วรรณคดีแต่ละยุคแต่ละสมัยย่อมเป็นเสมือนกระจกที่สะท้อนความคิด ความเชื่อ และวิถีของผู้คนในยุคสมัยที่แต่งเรื่องนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าวรรณคดีมีลักษณะร่วมบางอย่างใกล้เคียงกับจดหมายเหตุ แต่เป็นจดหมายเหตุที่กวีเป็นผู้บันทึก
วิถีประเพณีไทยแต่เก่าก่อน ผู้ใหญ่สอนมาว่าหนุ่มสาวรักใคร่ชอบพอกันหากจะครองคู่เป็นฝั่งเป็นฝาก็ต้อง “เข้าตามตรอก ออกตามประตู” จึงจะงดงามตามจารีตโบราณ ทว่าเมื่อพลิกวรรณคดีเก่าขึ้นมาดูจะเห็นความย้อนแย้งไม่สอดรับกับคำสอน ซึ่งน่าจะสร้างความสับสนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่น้อยเชียวแหละ
วรรณคดีสำคัญอย่างอนิรุทธคำฉันท์ เทวดาอุ้มสมให้พระเอกลักลอบได้เสียกับนางเอกจนพญายักษ์พ่อตารู้เรื่องเข้าก็โกรธจัดเกิดสงครามใหญ่ลามไปถึงพระอิศวรกับพระนารายณ์ต้องรบกันโกลาหล เรื่องนี้ต้องโทษเทวดาซึ่งอยู่ไม่เป็นสุขที่อุ้มสม นั่นเป็นเรื่องราวที่รับเค้ามาจากแขก นิทานโบราณของไทยอย่างสุวรรณหงส์ ซึ่งนำมาแต่งเป็นบทละครนอกยอดนิยมมาตั้งแต่ยุคปลายอยุธยาสืบมาจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ นางเอกเป็นราชธิดากษัตริย์อยู่บนปราสาทลี้ลับยากที่ชายใดจะเข้าถึง แต่พระเอกของเราคือสุวรรณหงส์ชักว่าวตัวใหญ่แล้วไต่ตามสายว่าวขึ้นไปลักลอบได้เสียกับนางเอกกลางวันแสก ๆ กระทั่งพี่เลี้ยงของนางเอกหมั่นไส้ในพฤติการณ์ ทำหอกยนต์ดักไว้ที่หน้าต่าง ละครเรื่องนี้เล่นสมโภชพระพุทธบาทเมื่อปี ๒๓๕๐ ท่านสุนทรภู่สาธยายไว้ในนิราศพระบาทว่า
สุวรรณหงส์ทรงว่าวแต่เช้าไป พี่เลี้ยงใส่หอกยนต์ไว้บนแกล
พอตอนบ่ายเข้าห้องก็ต้องหอก ชาวบ้านนอกตกใจร้องไห้แซ่
เรื่องสุธนู นิทานเก่าที่ปราชญ์โบราณนำมาปรุงแต่งเป็นปัญญาสชาดก พระเอกของเรื่องคือสุธนูกุมาร ขี่มณีกากม้าวิเศษเหาะเหิรเดินอากาศเข้าทางหน้าต่างปราสาทไปหานางเอก จนถูกพ่อตาจับได้เป็นเรื่องราวใหญ่โต
นิทานโบราณที่กระผมยกตัวอย่างมานั้นเป็นเรื่องจักรๆ วงศ์ๆ มักมียักษ์มารเข้ามาเกี่ยวข้อง เกือบทุกเรื่องการครองคู่ระหว่างพระเอกกับนางเอกถ้าเป็นนิทานแบบไทยๆ ไม่เห็นมีเรื่องไหน “เข้าตามตรอก ออกตามประตู” สักราย มีแต่ลัดเลาะมาตามตรอกแล้วเข้าออกตามหน้าต่าง
วรรณคดีชั้นเยี่ยมที่สะท้อนวิถีชีวิตชนชั้นกลางอย่างขุนช้างขุนแผน พระเอกของเราก็ปีนเรือน “ขึ้นหา” นางเอก ขณะที่ยังบวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดป่าเลไลยก์ พลายแก้วขอให้ “ขรัวมี” ทำการสึกไปมีเมีย ชั่วข้ามคืนก็กลับมาบวชใหม่
ครานั้นจึงโฉมเจ้าเณรแก้ว เพลแล้วหลีกเลี่ยงลงมาล่าง
ห่อผ้ากระหวัดลัดลอดทาง ย่างเข้าวิหารสำราญใจ
ครั้นถึงจึงนิมนต์ชีต้นมี ฉันหนีเจ้าคุณลงมาได้
ชีต้นเมตตาลาสึกไป กลับมาบวชใหม่ให้ฉันที
เป็นการสึกหาลาเพศแบบชั่วคราว บ่ายวันนั้นพระเอกแอบไปเล่นจ้ำจี้กับนางพิมที่ไร่ฝ้าย ตกค่ำสองยามกว่าๆ ก็ย่องขึ้นหานางเอก กลิ้งครกตำข้าวมารองปีนขึ้นเรือน
มาถึงบ้านนางพิมหาช้าไม่ เสกข้าวสารหว่านไปให้หลับสนิท
สะเดาะกลอนถอนลั่นทุกชั้นชิด ที่บานปิดก็เปิดออกทันใด
จึงกลิ้งครกเหยียบยืนขึ้นบนเรือน ไม่กระเทือนย่องมาหาช้าไม่
หมายสำคัญมั่นคงตรงไป เข้าในห้องพิมด้วยฉับพลัน
ครั้นรุ่งเช้าพลายแก้วก็กลับไปบวชเณรเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่างเว้นไม่ได้ติดต่อกับสาวรักหลายเพลา จนอีกไม่นานเมื่อลาสึกอย่างถาวร คืนแรกพระเอกก็ปีนเรือนไปหานางเอกเป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้นอกจากจะลักลอบได้เสียกับนางพิมแล้ว ยังมีฉากอาบน้ำท่ามกลางแสงจันทร์ โรแมนติกสุดๆ
ชนชั้นกลางครั้งกระโน้นเขาตั้งอ่างมังกรใส่น้ำสำหรับอาบกลางนอกชานเรือน พลายแก้วร่ายมนตร์สะกดผู้คนในบ้านให้หลับใหลไม่ได้สติแล้วอาบน้ำหยอกเย้ากับสาวรัก
ครั้นถึงอ่างวางอยู่ที่นอกชาน สองสำราญขึ้นนั่งบนเตียงต่ำ
จึงไขน้ำจากบัวตะกั่วทำ นํ้าก็พรํ่าพรายพรูดูกระเด็น
เจ้าพลายชักชายสไบห่ม ฉันอายนมไฮ้หม่อมนะอย่าเล่น
ยังไม่เคยอาบน้ำตัวเปล่าเป็น เขาจะเห็นแล้วอย่ากวนฉันหน่อยเลย
อนิจจาอยู่แต่เจ้ากับตัวพี่ ไม่มีใครเห็นดอกเจ้าพิมเอ๋ย
อาบทั้งผ้าไม่น่าจะเย็นเลย พลางก็เผยผ้าน้องออกจากทรวง
พระจันทร์ลอยลีลาเวหาห้อง สอดส่องต้องเต้าดูขาวช่วง
น้ำกระทั่งหลั่งไหลกระทบทรวง ดังเพชรร่วงหรุบต้องกระจายพราย
อาบน้ำเสร็จกลับเข้าห้องจนนางพิมเคลิ้มหลับ พลายแก้วเปิดฉากฝากรักนางรอง ย่องเข้าห้องสายทองพี่เลี้ยงของพิมพิลาไลย ฝ่ายนางเอกรู้สึกตัวคว้าหาไม่เห็นพลายแก้ว ได้ยินเสียงระริกซิกซี้กระซิบสวาทอยู่ในห้องสายทองก็ออกตาม เกิดวิวาทะระหว่างหญิงสอง คือ นางรองกับนางเอก สนุกไปอีกแบบ
นี่แหละครับ เข้าตามตรอก ออกตามหน้าต่าง วิถีไทยแท้แต่โบราณ
คอลัมน์: ตะลุยแดนวรรณคดี เรื่อง: บุญเตือน ศรีวรพจน์ ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์