ละครชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ แพร่ภาพทางช่อง 3 ในปี 2556 ดัดแปลงมาจากนิยายของนักเขียนชื่อดัง 5 ท่าน ได้แก่ ‘ณารา’ , ‘ร่มแก้ว’, ‘เก้าแต้ม’, ‘ซ่อนกลิ่น’ และ ‘แพรณัฐ’ ได้รับความนิยมจากผู้ชมอย่างล้นหลาม จนเรียกได้ว่าดังเป็นพลุแตก สร้างปรากฏการณ์คุณชายฟีเวอร์ ส่งผลให้นักแสดงหน้าใหม่ที่สวมบทขึ้นแท่นเป็นนักแสดงแถวหน้าของช่อง และ ปี 2567 นี้ เรื่องราวของคุณชายทั้ง 5 กลับมาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงอีกครั้ง กับละครภาคต่อซึ่งดัดแปลงจากนิยายชุด ดวงใจเทวพรหม แบ่งเป็น 5 เล่ม ได้แก่ ลออจันทร์ ขวัญฤทัย ใจพิสุทธิ์ ดุจอัปสร พรชีวัน ฝีมือการรังสรรค์จากปลายปากกาของนักเขียนชุดเดิม เพิ่มเติมคือเรื่องวุ่นๆ ของรุ่นลูกตระกูลจุฑาเทพ ถนนวรรณกรรม สบโอกาสสนทนากับนักเขียน 3 ท่าน ได้แก่ ‘ซ่อนกลิ่น’ เจ้าของผลงาน ลออจันทร์ ‘เก้าแต้ม’ เจ้าของผลงาน ขวัญฤทัย และ ‘ณารา’ เจ้าของผลงาน ดุจอัปสร
ซ่อนกลิ่น: ลออจันทร์
การรวมตัวอีกครั้งของ 5 นักเขียน และ 5 สิงห์แห่งวังจุฑาเทพ
หลังจากละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพจบลง พี่ณาราก็ชวนทุกคนเขียนภาคต่อกันเถอะ ทุกคนก็โอเคเลยมาประชุมกันเรื่องเนื้อหา จะย้อนไปยังรุ่นพ่อของคุณชายดีไหม หรือจะเป็นเรื่องราวรุ่นลูกดี ตกผลึกได้ว่าเขียนภาคต่อรุ่นลูกแล้วกัน เพราะยังมีปมการจับคู่ระหว่างตระกูลจุฑาเทพกับเทวพรหมที่ยังไม่สำเร็จ ในสุภาพบุรุษจุฑาเทพ พระเอกโดนคลุมถุงชนแต่เลือกจะลิขิตชีวิตรักของตัวเองแทน ส่วนภาคต่อนี้ไม่มีใครถูกบังคับแล้ว แต่โชคชะตาก็พาให้ลูกหลานของสองตระกูลนี้ได้รักกันในที่สุด
จากเรื่องลำดับที่ 4 คุณชายรัชชานนท์ สู่การเป็นเรื่องลำดับที่ 1 ในซีรีส์ภาคต่อ
ทุกคนก็คุยกัน เลือกว่าจะเป็นเรื่องลำดับเท่าไหร่ ผมเป็นผู้ชายก็ให้นักเขียนท่านอื่นเลือกก่อนเลย กลายเป็นเราได้เรื่องแรกซะงั้น (หัวเราะ) ความท้าทายของการเขียนเรื่องแรกคือต้องเท้าความเดิม สังเกตได้ว่านิยายบทแรก ผมยกให้รัชชานนท์เล่าเรื่องเลยว่า เกิดอะไรขึ้น คนนั้นคนนี้เป็นยังไง ใครเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ต้องทำเป็น family tree หรือวงศ์วานว่านเครือเลย เขียนไปก็คิดทำไมลูกหลานเยอะขนาดนี้ รณพีร์มีลูกตั้ง 4 คน (หัวเราะ) ความยากอีกอย่างคือ ต้องพยายามเขียนให้ดึงดูดใจคนอ่านเอาไว้ เพื่อที่อ่านตอนของเราจบแล้วจะอยากอ่านเรื่องต่อๆ ไปด้วย
เรื่องราวในลออจันทร์
ภาคแรกเรากำหนดธีมกับพล็อตไว้ มีเรื่องราวการผจญภัยในป่า มีการพาชาวป่าเข้าเมือง มาภาคสองเราก็ยังอยากรักษาบรรยากาศเดิมๆ ไว้ เริ่มจากเรื่องวุ่นๆ ในเมือง สู่การผจญภัยในป่าอีกครั้ง และไม่ทิ้งกลิ่นอายนิยายพาฝัน เจ้าหญิงเจ้าชายไว้ รวมทั้งเรื่องราวฝ่ายเวียงพูคำ จะทำยังไงให้ฝ่ายจุฑาเทพและเวียงพูคำมาเจอกัน ก็นึกได้ว่าสมัยผมเด็กๆ มักมีงานแสดงโชว์ เช่น เสื้อหยกจากเมืองจีน กายกรรมจากจีน มาเผยแพร่วัฒนธรรม ดึงตรงนี้มาใช้ให้มีการจัดแสดงเครื่องประดับจากเวียงภูคำ นำมาซึ่งการไขปริศนาของสร้อย โชคดีที่บรรยากาศในเรื่องคือช่วงปี 2535 เป็นช่วงที่ผมเด็กๆ ได้สัมผัสยุคสมัยนั้นด้วยตัวเอง จึงพอจะจินตนาการง่ายกว่าสมัยเขียนสุภาพบุรุษจุฑาเทพ
แรงกดดันจากความสำเร็จของภาคที่แล้ว สู่ความคาดหวังในภาคนี้
สำหรับคนเขียนกดดันมาก (หัวเราะ) โชคดีที่ไม่ได้เขียนคนเดียว พี่ๆ น้องๆ ช่วยแชร์ไอเดียกัน บรรยากาศการทำงานจึงสนุกสนานคลายความตึงเครียด แล้วใจผมก็ไม่ได้คาดหวังสูง เราคิดว่ายังไงเสียคงแผ่วกว่าภาคแรก เป็นปกติของภาคต่อที่ส่วนใหญ่จะสำเร็จไม่เท่าภาคแรก เพราะคนดูประทับใจกับภาคแรกสุดขีดไปแล้ว ส่วนตัวก็พยายามจะทำให้สนุกเท่าที่จะเป็นไปได้
สิ่งที่ประทับใจในโปรเจกต์นี้
การช่วยเหลือซึ่งกันและกันของทีมนักเขียน ประทับใจส่วนนี้ตั้งแต่เขียนชุดบ้านไร่ปลายฝัน พอเขียนเสร็จก็ใจหายที่จะไม่ได้ทำงานร่วมกันอีก เพราะเรากลายเป็นพี่น้องกันไปแล้ว คุยกันทุกวัน เหมือนเราได้ครอบครัวเพิ่ม ทุกวันนี้ยังคุยกันบ้างนานๆ ที เพราะแต่ละคนต่างก็ติดภารกิจของตน
โปรเจกต์ร่วมกันในอนาคต
ต้องดูสถานการณ์ก่อน (หัวเราะ) เพราะตอนนี้ต่างคนต่างมีอาชีพหลักที่ต้องโฟกัสกัน แต่ก็ไม่แน่ อาจมีการรวมตัวกัน แต่เป็นชุดเล็ก เช่น 2-3 คน แต่ถ้า 5 คนคงยากหน่อย
ที่มาของชื่อ ลออจันทร์
เริ่มจากภาคแรกพี่ ‘ณารา’ เขียนเรื่องแรกก็ประเดิมตั้งเลย คุณชายธราธร ที่เหลือไปคิดกันมาว่าจะตั้งอะไรต่อให้คล้องจอง คราวนี้ผมได้ใช้สิทธิ์ตั้งก่อน จึงไปค้นคว้าว่าชื่อคนอีสานฝั่งใกล้ประเทศลาวมีชื่ออะไรบ้าง เจอชื่อลออจันทร์ เพราะดีนะ เลยเลือกชื่อนี้ครับ
3 เล่มในดวงใจของ ‘ซ่อนกลิ่น’
- สามก๊ก เขียนโดย ‘ยาขอบ’ และเจ้าพระยาพระคลัง (หน)
เป็นเรื่องแรกที่ชักนำสู่การเป็นนักอ่าน
- เวลาในขวดแก้ว เขียนโดย ประภัสสร เสวิกุล
เป็นการเปลี่ยนแนวการอ่านจากประวัติศาสตร์สู่นวนิยายครั้งแรก
- ปาฏิหาริย์บันทึกรัก The Notebook เขียนโดย นิโคลัส สปาร์กส์
เรื่องที่ซาบซึ้งตรึงใจ
เก้าแต้ม: ขวัญฤทัย
ความรู้สึกในการกลับมาเขียนภาคต่อของนิยายชุดที่โด่งดัง
ตอนที่คิดพล็อตยอมรับว่าค่อนข้างกดดัน เพราะเรานึกถึงผลงานภาคผ่านมา แต่พอได้ลงมือเขียนกลับรู้สึกสนุก เราได้เห็นตัวอย่างจากภาคแรกว่า พอถูกนำไปทำเป็นละครแล้ว เราอยากเพิ่มหรือเติมอะไรลงไปเพื่อให้สนุกมากขึ้น ตอนเขียนเลยค่อนข้างลื่นไหล แถมยังเป็นนิยายเล่มหนาที่สุดของตัวเองอีกด้วย ตัวละครแต่ละตัวตอนเขียนเหมือนมีชีวิตอยู่จริง และมีหลายฉากที่ตัวเองเขียนไปแล้วร้องไห้ด้วยความอิน
ลำดับเรื่องที่เปลี่ยนไปไม่เป็นอุปสรรคต่อการเขียน
ในชุดแรกพี่ ‘ณารา’ ประเดิมเขียนเล่มแรก ส่วนชุดนี้เราก็มานั่งตกลงกันว่าคุณ ‘ซ่อนกลิ่น’ รับหน้าที่เปิดเรื่องนะ เพราะเล่มแรกคือเล่มที่ยากที่สุด ต้องปูพื้นให้เข้าใจว่าแต่ละเล่มนั้นแนวทางจะเป็นยังไงต่อไป ส่วนตัวเองอยากอยู่เล่มกลางๆ หลังจากคุยกันกับน้อง ‘แพรณัฐ’ ก็ตกลงว่าเราจะเขียนเป็นลำดับที่ 2 ของชุด แม้ลำดับการเขียนจะต่างจากเดิม แต่ไม่เป็นอุปสรรคอะไร เพราะต่างคนก็รับผิดชอบในพาร์ตของตนอยู่แล้ว แค่มีปัญหาที่เราจะต้องเช็กไทม์ไลน์ให้ดีว่าตัวละครของแต่ละคนอยู่ใน พ.ศ. อะไร และต้องคิดต่อจากภาคแรกว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ เช่น เรื่องอายุของตัวละคร
ความท้าทายของโปรเจกต์นี้
การต้องเชื่อมต่อกับสิ่งที่เขียนไว้แล้ว อย่างเช่นในคุณชายพุฒิภัทรบรรยายว่าเป็นแบบนี้ๆ นะ ขวัญฤทัยจะมาเปลี่ยนข้อมูลก็ทำไม่ได้ หลายเหตุการณ์จึงต้องคิดเชื่อมโยงกัน เช่น เราอยากได้ฉากแบบนี้ ทว่าตัวละคร อายุ เวลา สัมพันธ์กันหรือเปล่า สามารถทำได้ไหม เราจึงต้องย้อนไปอ่านนิยายของตัวเองหลายครั้งเพื่อจะไม่ผิดพลาด
โมเมนต์ประทับใจของนักเขียนทั้ง 5 คน
พวกเราห้าคนคือเพื่อนสนิท เพราะทำงานมาด้วยกันหลายชุด รู้จังหวะ รู้นิสัยของแต่ละคน บรรยากาศการทำงานจึงเต็มไปด้วยความสนุก แต่ละคนแลกเปลี่ยนมุกกัน ช่วยอ่านนิยายและให้ความเห็นในช่วงที่เพื่อนติดขัดคิดไม่ออก อีกทั้งการร่วมงานกันเหมือนเป็นการเร่งสปีดให้เขียนงานเร็วขึ้นอีกด้วย
สิ่งที่แตกต่างจากภาคก่อนและอยากให้แฟนๆ ติดตาม
ตอนที่เขียนคุณชายพุฒิภัทร ฉากส่วนใหญ่อยู่ในโรงพยาบาล พอมาภาคใหม่นี้พระเอกเป็นหมอทหาร หลังจากได้คุยกับคุณหมอตัวจริงก็พบว่า มีมุมมองการทำงานที่ต่างกันมากทีเดียว เลยได้แรงบันดาลใจสำหรับฉากใหม่ๆ เล่มนี้จึงบู๊มากขึ้น มีฉากต่อสู้ ระเบิดภูเขาเผากระท่อมเยอะ แต่ก็สนุกไปอีกแบบเหมือนเราได้ผจญภัยไปด้วย ผลงานแต่ละเล่มในชุดดวงใจเทวพรหมฉีกแนวไม่ซ้ำกัน นักอ่านก็ได้อารมณ์หลากหลาย อย่างขวัญฤทัยเป็นแนวคู่กัด นางเอกห้าว พระเอกแมน ทะเลาะกันตั้งแต่ต้นเรื่อง
และเร็วๆ นี้มีแผนจะเขียนเรื่องของ ‘ก้องภพ’ ตัวละครหนึ่งในขวัญฤทัย ฝากติดตามด้วยนะคะ
3 เล่มในดวงใจของ ‘เก้าแต้ม’
- สูตรเสน่หา เขียนโดย ‘กิ่งฉัตร’
- เล่ห์ลูกไม้ French Silk เขียนโดย แซนดร้า บราวน์
- รอยไหม เขียนโดย ‘พงศกร’
ณารา: ดุจอัปสร
พี่ใหญ่ผู้ริเริ่มโปรเจกต์ภาคต่อ
หลังจากละครคุณชายจุฑาเทพจบลง ทุกคนก็เห็นว่าละครประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แฟนละครหลายคนอยากดูต่อ ในช่วงเวลานั้นจำได้เลยว่า ชื่อคุณชายทั้งห้าเป็นไวรัล คนนิยมนำไปตั้งชื่อลูก รู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง พอละครจบลง เราถามความคิดเห็นน้องๆ ที่เขียนร่วมกันว่า อยากเขียนภาคต่อไหม ทุกคนตอบว่าอยากเขียน แม้แต่น้อง ‘ร่มแก้ว’ ซึ่งต้องไปเรียนที่อิตาลี ก็พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อเขียนชุดต่อจากคุณชาย ดังนั้นนิยาย 4 เล่มแรกจึงออกมาก่อน และเล่มสุดท้ายตามมาภายหลัง พี่ๆ ทั้ง 4 คนก็ช่วยเหลือน้อง ‘ร่มแก้ว’ จนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทั้งนี้เป็นเพราะพวกเราอยากให้เกิดปรากฏการณ์ฟีเวอร์รักรุ่นลูกของคุณชายให้เหมือนกับที่รักรุ่นพ่อเช่นกันค่ะ
ระดมสมองเพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาด
เรามีการคุยพล็อตของแต่ละคู่ก่อน ห้าเรื่องจะเขียนออกไปในแนวไหน ‘ซ่อนกลิ่น’ ชอบแนวบู๊สไตล์เพชรพระอุมาเป็นทุนเดิม เลยตั้งใจเขียนไปทางนั้น ‘เก้าแต้ม’ อยากได้นางเอกแก่นๆ ‘แพรณัฐ’ อยากเขียนเกี่ยวกับเด็ก ส่วนตัวเองอยากเขียนภาคต่อของตัวละครวิไลรัมภา เพราะตอนที่ดูละครก็คิดไปล่วงหน้าแล้วว่า วิไลรัมภาไม่มีวันปล่อยให้ครอบครัวจุฑาเทพมีความสุขแน่ถ้าตัวเองไม่มีความสุข ส่วน ‘ร่มแก้ว’ อยากเขียนไพรัชนิยาย เพราะเธอกำลังไปเรียนที่อิตาลีช่วงนั้น ต่างคนต่างก็มีจุดมุ่งหมายชัดเจน
จากนั้นเราคุยกันต่อว่า ตัวละครไหนยืมใช้กันได้ และตัวไหนที่สามารถเชื่อม 5 เรื่องเข้าด้วยกันได้ ช่วงไหนที่เกี่ยวข้องกับตัวละครของใคร ก็จะแจ้งไปในกลุ่มค่ะ เราคุยกันเยอะมาก วางผังตัวละคร วางเส้นเรื่อง เวลาที่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดในการเดินเรื่อง
จาก คุณชายธราธร เล่มเปิดเรื่อง สู่การเปลี่ยนเป็นลำดับที่ 4 ในดุจอัปสร
ที่เลือกเป็นเล่มที่ 4 ก็เพราะเบื่อจะเป็นเล่มแรกแล้วค่ะ (หัวเราะ) เราเขียนร่วมกับน้องๆ มาสามชุด เราเป็นเล่มแรกตลอด ก็อยากเปลี่ยนบ้าง แต่จำไม่ได้ว่าจับฉลากหรือสมัครใจ (หัวเราะ) ที่จำได้คือแนะนำให้ ‘ซ่อนกลิ่น’ เปิดเรื่องคนแรก เนื่องจากละครคุณชายรัชชานนท์มีเรตติ้งสูงสุดในชุด และมีคนชื่นชอบมาก เมื่อส่งไม้ต่อก็อยากเปิดตัวแบบปังปุริเย่เลย
ยุคสมัยในเรื่องที่ใกล้ตัวผู้เขียน
ภาคนี้เกิดขึ้นในสมัยที่นักเขียนหลายท่านกำลังเป็นวัยสะรุ่น เลยมีการนำเหตุการณ์สำคัญๆ มาใช้อย่างในดุจอัปสรคือช่วงพฤษภาทมิฬ เป็นตอนที่ตัวเองเริ่มทำงานบริษัทใหม่ๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับนางเอก การเขียนภาคต่อนี้จึงทำงานง่ายกว่าเดิมในด้านข้อมูล ไม่ต้องค้นคว้าเท่าภาคแรก
ธีมเรื่องและที่มาของดุจอัปสร
พล็อตหลักคือคุณชายทั้ง 5 ไม่มีใครได้แต่งงานกับตระกูลเทวพรหมสักคน พอได้มาเขียนชุดที่สอง เราเลยเสนอน้องๆ ว่า มาทำให้ลูกชายของคุณชายได้ทำตามสัญญาแต่งงานกับเทวพรหมกัน แต่น้องๆ ก็ห่วงว่า ลูกของคุณชายเทวพันธ์มีแค่สามคน และมีหลานกระถินอีกคน มันจะจำกัดเราไปหรือเปล่า เราก็บอกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกของคุณชายเทวพันธ์หรอก ใครก็ได้ แต่พอมาเฉลยทีหลัง อ้าว สายตระกูลเทวพรหมนี่หว่า พอได้ข้อสรุปเช่นนี้ ทุกคนก็โอเค ไม่มีข้อจำกัดในการวางแผนผังครอบครัวของตัวนางเอกแล้ว
ส่วนชื่อตอนนั้น เริ่มจากคุณ ‘ซ่อนกลิ่น’ เลยค่ะ พอแกตั้งมาแล้ว เล่มต่อมาคนเขียนก็ต้องตั้งให้คล้องจองกับเล่มก่อนหน้า ของเราค่อนข้างคิดยาก เพราะเล่มก่อนหน้าลงท้ายด้วยพิสุทธิ์ มันจะเป็นอื่นใดไม่ได้เลย นอกจาก ‘ดุจอัปสร’ เหมือนนางฟ้า นางเอกเรื่องนี้จึงจำเป็นต้องสวยมาก เพราะชื่อเป็นเหตุค่ะ
หนังสือ 3 เล่มในดวงใจ
- คู่กรรม เขียนโดย ‘ทมยันตี’
- เครื่องแบบสีขาว เขียนโดย ‘ศรีฟ้า ลดาวัลย์’
- วิมานมะพร้าว เขียนโดย ‘แก้วเก้า