ไม่มีการ ‘ให้’ ใดยิ่งใหญ่กว่าการให้ ‘ความรู้’
สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกทุพพลภาพนั้น ย่อมมีต้นทุนที่ต้องจ่ายในการดูแลผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เขาสามารถช่วยเหลือตัวเอง และอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคม แม้จะมีภาครัฐและองค์กรต่างๆ คอยช่วยเหลือ แต่ก็ยังขาดการสนับสนุนอีกหลายด้าน ซึ่งพวกเขาต้องรับภาระในส่วนนี้เอง จะดีกว่าไหมหากครอบครัวของผู้พิการมีอาชีพที่สร้างรายได้เพิ่ม มีช่องทางทำมาหากินมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งส่งผลให้ทุกคนในครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรอยยิ้ม และคลายความทุกข์ต่างๆ ลงได้บ้าง
CP All เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมความรู้สร้างอาชีพ และอุปกรณ์ที่จะนำไปประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นการให้ที่ยั่งยืน จึงเกิดโครงการ ‘กาแฟสร้างสุขสร้างโอกาส ครั้งที่ 3’ นำโดย นายประสิทธิ์ ฉกาจธรรม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาความยั่งยืน พร้อมด้วยนางสาวณัฐธยาน์ ให้ศิริกุล ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานส่งเสริมกิจกรรมสังคม ร่วมกับบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด นำโดย นายชาญ ทันธะศิริ รองผู้จัดการทั่วไปด้านพัฒนาบุคลากร บจก.ซีพี รีเทลลิงค์ จัดบาริสต้าให้ความรู้วิธีการชงกาแฟ พร้อมส่งมอบเครื่องชงและเครื่องบดเมล็ดกาแฟ แก่นางนภารัตน์ รุ่งเรือง ประธานชมรมเพื่อคนพิการทางสติปัญญา จังหวัดนนทบุรี โดยมีหน่วยงานภาครัฐ-เอกชนที่เกี่ยวข้อง และคณะผู้บริหาร ร่วมงาน
อบรมการทำกาแฟภายในงานมีสมาชิกของชมรมเพื่อคนพิการทางสติปัญญา จังหวัดนนทบุรี ทั้งผู้ปกครองและบุตรหลานผู้พิการเข้าร่วมอย่างคึกคัก ณ เทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง มีบาริสต้าสอนตั้งแต่การรู้จักเมล็ดกาแฟ กรรมวิธีการทำแต่ละเมนู การจับเวลา รวมถึงการกะปริมาณที่เหมาะสมเพื่อความกลมกล่อมของรสชาติกาแฟ แบ่งสอนเป็นเมนูร้อนและเมนูเย็น จากนั้นให้สมาชิกที่เข้าร่วมลงสนามฝึกหัดจริงกับเครื่องทำกาแฟ ซึ่งเตรียมมาทั้งหมด 5 เครื่อง เพียงพอสำหรับสมาชิกทุกคนได้มีโอกาสลองทำ แม้จะทำถูกบ้างผิดบ้างเนื่องจากเป็นครั้งแรก แต่บรรดาแม่ๆ และผู้ปกครองก็ไม่ลดละ พยายามทำจนสำเร็จ ได้เครื่องดื่มจากฝีมือตัวเองไปจิบให้ชื่นใจ ส่วนบาริสต้าผู้ฝึกสอนก็สอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป การฝึกหัดจึงไร้ความกดดัน และเปี่ยมด้วยความสนุกสนาน
สำหรับเครื่องทำกาแฟ และเครื่องบดเมล็ดกาแฟซึ่ง CP All มอบให้นั้น จะตั้งอยู่ที่คีออสกาแฟ บริเวณเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง โดยมีนางนภารัตน์ รุ่งเรือง ประธานชมรมเพื่อคนพิการทางสติปัญญา จังหวัดนนทบุรี เป็นผู้ดูแล
ก่อนหน้านี้ นางนภารัตน์เข้าร่วมโครงการ Giving Space เปิดพื้นที่ สร้างโอกาส นำสินค้า เช่น สลัดโรลทำเอง จำหน่ายบริเวณหน้าร้าน 7-Eleven และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของงานส่งเสริมกิจกรรมสังคม ทั้งนี้ ชมรมเพื่อคนพิการทางสติปัญญา จังหวัดนนทบุรี ซึ่งนางนภารัตน์เป็นประธาน เป็นกลุ่มที่แข็งขัน และสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเป็นอย่างดี CP All จึงผลักดันสู่การพัฒนาอาชีพไปอีกขั้น “ขอบคุณทาง CP All ที่มาสอน มาให้ความรู้ถึงที่ เป็นโอกาสอันดีมาก เราไม่ต้องเสียเงินเป็นหมื่นๆ แสนๆ ไปลงเรียน แม้เดิมทีเราอาจไม่มีความรู้ด้านกาแฟมาก แต่เมื่อมีโอกาสก็ต้องรับไว้ เราไม่เลือกงานค่ะ อะไรที่ก่อให้เกิดรายได้เราทำหมด ยิ่งครอบครัวของเรามีผู้พิการด้วย
“สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเรามีรายได้เพิ่มคือ เรามีเงินออม มีชีวิตที่ดี มีอาหารการกินที่ดี และลูกของเราก็มีพัฒนาการ เราสามารถพาเขาไปหาหมอตามนัดได้ แต่เมื่อก่อนอาจไปบ้างไม่ไปบ้างด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจค่ะ”
ซัน บุตรชายของนางนภารัตน์ เป็นผู้เข้าร่วมอบรมการทำกาแฟ และจะเป็นบาริสต้าประจำคีออสกาแฟ เทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง แม้ว่าการเรียนทำกาแฟซึ่งมีรายละเอียดในแต่ละเมนูจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาก็ไม่หวั่น เปิดใจรับสิ่งใหม่เต็มที่ “ผมว่ายากหรือไม่อยู่ที่ใจเราคิดครับ ถ้าคิดว่าทำได้ เราก็ทำได้ ค่อยๆ เรียนรู้ ทำความเข้าใจ ก็ค่อยๆ ง่ายขึ้นครับ กาแฟเนี่ยใจร้อนไม่ได้ครับ
“หลังจากคุณแม่ทำอาชีพเสริมต่างๆ สภาพเศรษฐกิจในครอบครัวก็เปลี่ยน ดีกว่าเดิมเลยครับ แล้วน้องซึ่งเป็นผู้พิการก็ได้ช่วยคุณแม่ มีกิจกรรมหลากหลายทำ มีพัฒนาการ ไม่ใช่อยู่แต่ในบ้าน ได้เจอเพื่อน อย่างขายกาแฟนี่น้องก็สามารถมาช่วยผมขาย ช่วยหยิบนั่นหยิบนี่ได้ครับ”
ส่วนสมาชิกชมรมเพื่อคนพิการทางสติปัญญา จังหวัดนนทบุรี ผู้มารับการอบรมครั้งนี้แล้วเกิดสนใจอยากทำเป็นอาชีพ และมีทำเลเหมาะแก่การเปิดร้าน นางนภารัตน์จะช่วยส่งเสริมและประสานงานให้ เช่น การจัดหาอุปกรณ์ หรือจัดหางบประมาณต่างๆ
เมื่อผู้เข้าร่วมอบรมได้ความรู้กันครบถ้วนแล้ว ก็ถึงช่วงท้ายของงาน นายชาญ ทันธะศิริ รองผู้จัดการทั่วไปด้านพัฒนาบุคลากร บจก.ซีพี รีเทลลิงค์ กล่าวแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนในการต่อยอดและส่งมอบอาชีพ ซึ่งตรงกับปณิธานของบริษัทในการร่วมสร้างจิตสำนึกและจิตสาธารณะ
ปิดท้ายด้วย นายประสิทธิ์ ฉกาจธรรม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาความยั่งยืน กล่าวอวยพรแก่ผู้เข้าร่วม “การจัดโครงการกาแฟสร้างสุขสร้างโอกาส ครั้งที่ 3 นี้ เป็นครั้งที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นการจัดอย่างครบวงจร มีการให้ความรู้ และมีร้านที่จะดำเนินกิจการต่อจากนี้ หวังว่าความรู้ที่ได้รับในวันนี้จะเป็นประโยชน์ ผมได้พบกับท่านนภารัตน์ ประธานชมรมเพื่อคนพิการทางสติปัญญา จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่โครงการเปิดพื้นที่ สร้างโอกาส พบว่าท่านนภารัตน์มีนามสกุลที่ดีอย่างยิ่ง คือ ‘รุ่งเรือง’ จึงเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า นามสกุลนี้จะหนุนนำให้กิจการร้านกาแฟเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน”
หากไม่ย่อท้อ ความสำเร็จที่เฝ้ารอต้องมาถึงในวันหน้าจนได้