คุณหมอคะ หมอเขาบอกว่าเป็นโรคไตเรื้อรังอยู่ให้ดื่มกาแฟ เพราะกาแฟรักษาโรคไตเรื้อรังได้ จริงไหมคะ
ตอบ:
งานวิจัยกาแฟกับสุขภาพมีมาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก แต่ข้อมูลเท่าที่ได้ทุกวันนี้เป็นแค่ข้อมูลการตามดูกลุ่มคนสองกลุ่ม (cohort study) ที่มีนิสัยดื่มหรือไม่ดื่มกาแฟอยู่แล้ว และเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบกันโดยไม่มีการสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่ม ข้อมูลแบบนี้บอกได้เพียงความสัมพันธ์ระหว่างของสองอย่าง แต่ไม่อาจทราบได้ว่าของสองอย่างนั้นมีความเป็นเหตุเป็นผลต่อกันจริงหรือแค่พบร่วมกันเฉยๆ โดยไม่เกี่ยวอะไรกันเลย เรื่องกาแฟกับการเป็นโรคไตเรื้อรังก็เช่นเดียวกัน
งานวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อสองปีก่อน เป็นการวิจัยแบบ meta-analysis (การวิเคราะห์อภิมาน) โดยเอาข้อมูลจากงานวิจัยแบบ cohort 12 ฉบับที่ทำมาก่อนหน้านี้ มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 505,841 คนมาวิเคราะห์ พบว่าเมื่อเปรียบเทียบระหว่างการดื่มกาแฟมาก (วันละสองแก้วขึ้นไป) กับการดื่มกาแฟน้อย (วันละไม่เกินหนึ่งแก้ว) การดื่มกาแฟมากมีความเกี่ยวพันกับการเป็นโรคไตเรื้อรังน้อยลง ยิ่งดื่มมากยิ่งลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไตเรื้อรัง ทั้งยังเกี่ยวพันกับการเกิดโปรตีนรั่วในปัสสาวะ (albuminuria) น้อยลง และการบำบัดด้วยการล้างไตน้อยลงด้วย
ถามว่าจากข้อมูลงานวิจัยนี้ คนเป็นโรคไตเรื้อรังที่ยังไม่เคยดื่มกาแฟควรหันมาดื่มกาแฟไหม ตอบว่าตามใจท่านครับ เพราะข้อมูลแค่นี้ยังไม่มีน้ำหนักถึงขนาดว่าเป็นโรคไตเรื้อรังแล้วต้องดื่มกาแฟรักษา คุณชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้นไปก่อนก็แล้วกัน
ข้อดีอย่างอื่นของกาแฟนอกจากเรื่องโรคไตเรื้อรังแล้ว กาแฟ (ที่ไม่นับน้ำตาลและครีม) ยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกหลายด้าน เช่น
(1) การดื่มกาแฟมาก เกี่ยวพันกับการลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งในปาก หลอดอาหาร ลำคอ เต้านม เยื่อบุโพรงมดลูก ตับ และต่อมลูกหมาก
(2) การดื่มกาแฟ เกี่ยวพันกับการที่สมองสามารถทำงานในระยะสั้นได้ดีขึ้น ทั้งความเร็วในการสนองตอบ ความเร็วในการตัดสินใจเลือก การย้อนระลึกความจำชั่วคราวด้วยวาจา การใช้จินตนา การวิเคราะห์แก้ปัญหาเชิงสามมิติ (visuospatial reasoning)
(3) กาแฟเกี่ยวพันกับการเป็นสมองเสื่อมน้อยลง
(4) กาแฟเกี่ยวพันกับการเป็นเบาหวานน้อยลง
(5) กาแฟเกี่ยวพันกับการเป็นโรคพาร์คินสันน้อยลง
(6) คนดื่มกาแฟมีอายุยืนมากกว่าคนไม่ดื่ม
แต่กาแฟก็มีข้อเสีย เช่นเป็นสารเสพติด ทำให้บางคนนอนไม่หลับ บางคนใจสั่น
คอลัมน์: สุขภาพ
เรื่อง: นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์