ควางเหิง เมื่ออายุยังน้อยนั้น ใฝ่ใจในการศึกษา เสียดายว่าฐานะยากจนย่ำแย่ แค่จะซื้อเทียนสักเล่มก็ไม่มีเงิน พอถึงยามค่ำคืน ทั้งบ้านจึงมีแต่ความมืดมิด ควางเหิงจะอ่านตำราก็จนปัญญาเพราะไม่มีแสงไฟ
ควางเหิงเห็นบ้านที่อยู่ติดกันจุดเทียนสว่างไสว จึงใช้ความพยายามเจาะผนังบ้านเป็นรูพอให้แสงเล็ดลอดเข้ามาได้ จากนั้นจึงหยิบตำราเข้าไปใกล้ๆ อาศัยแสงสว่างเพียงเล็กน้อยนี้ คร่ำเคร่งอ่านตำราจนกว่าข้างบ้านจะดับเทียนลง
ในตำบลที่ควางเหิงอาศัยอยู่ มีทายาทตระกูลใหญ่ผู้หนึ่งซึ่งฐานะร่ำรวยแต่อ่านหนังสือไม่ออก ภายในคฤหาสน์หลังงามมีหนังสือเก็บสะสมจากบรรพบุรุษเป็นจำนวนมาก
ควางเหิงไปสมัครเป็นคนรับใช้ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทำงานอย่างแข็งขัน แต่ไม่ขอรับค่าตอบแทน เจ้าของบ้านแปลกใจมาก จึงเรียกตัวมาสอบถามความประสงค์
ควางเหิงตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ผู้น้อยหวังเพียงมีโอกาสอ่านหนังสือในบ้านท่านให้หมดทุกเล่ม ก็พอใจแล้ว”
เจ้าของบ้านฟังแล้วสะเทือนใจ จึงอนุญาตให้ยืมหนังสือไปอ่านตามความปรารถนา
(เรียบเรียงจาก “ซีจิงจ๋าจี้”บันทึกโดย เก่อหง ยุคราชวงศ์จิ้นตะวันออก)
ในภายหลัง ควางเหิงผู้นี้ กลายเป็นนักวิชาการซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือ มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษใน “คัมภีร์กวีนิพนธ์” (ซือจิง) ของปรมาจารย์ขงจื๊อ นอกจากนี้ยังเจริญเติบโตในตำแหน่งราชการ ได้เป็นถึงอัครมหาเสนาบดี (เทียบเท่านายกรัฐมนตรี) ในรัชสมัยของกษัตริย์ฮั่นหยวนตี้ (ก่อน ค.ศ.48 – ก่อน ค.ศ.33) แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก
คาดว่า ทายาทตระกูลใหญ่ผู้นั้น ก็ยังคงเป็นใหญ่อยู่ในคฤหาสน์หลังเดิมไม่เปลี่ยนแปลงก้าวหน้าไปไหน เพราะไม่มีวิชาความรู้ติดตัว อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ อาศัยแต่ทรัพย์สินที่บรรพชนสะสมไว้เป็นเครื่องเลี้ยงชีพไปวันๆ
น่าคิดอยู่เหมือนกันว่า ทำไมคนที่ไม่มีความพร้อมใดๆ กลับก้าวไกลไปสู่ความสำเร็จ ในขณะที่คนซึ่งมีความพร้อมมากกว่ายังย่ำเท้าอยู่ที่เดิม
ไม่ใช่เพียงตัวอย่างยุคโบราณ ปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้พบเห็นทั่วไป ลูกหลานคนร่ำรวยไม่เอาถ่าน จ้องล้างผลาญพ่อแม่ แต่บุตรหลานผู้ยากไร้ ตั้งใจเล่าเรียนจนมีอนาคตที่งดงาม
บางครั้ง ความยากจนก็เป็นลาภอันประเสริฐ หากเรารู้จักใช้ “ความยากจน” ให้เป็นคุณต่อตัวเอง
ผมเคยผ่านชีวิตที่ยากจน ขัดสนขาดแคลนไปเสียทุกอย่าง แต่ท่ามกลางความลำบากยากเข็ญ ผมมองเห็นคุณูปการจำนวนมากจากความยากจน
ผมพบ “มิตรแท้” ในช่วงเวลาที่ทุกขยาก เพราะความยากจนช่วยคัดแยกคนไม่จริงใจ ให้ห่างไกลออกไปโดยอัตโนมัติ
ผมเรียนรู้วีที่จะมีความสุขอย่างเรียบง่าย เพราะชีวิตที่ยากไร้ ไม่อนุญาตให้เราแสวงหาความสุขที่ซับซ้อน และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
ผมใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเพือย เพราะประสบการณ์ในอดีต ติดตาเตือนใจ สอนให้เราดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบระมัดระวัง
ผมเกิดแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกๆ วันดียิ่งขึ้น เพื่อเอาชนะความยากจน และถ้อยคำเหยียดหยามดูแคลนที่เคยได้รับมาในอดีต
ขอบคุณความขัดสน ที่ช่วยให้ผมและผู้คนซึ่งไม่ยอมจำนวนต่อโชคชะตา
มีวันนี้ที่ดีกว่าเมื่อวาน!
คอลัมน์: คารมคมความคิด
เรื่อง: ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม
ภาพ: พีระ ธรนิตยกุล