การแต่งกายใส่เสื้อผ้าและใช้ผ้าประดับกายสามารถสื่อความหมายได้หลายอย่าง ที่อันตรายก็คือการสื่ออย่างมิได้ตั้งใจเพราะไร้เดียงสา ไม่รู้ความเป็นมาของสถานการณ์และสิ่งที่ตนเองแต่งหรือประดับร่างกาย จำได้ไหมว่าตอนศึกกีฬาสี (เสื้อเหลืองกับเสื้อแดง) กำลังร้อนแรงเมื่อหลายปีก่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกามาเยือนไทยและพูดว่าต้องเลือกสีเสื้อผ้าให้ถูกมิฉะนั้นจะเป็นปัญหา การเลือกข้างย่อมสร้างศัตรูอีกฝ่ายอย่างไม่จำเป็น ขณะนี้มีแฟชั่นประดับกายอย่างหนึ่งที่ต้องระวังหากเดินทางไปต่างประเทศ หรือแม้แต่อยู่ในบ้านเราเองก็เถอะ
เราเห็นคนอาหรับในหลายแห่งของตะวันออกกลางนิยมโพกผ้าพันศีรษะและปล่อยชายลงมาหรือใช้พันคอ วัสดุผ้าฝ้ายที่มีลายเป็นเส้นต่างๆ มักเป็นสีขาวลายแดงหรือขาวลายดำ ดังที่ฝรั่งเรียกว่า เคฟฟิเยห์ (keffiyeh) ซึ่งมีประวัติว่ามาจากพวกเบดูอิน (Bedouin) หรือชาวเผ่าที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายตั้งแต่บริเวณแอฟริกาตอนเหนือจนถึงตะวันออกกลางโดยไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งมานับพันปี ผ้าใช้ป้องกันความร้อนจากแสงแดด ทราย และฝุ่นเข้าตาได้เป็นอย่างดี
ต่อมา เคฟฟิเยห์ ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของหลายสิ่งโดยผู้คนหลากหลายกลุ่มในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ครั้งสำคัญเป็นเครื่องหมายของการเคลื่อนไหวปฏิรูปอิสลาม โดยนิกายซุนนี ซึ่งคำสอนนิกายนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณคริสตศตวรรษที่ 18 คนต่างประเทศเรียกขบวนการดังกล่าวว่าวาห์ฮาบิสม์ (Wahhabism)
เมื่อเกิดข้อขัดแย้งในตะวันออกกลางอันเป็นผลจากการตั้งรัฐอิสราเอลใน ค.ศ. 1948 กลุ่มผู้รักชาติปาเลสไตน์ที่ถูกกระทบโดยตรงก็ใช้เคฟฟิเยห์เป็นเครื่องหมายของความสามัคคี มีอุดมการณ์ร่วมกันในการต่อต้านการมีอยู่ของรัฐอิสราเอล
ตามปกติมีตารางเส้นดำหรือแดงอยู่บนผ้าสีขาว ผู้ซึ่งทำให้เคฟฟิเยห์เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกก็คือ ยัสเซอร์ อาราฟัต (Yasser Arafat) อดีตผู้นำกลุ่มปาเลสไตน์ซึ่งใช้ผ้าโพกศีรษะลายตาข่ายจับปลาขาวดำและปล่อยยาวลงมาถึงไหล่ เขาโพกผ้าไปทุกงาน ทุกสถานที่เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่งเดียวกัน คล้ายกับการชูสองนิ้วเป็นสัญลักษณ์ของการมุ่งสู่ชัยชนะ (victory) ของ วินสตัน เชอร์ชิลล์ ( Winston Churchill) นายกรัฐมนตรีอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
นับตั้งแต่เกิดสงครามฮามาส-อิสราเอล (Hamas-Israel) เมื่อตุลาคม 2023 เคฟฟิเยห์ลายตารางขาวดำได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและการต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์เพื่ออิสรภาพ กลุ่มฮามาสได้พยายามสนับสนุนชาวอาหรับและชาวโลกที่มิใช่อาหรับ มิใช่มุสลิม ใช้เคฟฟิเยห์ในโอกาสต่างๆ เพื่อแสดงออกซึ่งการสนับสนุน รวมถึงความเป็นเอกภาพของชาวปาเลสไตน์ทั้งมวล
สงครามทางจิตวิทยาของกลุ่มฮามาส เช่นนี้นับว่าแปลกใหม่และน่าสนใจ การมอบเคฟฟิเยห์เป็นของขวัญแก่เพื่อนต่างชาติพร้อมกับยืนยันว่าสามารถใช้ได้โดยไม่ผิดกฎกติกาหรือกฎหมาย ก่อให้เกิดแนวร่วมอย่างแนบเนียนและทำให้ผู้เห็นอกเห็นใจมีเครื่องมือในการแสดงออก
อันที่จริงมีการนำเคฟฟิเยห์มาใช้ในโลกแฟชั่นนานกว่า 40 ปีแล้ว แต่มิได้รับการตอบสนองอย่างกว้างขวางเพราะมันมีความหมายทางการเมืองแฝงอยู่ แต่ครั้งนี้สงครามจิตวิทยาของทั้งสองฝ่ายผ่านโลกโซเชียลมีเดียทั้งที่เป็นเรื่องจริงและเรื่องหลอกลวงดำเนินไปอย่างดุเดือดในทุกช่องทาง และการสนับสนุนให้ใช้เคฟฟิเยห์ลายตารางขาวดำครั้งนี้เป็นอีกเครื่องมือที่สำคัญ
ผู้เขียนชอบเคฟฟิเยห์โดยปราศจากการเลือกข้าง เพราะเห็นว่าสะดวกในการป้องกันแสงแดดและพันคอหน้าหนาวได้อย่างกะทัดรัด อีกทั้งมีหลายสีและหลายแพทเทิร์น ทหารอเมริกันก็ใช้ผ้าในลักษณะนี้แต่มีสีและลายที่แตกต่างไป ผู้เขียนสะสมไว้หลายผืนและใช้ในหลายโอกาส บทเรียนที่ได้ก็คือต้องใช้อย่างถูกกาลเทศะหากไม่ต้องการสื่อข้อความใดๆ ออกไป ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนผู้เขียนใช้เคฟฟิเยห์ลายขาวดำเป็นผ้าพันคอขณะไปญี่ปุ่นตอนหน้าหนาว สังเกตเห็นว่าคนญี่ปุ่นมองเราแปลกๆ แต่ก็มิได้สนใจ ครั้นกลับมาแล้วจึงนึกได้ว่า เคฟฟิเยห์เป็นเครื่องประดับกายของยัสเซอร์ ซึ่งถือกันว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มผู้ก่อการร้ายคนสำคัญ จึงคิดว่าเป็นไปได้ที่เขามองผู้เขียนด้วยความคลางแคลงใจ
การแต่งกายและการประดับกายจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ตัวเราเองได้ ในปัจจุบันถ้าผมไปเที่ยวบริเวณชายแดนไทยพม่าแถวแม่สอดหรือแม่สายที่มีการสู้รบกันอยู่ หรือแม้แต่ชายแดนกาญจนบุรี ผมก็จะไม่ใส่กางเกงหรือเสื้อลายพรางแบบทหารหรือใช้ผ้าพันคอแบบทหารเป็นอันขาด อย่าลืมว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จะสุ่มเสี่ยงไปทำไมในเรื่องที่เราไม่จำเป็นต้องเสี่ยง
คอลัมน์: สารบำรุงสมอง
เรื่อง: รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ