ถ้าท่านเห็นรถยนต์รูปทรงแปลกๆ ดูลึกลับ ไฟเล็กๆ ตัวถังค่อนข้างคล้ายปลาหรือกบและยี่ห้อก็แปลกตาบนท้องถนนบ้านเราแล้ว นั่นแหละครับคือรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (electrical vehicles) เผลอแผล็บเดียววิ่งกันเต็มถนนแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่ง EV จีน
EV นั้นมี 3 ชนิด คือ BEV (battery-only EVs) / PHEV (plug-in hybrid electrical vehicles) และ HEV (hybrid EV)
BEV คือรถที่ใช้ไฟฟ้าล้วนๆ โดยอาศัยไฟฟ้าที่ชาร์จเข้าแบตเตอรี่โดยตรง PHEV คือรถไฮบริดที่ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าซึ่งมาจากการชาร์จไฟและการเบรกจนเกิดการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ไปด้วย ส่วน HEV คือรถที่ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าซึ่งมาจากการเบรกจนเกิดการชาร์จไฟขึ้นโดยไม่มีการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่โดยตรง รถชนิดหลังนี้มีมานานแล้ว
EV ที่เพิ่งเข้ามาวิ่งนั้นส่วนใหญ่คือ BEV และ PHEV ซึ่งผู้บริโภคสนใจ และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างมากแล้ว ค่าดูแลก็น้อย การสึกหรอก็ต่ำกว่ารถทั่วไปที่เราใช้กันซึ่งอาศัยน้ำมันเป็นพลังขับเคลื่อน
BEV หรือที่ EV ในที่นี้มีชิ้นส่วนทั้งสิ้นประมาณ 15,000 ชิ้น แต่รถพลังน้ำมันที่เราใช้กันมีจำนวนสูงถึง 30,000 ชิ้น EV อาศัยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไปขับเคลื่อนล้อโดยตรง แต่รถเครื่องยนต์สันดาปภายในซึ่งในภาษาอังกฤษของเราที่มักเรียกว่า IC (Internal Combustion) นั้นอาศัยไอน้ำมันเพื่อจุดระเบิดเป็นพลังขับเคลื่อนรถ มีระบบดูแลความร้อนโดยใช้ทั้งพัดลมและน้ำ ระบบขับเคลื่อนและกำจัดไอเสียซับซ้อนกว่า EV เป็นอันมาก
รถ EV รับประกันการใช้งานเป็นระยะทาง 160,000 กิโลเมตรโดยไม่เปลี่ยนแบตเตอรี่ คำกล่าวหาที่ว่าเมื่อใช้ไปแล้วต้องซื้อแบตเตอรี่ใหม่ซึ่งมีราคานับแสนบาท จนเพิ่มภาระค่าดูแลแฝงสูงนั้นไม่เป็นความจริง เทคโนโลยีปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก เมื่อชาร์จไฟเต็มที่หนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ไม่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตร และอาจถึง 400-500 กิโลเมตรในบางรุ่นด้วย
ผู้ใช้ดูเพียงระดับไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ไม่ต้องดูระดับน้ำมันเครื่องหรือระดับน้ำในหม้อน้ำและในแบตเตอรี่ EV มีระบบดูแลความร้อนในตัวเองโดยผู้ใช้ไม่ต้องกังวลจึงสะดวกกว่ามาก ปัจจุบันราคาก็ไม่แพงกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน มีหลายราคาให้เลือกตั้งแต่ 600,000 ถึงหนึ่งล้านกว่าบาทสำหรับ EV จีน และสองล้านกว่าขึ้นไปสำหรับรถยุโรป
ทุกวันนี้จีนครองตลาด EV อุตสาหกรรม EV ในจีนมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ผลิตได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ของ EV ที่ผลิตกันในปัจจุบัน ในปี 2021 จีนขาย EV ทั้ง 3 ชนิดได้ 53 เปอร์เซ็นต์ของโลก หรือประมาณ 3.3 ล้านคัน EV จีนกำลังมาแรง รถยี่ห้อ BYD (Build Your Dream) ประสบความสำเร็จอย่างมาก ปัจจุบันแซงหน้า Tesla ของ อีลอน มัสก์ ด้านยอดขายในปี 2023 ไปแล้ว ทั้งที่เพิ่งผลิตรถรุ่นแรกเมื่อปี 2007 โดยพัฒนาขึ้นมาจากบริษัทผลิตแบตเตอรี่ BYD มีโรงงานประกอบรถยนต์ในไทยด้วย
EV จีนมีราคาถูกกว่า EV ยุโรปเป็นอันมาก เนื่องจากภาครัฐจีนให้เงินอุดหนุนและมีนโยบายสนับสนุนอย่างเต็มที่ รัฐเป็นเจ้าของบริษัท EV ใหญ่หลายแห่ง จุดแข็งของอุตสาหกรรม EV จีนก็คือกลยุทธ์การผลิต EV โดยมีบริษัทลูกผลิตชิ้นส่วนให้แก่บริษัทแม่โดยตรง ไม่หวังพึ่งการผลิตชิ้นส่วนโดยบริษัทต่างๆ จากประเทศนั้นประเทศนี้ซึ่งทำให้ยากแก่การควบอุปทาน (supply) และต้นทุน จีนมีสิ่งแวดล้อมภายนอกซึ่งเอื้ออำนวยให้บริษัทเหล่านี้สามารถใช้กลยุทธ์ดังกล่าวได้ แต่เรื่องสำคัญก็คืออำนาจในการควบคุมจากภาครัฐ ซึ่งประเทศอื่นไม่อาจเทียบเท่าได้
ถ้าท่านเห็นรถยี่ห้อต่อไปนี้บนถนน เช่น BYD, Nio, Xpeng, MG, GWM, Neta, Ora, Havel ฯลฯ ก็ใช่เลยครับ
คอลัมน์: สารบำรุงสมอง
เรื่อง: รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ