ร่ายรำไปตามโลก

-

ยามเมื่อมีพายุร้าย ต้นไม้ที่อ่อนลู่ไปตามลม อยู่ต่อไปได้

แต่ต้นไม้ที่ตั้งตรงแข็งขืนเกินไป อาจโค่นล้มลงได้อีกไม่นาน

นั่นคือที่มาของวิวัฒนาการของโลก การปรับตัว การปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์แห่งยุคสมัย ทำให้เราเอาตัวรอดเพื่อดำรงอยู่ได้ต่อไป

ในเมื่อยุคสมัยนั้น เปลี่ยนผัน ไม่เหมือนวันก่อนเก่า ตัวเราก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้าสิ่งที่เปลี่ยนไป

ดูอย่างแฟชั่น ก็เปลี่ยนผันไปตามยุคสมัย เมื่อก่อนนิยมเสื้อหลวมๆ ใส่สบาย แล้วก็มาใส่เสื้อคับๆ

อีกไม่นานก็กลับไปใส่เสื้อหลวมๆ อีก

หรือทรงกางเกงของผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ มีอยู่ยุคหนึ่ง นิยมใส่ขาบานมากๆ หรือเรียกว่ากางเกงทรงมอส ยุคนั้นใครใส่ขากางเกงไม่บาน ถือว่าล้าสมัย

ปัจจุบันแทบจะไม่มีใครใส่ขาบานกันแล้ว เดี๋ยวนี้เขาใส่ทรงกระบอก หรือไม่ก็เลคกิ้ง ขาเดฟทรงขาเล็กๆ กันหมด

และต่อไป ก็อาจจะมีแฟชั่นขาบาน กลับมาให้ใส่อีกก็ได้ เขาใส่เราก็ใส่ จะได้ in trend

หรือดูอย่างเรื่องเพศ ในยุคก่อนๆ จะยอมรับกันแค่ 2 เพศ คือ ชายหรือหญิง เท่านั้น แต่ปัจจุบัน ทุกอย่างเปลี่ยนไป เพราะมีเพศทางเลือก เกิดขึ้นมามากมาย ใครจะเลือกรสนิยมทางเพศแบบใด ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล

เมื่อก่อน การล้อเลียนเพศทางเลือก ดูเป็นเรื่องน่าขำขัน และไม่มีใครถือสา

แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน ใครล้อเลียนเรื่องนี้ กลับกลายไม่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง เพราะโลกปัจจุบันได้เปลี่ยนไป

ไม่ใช่แค่เรื่องเพศเท่านั้น แม้แต่ทาง เรื่องกายภาพ ในปัจจุบันนี้ ก็มีการต่อต้านคนที่ชอบบูลลี่เรื่องนี้กันมากขึ้น

เช่นเรื่อง อ้วน ผอม ดำคล้ำ สูงต่ำ ตาเหล่ ขาเป๋

เมื่อก่อน การล้อเลียน สิ่งเหล่านี้ ถือเป็น เรื่องตลกขบขัน ถือเป็นเรื่องสามัญ ธรรมดา

แต่ปัจจุบันนี้ คนรับการตลกล้อเลียนสิ่งเหล่านี้น้อยลง ยิ่งลงในโซเชียลมีเดียในวงกว้างยิ่งได้รับการต่อต้านอย่างกว้างขวาง จะมีก็แต่ในวงแคบๆ เช่น ในหมู่เพื่อนพ้องด้วยกัน เท่านั้น

            เมื่อโลกหมุนไป เราก็ต้องปรับเปลี่ยน หมุนเวียนไปตามโลก อะไรที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็ทิ้งไปจะได้อยู่กับโลกต่อไปได้อย่างมีความสุข

เหมือนต้นไม้เวลาเติบใหญ่ ก็ย่อมต้องมีการผลัดใบ เพื่อจะมีใบใหม่ออกมาแทน

          คนที่คิดยึดแต่อดีต ไม่ยอมคิดจะเปลี่ยนแปลง เมื่อโลกเปลี่ยนไป ก็จะยิ่งหงุดหงิดใจ เพราะอะไรๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด

ชีวิตอาจไม่ได้เปิดเพลงในจังหวะที่เราชอบได้ตลอดไป แทนที่จะรู้สึกไม่ดีกับเพลงที่เราไม่ชอบใจ สู้เรียนรู้ ยอมรับกับเพลงใหม่ แล้วเต้นรำไปตามเสียงเพลง

          โลกนี้ ไม่ได้มีทุกอย่างได้อย่างใจ แต่ก็มีวิธีอยู่กับโลกนี้ ให้มีความสุขต่อไปได้ด้วยการ

1.ปรับเปลี่ยนสิ่งที่ไม่พอใจ

อะไรที่ปรับได้ให้ปรับเปลี่ยน เช่น อยู่กับคนที่ Toxic เป็นเพื่อนกัน ก็เลิกคบหา แล้วหาเพื่อนใหม่ที่เป็นกัลยาณมิตร

2.เปลี่ยนไม่ได้ให้ออกห่าง

อะไรที่เปลี่ยนไม่ได้ ยังไงก็ยังอยู่หรือยังต้องเจอ ก็ให้ออกห่างออกมา เช่น ไม่เข้าไปคบหาเสวนา หรืออย่าให้สิ่งนั้นส่งผลกับเรา เกินจำเป็น

3.ถ้าเปลี่ยนก็ไม่ได้ ห่างก็ไม่ดี ให้ปรับที่ใจ

เช่นในกรณีที่ต้องอยู่บ้านเดียวกัน ทำงานที่เดียวกัน หลบไม่ได้หนีไม่พ้น ก็ปรับที่ใจ ยอมรับ เรียนรู้และอยู่ให้ได้

ฝนที่ตกจากฟ้าไม่ได้น่ากลัวเสมอไป เพราะตอนเด็กๆ หลายคนก็เคยเล่นน้ำฝนอย่างสนุกสนานชื่นฉ่ำใจ

แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่ หลายคนอาจจะกลัวเปียก กลัวไม่สบาย กลัวคนอื่นเห็นจะคิดยังไง ที่โตเป็นผู้ใหญ่ แล้วทำไมยังเล่นน้ำฝน เหมือนกับเด็กๆ

สถานการณ์เดียวกัน เวลาเป็นเด็กๆ กับเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ทำไมเราคิดต่างกัน

ชีวิตขึ้นอยู่กับเรา เมื่อฝนตกลงมา จะนั่งจับเจ่า รอฝนหมดจากฟ้า หรือ จะออกมาเต้นรำกลางสายฝน

เมื่อโลกส่งจังหวะเพลงเต้นรำมา อย่ามัวรอช้า ลุกขึ้น เต้นรำไปกับโลก


คอลัมน์: ก้าวไกลไปข้างหน้า เรื่อง: จตุพล ชมภูนิช ภาพ: ขวัญญาณี ศิรธนอนันต์

All Creative Team

Writer

ร่วมสร้างสังคมอุดมปัญญา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

RELATED POSTRELATED
Recommended to you

error: Don\'t copy !!!