ดั๊ก เราช์ (Doug Rauch) เคยเป็นประธานบริษัท Trader Joe’s ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตในอเมริกาที่มีสาขามากถึง 500 สาขา
ในปี 2015 ดั๊กขณะมีอายุ 50 กว่าตัดสินใจลาออกเพื่อมาทำสิ่งที่เขาเห็นว่าท้าทายและมีคุณค่ามากกว่า
ดั๊กพบว่า 1 ใน 6 ของคนอเมริกันนั้นกินข้าวไม่อิ่มท้อง ซึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอย่างสหรัฐอเมริกา เมื่อได้ศึกษามากขึ้นดั๊กจึงพบว่าปัญหาไม่ใช่เรื่องมีอาหารไม่พอกิน แต่คนที่ฐานะยากจนนั้นสามารถซื้อกินได้แต่ของถูกๆ จึงมักจำใจต้องกินอาหารขยะหรือ junk food นั่นเอง
ในอีกมุมหนึ่ง อาหารเหลือทิ้งหรือ food waste นั้นก็เป็นปัญหาใหญ่ อาหารอย่างน้อยร้อยละ 30 ที่ผลิตขึ้นมาในอเมริกานั้นไม่ได้ไปถึงปากท้องของประชาชน แต่โดนส่งไปที่กองขยะหรือไม่ก็ถูกนำไปถมที่ เศษอาหารเหล่านี้จะปล่อยก๊าซมีเธน (methane) ออกมาและสร้างสภาวะเรือนกระจกมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 20 เท่า ถ้าพิจารณาอาหารเหลือทิ้งในแง่นี้ อเมริกาก็จะเป็นรองแค่จีนในฐานะประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้อาหารเหลือทิ้งส่วนใหญ่ยังไม่ใช่อาหารที่เน่าเสียด้วย บางทีก็เป็นแค่แครอทที่หน้าตาไม่สวยงามและโดนคัดทิ้งก่อนบรรจุลงกล่อง หรืออาหารกระป๋องที่ยังเก็บได้อีก 4 เดือนก่อนจะหมดอายุ แต่ก็ไม่มีซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าไหนยอมซื้อไปขาย
แม้ว่าในอเมริกาจะมีโครงการอย่าง Food Stamp ซึ่งช่วยสงเคราะห์ค่าอาหารให้แก่คนที่ฐานะยากจน แต่มากกว่า 1 ใน 3 ของคนที่ใช้ฟู้ดแสตมป์ก็ยอมรับว่าพวกเขารู้สึกอับอายที่ต้องใช้ฟู้ดสแตมป์เวลาจ่ายเงินในซูเปอร์มาร์เก็ต
“เป้าหมายของผมคือการสร้างร้านขายของชำในราคาที่พวกเขาจับจ่ายได้โดยไม่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย” ดั๊กกล่าว
ดั๊กจึงก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรชื่อ Daily Table ที่รับซื้ออาหารเหลือทิ้งในราคาต่ำ แล้วนำมาขายต่อในราคายุติธรรม ประชาชนรายได้ต่ำจึงมีทางเลือกที่จะได้กินอาหารอันมีคุณค่าทางโภชนาการ สาขาแรกตั้งอยู่ในเมืองดอร์เชสเตอร์ (Dorchester) ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยของคนรายได้ต่ำ
และเนื่องจากกลุ่มเป้าหมายคือคนที่รับงานหลายจ๊อบเพื่อให้มีเงินเพียงพอมาจุนเจือครอบครัว พวกเขาจึงแทบไม่มีเวลาเข้าครัว เดลี่เทเบิ้ลจึงมีครัวเพื่อทำอาหารจังก์ฟู้ดปรุงสุกแต่ละวันในราคาที่สมน้ำสมเนื้อ
ในปี 2017 เดลี่เทเบิ้ลยังขาดทุนอยู่เดือนละ 1.5 ล้านบาท แต่ดั๊กเชื่อว่าเมื่อเปิดสาขาใหม่ๆ ต้นทุนการดำเนินงานโดยเฉลี่ยจะลดลงและสามารถตั้งหลักได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินบริจาค ณ ตอนนี้เดลี่เทเบิ้ลเปิดให้บริการแล้ว 3 สาขาและมีสมาชิกถึง 43,000 คน
นี่คือกรณีศึกษาของการนำความรอบรู้ทางธุรกิจมาแก้ปัญหาให้สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนครับ
คอลัมน์: มุมละไม
เรื่อง: อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์
ภาพ : https://dailytable.org/
เกี่ยวกับผู้เขียน: อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์ ผู้เขียนหนังสือ ช้างกูอยู่ไหน และ Thank God It’s Monday ขอบคุณโลกนี้ที่มีงานประจำ เจ้าของบล็อก Anontawong’s Musings และ Head of People ที่ LINE MAN Wongnai
ประวัติผู้เขียน
รูปของผู้เขียน