลกที่มีการแข่งขัน การอิจฉาริษยา การหลอกใช้ และการหวังจะเล่นงานเธอในฐานะศัตรู
อีกเส้นเรื่องของซีรี่ส์คือชีวิตส่วนตัวของอูยองอูที่ออทิสติกเป็นส่วนหนึ่งของอุปสรรคในการที่เธอจะมีชีวิตความสัมพันธ์เหมือนคนอื่นๆ เราเห็นความยากจากตัวเธอเองที่จะปรับตัว และก็มีความยากในการที่จะมีความสุขในชีวิตที่เกิดจากสังคมที่กีดกันหรือใช้อคติตัดสินล่วงหน้าจากลักษณะท่าทางของเธอ เช่น เพื่อนของพระเอกเมื่อเจออูยองอูครั้งแรกเดินคุยกับพระเอกด้วยความบังเอิญ ก็เข้าใจว่าพระเอกกำลังรับงานพิเศษออกมาช่วยเหลือผู้ป่วยออทิสติกใช้ชีวิตในสังคมทั้งที่จริงเป็นการออกเดตปกติเหมือนคู่รักทั่วไป ฯลฯ
แต่ที่อูยองอูมีความสุขและสามารถมีชีวิตที่ทำให้คนดูมีความสุขได้ก็เพราะเธอมี ‘ผู้คนและสังคมสนับสนุนหรือ supporting system ที่ดี’ เช่น
– พ่อ ผู้สละความก้าวหน้าในวิชาชีพมาทำงานที่สามารถดูแลและปกป้องลูก เข้าใจในโรคและเข้าใจในชีวิต ช่วยผลักดันสนับสนุนจนเรียนจบ
– เพื่อน ที่ทนเห็นอูยองอูถูก bully ในโรงเรียนมัธยมไม่ได้ต้องออกมาปกป้องและกลายเป็นเพื่อนสนิทไปจนโต คอยสอนทักษะชีวิตในเรื่องที่เป็นข้อจำกัดจากออทิสติกให้อูยองอูเรียนรู้
– เพื่อนวัยทำงาน ที่แม้จะเป็นคู่แข่งในสมัยเรียนมหาวิทยาลัยหรือในที่ทำงาน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไม่ปล่อยให้อูยองอูโดนรังแก หรือทนไม่ได้ที่จะเห็นอูยองอูทุกข์ใจ จนอูยองอูเปรียบให้เป็นดั่งแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิของเธอ
– ชายหนุ่มที่ไม่เคยเบื่อในเรื่องเล่าปลาวาฬของอูยองอู เห็นความเจ็บป่วยแต่ไม่ได้มองเป็นความป่วยหากแต่มองเห็นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาอยากอยู่ใกล้ชิดด้วยทุกๆวัน มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันเสมอ
– หัวหน้าทีมที่ถูกรบกวนจากอูยองอูหลายอย่างแต่เขาก็เอ็นดูและไม่เคยทำให้อูยองอูรู้สึกแย่ ให้ความเป็นธรรมและให้โอกาสเมื่อเห็นอูยองอูทำงานได้ดี ไม่ใช่ให้โอกาสเพราะสงสารเวทนา แต่ให้โอกาสจากการมองอูยองอูเป็นทนายคนหนึ่งที่ทำงานได้ดีและควรมีโอกาสนั้นให้ไขว่คว้า
ตลอดสิบหกตอนใน Extraordinary Attorney Woo ชีวิตอูยองอูเจอทั้งคนอิจฉา, คู่แข่งที่ต้องการเล่นงานโจมตีภาวะออทิสติก, แม่ที่ทอดทิ้ง, ลูกความที่ไม่เชื่อมั่นศรัทธา, บริษัทที่ไม่ให้โอกาสการทำงาน, สังคมที่ปฏิบัติกับเธอแบบไม่เป็นธรรม ฯลฯ แต่การที่เธอมี Supporting system ที่ดี มันก็ทำให้เราคนดูยิ้มและใจฟู ทำให้เราเห็นว่าเราสามารถสร้าง ’ความน่าอยู่’ ในโลกที่ไม่สมบูรณ์แบบนี้ได้ สร้างพื้นที่ปลอดภัยที่ทำให้เราสามารถระบายความทุกข์หรือรู้สึกวางใจเมื่อกลับมาพักแล้วฟื้นใจได้เสมอ
สร้างสังคมที่แฟร์ ในสังคมที่ไม่แฟร์ , สร้างความเห็นอกเห็นใจ ในสังคมที่เห็นแก่ตัว , สร้างความช่วยเหลือเกื้อกูล ในสังคมที่ไม่ช่วยเหลือกัน ฯลฯ เราสามารถเป็นแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิให้แก่กันและกันได้ แล้วในระหว่างก้าวข้ามความโหดร้ายของชีวิต หากมี Supporting system ที่ดีก็จะช่วยพยุงเราให้เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่และสู้ต่อไป
คอลัมน์: มองโลกผ่านจอ เรื่อง: “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ( www.facebook.com/ibehindyou , i_behind_you@yahoo.com )