ดีท็อกซ์
หมอสันต์บอกวิธีดีท็อกซ์ อ่านให้ดีนะ
วันนี้ผมจะรวบยอดตอบคำถามเรื่องดีท็อกซ์ ทั้งด้วยวิธีดั้งเดิมคือสวนทวาร หรือวิธีใหม่คือฉีดสารอีดีทีเอบ้าง วิตามินซีบ้าง เข้าหลอดเลือดดำ ว่าไม่ปรากฏหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัดใดๆว่าวิธีเหล่านั้นจะมีประโยชน์อะไร ยกตัวอย่างเช่นการฉีดวิตามินซีเพื่อให้ผิวผุดผาดบ้าง เพื่อขับแคลเซียมออกจากหลอดเลือดบ้าง ยังไม่เคยมีหลักฐานวิจัยแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบเลยสักชิ้นเดียวว่ามันจะได้ผลจริง การฉีด EDTA ทุกเดือนเพื่อล้างแคลเซียมจากหลอดเลือดก็เหมือนกัน เคยมีงานวิจัยแบบสุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบตีพิมพ์ไว้ในวารสาร JAMA (The Journal of the American Medical Association) แล้วซึ่งสรุปผลอย่างได้ชัดแล้วว่า EDTA ไม่สามารถล้างหลอดเลือดเพื่อลดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ ส่วนการฉีดเพื่อเอาโลหะหนักออกจากร่างกายนั้น เขาจะทำกันก็ต่อเมื่อป่วยเป็นโรคพิษจากโลหะหนักเท่านั้น เพราะ EDTA เป็นสารพิษโดยตัวของมันเองอยู่แล้ว มีรายงานว่ามันทำให้ปวดแสบร้อนตรงที่ฉีด น้ำตาลในเลือดต่ำ ความดันตกฮวบฮาบ ไตวาย อวัยวะเสียหาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชัก และตายได้
การล้างพิษหรือ detox นั้นเป็นวลีเด็ดสำหรับการขายของ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ร่างกายเขาทำของเขาเองอยู่แล้ว โดยอาศัยอวัยวะขับพิษทั้ง 6 คือ ตับ ไต ปอด ลำไส้ใหญ่ ต่อมเหงื่อที่ผิวหนัง และน้ำเหลือง ถ้าท่านอยากจะล้างพิษ ผมแนะนำให้ท่านช่วยให้อวัยวะทั้งหกทำงานได้ดีขึ้นดังนี้
1.ท่านช่วยตับของท่านได้ ด้วยการกินอาหารซึ่งตับต้องใช้ในการขจัดพิษ ที่เรียกว่าสารต้านอนุมูลอิสระนั่นแหละ ได้แก่ พืชหลากสี (เน้นสีม่วงแดง) หลากรส (เน้นรสขม) ตามฤดูกาล (เน้นเห็ด) และเน้นขมิ้นชันในภาพรวมว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่โดดเด่น นอกจากนี้ควรขยันออกแดดเพื่อให้ไมโตคอนเดรียในเซลล์ร่างกายของท่านทุกเซลล์ช่วยกันสร้างสารต้านอนุมูลอิสระชื่อเมลาโทนินขึ้นเพื่อช่วยการทำงานของตับ
2.ท่านช่วยไตของท่านได้ ด้วยการระวังไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ กินเกลือให้น้อย กินยาให้น้อยที่สุด ไม่กินยาที่ทำให้เป็นโรคไตเรื้อรังโดยตรง เช่น ยาลดการหลั่งกรด (เช่น omeprazole) ยาแก้ปวดแก้อักเสบข้อ และอย่าฉีดสีเพื่อวินิจฉัยโรคบ่อยโดยไม่จำเป็น เพราะสีเหล่านั้นเป็นพิษแก่ไตมาก
3.ท่านช่วยปอดของท่านได้ด้วยการฝึกหายใจให้ลึก ฝึกกลั้นหายใจนิดหนึ่งขณะลมเต็มปอด ฝึกหายใจออกให้ยาวกว่าการหายใจเข้าเพื่อเอาลมค้างออกมาให้มากที่สุด ใช้วิธีนับ 4-4-8 อย่างที่ผมเคยสอนในบล็อกก่อนๆ ก็ได้ (เข้า 1 2 3 4, กลั้นไว้ 1 2 3 4, ออก 1 2 3 4 5 6 7 8 ) และขยันพาตัวเองไปอยู่ในบรรยากาศธรรมชาติอากาศดีๆ
4.ท่านช่วยลำไส้ใหญ่ของท่านได้ด้วยการเอาใจใส่เลี้ยงดูชุมชนจุลินทรีย์ (microbiome) ในลำไส้ให้เจริญเติบโตหลากหลาย เพราะพวกเขาเป็นผู้ขับพิษที่แท้จริง วิธีเลี้ยงก็คือกินของที่พวกเขาใช้เป็นอาหาร (prebiotic) เช่นกากหรือ และถั่วต่างๆ และขยันกินอาหารที่มีจุลินทรีย์ (probiotic) เช่นอาหารหมัก ดอง ชาหมัก
5.ท่านช่วยต่อมเหงื่อบนผิวหนังของท่านได้ด้วยการขยันออกกำลังกายให้เหงื่อออกมากๆ ขณะเดียวกันก็ดื่มน้ำตามไม่ให้ขาด ถ้ามีซาวน่าก็ขยันอบซาวน่าให้เหงื่อไหลโทรมกาย
6.ท่านช่วยระบบน้ำเหลืองของท่านได้ด้วยการขยันขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว อย่างน้อยให้ขยันเดินทั้งวัน วิ่งเหยาะๆ บ้างเมื่อมีโอกาส เพราะการขยับแขนขาเป็นปัจจัยเดียวที่จะขับเคลื่อนการไหลเวียนของน้ำเหลืองและเอาของเสียไปทิ้งได้
วิธีทั้งหกอย่างนี่แหละ เป็นการดีท็อกซ์ที่ได้ผลดีชะงัดและปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องไปเสียเงินฉีดอะไรที่เสี่ยงๆ เข้าตัวเองทุกเดือนเลย
คอลัมน์ : สุขภาพ เรื่อง : นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
All Magazine ตุลาคม 2565