เคยคิดไหมว่าในชั่วโมงสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหลุดปลิว เราจะถามตัวเองไหมว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราทำอะไรที่เป็นแก่นสารและหรือมีคุณค่าบ้าง
เราจะตอบตัวเองว่าอย่างไร?
คำถามคือ “Do I Matter?”
matter แปลได้หลายความหมาย ถ้าเป็นคำนาม หมายถึง สสาร หรือเรื่อง หรือสาระ
ถ้าเป็นกริยาหมายถึง มีความสำคัญ
Do I Matter?
ฉันมีความสำคัญไหม?
คำว่า ‘สำคัญ’ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่า เป็นบุคคลสำคัญของโลก หรือกระทำเรื่องยิ่งใหญ่ในชาติ ประเภทที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ แต่หมายความว่าง่ายๆ ว่า เรามีค่าสมควรอยู่ในโลก
I Matter คือการที่โลกมีเราดีกว่าไม่มี
เราไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียง หรือร่ำรวย หรือมีคุณสมบัติพิเศษกว่าคนอื่น เราก็สามารถเป็นคนที่ ‘matter’ ได้
เรา matter ต่อคนที่รักเรา ต่อครอบครัวของเรา ต่อชุมชนของเราได้
เราทำอาชีพสุจริตที่เป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ขับเคลื่อนประเทศ
อะไรทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น นอกจากหน้าตา นิสัย
เรามอบความสุขให้คนอื่น หรือชี้ทางไปสู่ความสุขให้คนอื่น
เราพูดน้อย ไม่พูดส่งเดช แต่คำพูดมีค่า คนอื่นรับฟัง เพราะเรา “matter”
มันอาจไม่เปลี่ยนโลก แต่มันอาจจุดประกายให้ ณ จุดใดจุดหนึ่งในอนาคต มีการเปลี่ยนโลก
เราไม่ต้องมีไอคิวระดับไอน์สไตน์ แต่คิดเป็น วิเคราะห์เป็น รู้ผิดรู้ถูก
เราไม่ได้ทำเรื่องใหญ่โตแบบเย้ยฟ้าท้ายุทธจักร คุณทำเรื่องเล็กๆ ธรรมดา ที่เป็นส่วนหนึ่งที่เกิดการเย้ยฟ้าท้ายุทธจักร
โลกทุกวันนี้หาคนที่ “matter” ยากขึ้น เพราะคนจำนวนมากคิดว่าตัวเอง “matter” แต่พฤติกรรมไม่ใช่ เช่น คดโกงคนอื่น คอร์รัปชั่น หรือวันๆ กินข้าวอิ่มก็หาเรื่องด่าคนอื่นเล่น
วันนี้ยังไม่ใช่วันสุดท้ายของชีวิตเรา เราอาจจะอยู่ในโลกนี้อีกหนึ่งปี ห้าปี สิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี เรายังมีโอกาสที่เมื่อวันสุดท้ายมาถึง สามารถบอกตัวเองได้ว่า “Yes. I matter.”
คอลัมน์: ลมหายใจ
เรื่องและภาพ: วินทร์ เลียววาริณ
winbookclub.com
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/