“คนเข้มแข็ง ไม่ใช่คน ที่ ล้มไม่ได้
แต่คือคนที่ล้มแล้ว ลุกขึ้นมาสู้ใหม่
ด้วยหัวใจ ที่แกร่งกล้า มากกว่าเดิม”
จตุพล ชมภูนิช
คนที่แข็งแกร่งที่สุด ก็เคยอ่อนแอ คนแข็งแรงที่สุด ก็เคยล้ม
ชัยชนะเขาไม่ได้วัดการที่ ไม่เคยล้มเลย แต่วัดกันที่ ทุกครั้งที่ ลุกขึ้นมาสู้ใหม่
หลังจากที่ล้มลงไป ต่างหาก เพราะทุกครั้งที่ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ เกมก็ยังไม่จบ
การใช้ชีวิต ก็เหมือนล่องเรือออกไปกลางทะเล บางครั้งคลื่นลมก็สงบเงียบเป็นใจ ทุกอย่าง
เหมือนไม่มีอุปสรรคใดๆ แต่ใครจะเห็นว่า คลื่นใต้น้ำกำลังมา
บางวันเช้า แสงแดดจ้า พอบ่ายฟ้าครึ้มฝนตั้งเค้า พายุก่อตัวอยู่ตรงขอบฟ้า
จะกลับฝั่งก็ไม่ทัน ก็ได้แต่หันหน้าเข้าเผชิญคลื่นยักษ์ที่โหมหนักเรือแทบอับปาง
แม้เตรียมตัวเตรียมใจ แต่ก็อาจจะตั้งรับแทบไม่ไหว เพราะบางครั้งมันร้ายแรง ถึงขนาดต้องเสียเรือไป
เหลือไว้แต่ชีวิตลอยคอกลางทะเล
เปรียบดังมหันตภัยโรคโควิด ที่คร่าชีวิตชาวโลกนับ 10 ล้านคน แล้วปล้นเอางาน เอาทรัพย์สินเงินทอง
ทำให้คนทุกข์ยากลำบากนับไม่ถ้วน
แล้วถามว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ เราต้องยอมแพ้ใช่ไหม
คลื่นยักษ์ที่โถมเข้าใส่ จนทำให้เรือ แตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ ผู้คนจมน้ำสูญหาย
ที่รอดก็เกาะเศษไม้ลอยคอ อย่างไร้จุดหมายอยู่กลางทะเล
คำตอบมีอยู่ในใจ ของคนที่ยังมีลมหายใจอยู่ทุกคน
ถ้าคิดว่าแพ้ ก็แพ้พ่าย แต่ถ้าคิดว่าจะไม่ยอมแพ้ เมื่อไร ใครก็เอาชนะได้ยาก
วันนี้แม้ดูเหมือนว่า คลื่นลม เบาบางกว่าแต่ก่อน แต่ท้องทะเล ก็ยังมีคลื่นเล็กใหญ่สลับกันไปมา
ไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้ หรือวันข้างหน้าจะเกิดอะไร
รู้แต่ว่าเราจะอยู่ และสู้ต่อไป เพราะเราจะเห็นรอยยิ้มอันสดใส บนใบหน้าของคนหลายคน
“บางครั้ง ยิ้ม บนใบหน้า ไม่ได้หมายความว่า
มีความสุขสบาย แต่เป็นเครื่องหมาย
ว่าชีวิตยังมีความหวัง และจะยังสู้ต่อไป”
นับเวลาเป็นปีๆ ที่ทุกข์ครั้งนี้ ยังไม่คลี่คลาย แต่ที่หลายคน ยังคงยิ้มออกมาได้ เพราะยังมี
ความหวังว่า วันหน้าฟ้าใหม่ อะไรย่อมจะดีกว่าเดิม
หลายคนใช้วิธี
“ยอมรับ เรียนรู้ และ พยายามอยู่กับมันให้ได้”
ยอมรับ ว่า เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาเจอกันทั้งโลก ตั้งแต่ซ้ายไปขวา บนลงล่าง รวยจน
ทุกคนโดนผลกระทบกันถ้วนหน้า
ยอมรับว่า มันเกินขึ้นแล้ว และมันยังคงอยู่ ขจัดยังไม่ได้ และยังไม่รู้จะอยู่อีกนานแค่ไหน
เรียนรู้ วิธีจะปรับตัว ปรับใจ ปรับชีวิต ปรับวิถีการทำงาน ให้สอดคล้องกับมันต่อไป
และถ้ามันยังไม่หายไปไหน ก็จะ อยู่กับมัน แบบไม่ให้มันทำร้ายเราได้ อยู่แบบเข้าใจ
ไม่โทษอะไร จนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
แน่นอนว่า ยามวิกฤติของชีวิต อาจแย่งชิงความสุข ความปกติของชีวิตเราไป มันอาจ
จะเอาบ้าน รถ ทรัพย์สินเงินทองที่ เราสะสมไว้หายไปด้วย บางทีมันก็เอางาน เอาธุรกิจ
ที่เราสร้างมากับมือเป็นสิบๆ ปี หายไปในพริบตา
แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าวันนี้เรายังมีลมหายใจอยู่ เราสามารถเอาสิ่ง ที่ โควิด แย่งชิงเราไป
กลับมา ให้มากกว่าเดิมอีกเท่าไร ก็ได้
ไม่ว่ามันจะร้ายกาจอย่างไร มันเอาสมอง เอาความสามารถ ความชำนาญ เอาความ
เก่งกล้า และที่สำคัญ เอาหัวใจยอดนักสู้จากเราไปไม่ได้แน่นอน
ท้อได้แต่ไม่ถอย ถอยได้แต่ไม่ทิ้ง
อย่ายอมแพ้แก่โชคชะตา
แด่ผู้กล้า
ขอให้ หัวใจนักสู้จงอยู่กับทุกคน
คอลัมน์: ก้าวไกลไปข้างหน้า
เรื่อง: จตุพล ชมภูนิช
ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์